สังคม
‘เคนโด้’ แจงคลิปเก่า ‘ดิไอคอน’ ลั่นถ้าเอี่ยว โดนรวบนานแล้ว – ทนายยันมีหลักฐาน รับเงินคล้าย ‘บอสกันต์’
โดย nattachat_c
31 ต.ค. 2567
1 views
วานนี้ (30 ต.ค. 67) เคนโด้ เกรียงไกรมาศ พจนสุนทร เปิดเผยถึงกรณีที่ทนายความของบอสพอล บอกว่า บอสพอล ต้องการให้ดำเนินคดีกับ พิธีกร ค. ที่เคยเป็นพรีเซนเตอร์ให้ดิ ไอคอน กรุ๊ป มาก่อน และได้รับผลตอบแทนแบบเดียวกับบอสกันต์ แต่กลับไปเดินสายแฉดิ ไอคอน กรุ๊ป ในรายการต่าง ๆ
เคนโด้ กล่าวว่า ตนไม่แปลกใจที่โดนพาดพิงมา เพราะตนอยู่ในฝั่งตรงข้ามกับบอสพอล มาตั้งแต่ต้น เพราะพาผู้เสียหายมาแจ้งความ มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
และเมื่อ 2 วันก่อน ตนได้มาให้การกับตำรวจแล้ว นานกว่า 5-6 ชั่วโมง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และบอกเลยว่า ตนเป็นพยานปากเอกของคดีนี้ เพราะมีข้อมูลหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อคดี และคนที่เดือดร้อน ยืนยันว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดของ ดิ ไอคอน กรุ๊ป ถ้าตนเกี่ยวข้อง ต้องโดนตำรวจรวบไปแล้ว
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ตนเคยร่วมงานกับดิ ไอคอน กรุ๊ป จริง โดยภาพที่เกิดขึ้นเป็นปีแรก ๆ ช่วงปี 2562-2564 ที่ยังไม่เกิดความเสียหายขึ้น ตอนนั้น บอสพอลติดต่อให้ตนเข้าไปเป็นที่ปรึกษา ช่วยถอดบทเรียนจากเมจิกสกินที่ตนเป็นคนแฉ ว่าต้องทำธุรกิจแบบนี้ยังไงให้มันถูกต้อง ตนจึงเข้าไปเขียนธรรมาภิบาล และไปพูดรับรอง เพื่อให้ความรู้การทำธุรกิจออนไลน์ที่ถูกต้อง
แต่วันหนึ่ง รู้ว่าธุรกิจมันไม่ถูกต้องแล้ว ตนก็ไม่อยู่ต่อ เมื่อเห็นความผิดปกติ ตนเลยออกมาตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งกรณีของตนไม่ต่างจาก คุณธเนตร วงษา ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นบิดาแชร์ลูกโซ่ ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง การที่มีภาพกับบอสพอล ไม่ได้หมายความว่าผิด ต้องไปดูด้วยว่า ภาพนั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ คดีอาญาต้องดูกันที่เจตนา และตนมีหลักฐานแชทไลน์ทุกอย่าง ไม่เคยลบ ซึ่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว
สำหรับความผิดปกติที่ตนเห็นแล้วรู้สึกว่า บริษัทเริ่มทำไม่ถูกต้อง คือ ตนเคยบอกว่าไม่ให้ตัวแทนสต็อกสินค้ามากเกินไป แต่บริษัทก็ทำแบบนั้น และช่วงโควิดระบาด ตนก็บอกให้หยุดจัดประชุมสัมมนา แต่บริษัทก็ยังจัด จนมีคนติดโควิดเยอะมาก ตนจึงไม่พอใจ
อีกทั้ง บริษัทยังยืนยันจะจัดคาราวานรถหรูไปเขาใหญ่เพื่ออวดร่ำอวดรวย ในขณะที่โควิดกำลังระบาดหนัก มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก ดังนั้น เมื่อมิถุนายน 2564 ตนจึงติดต่อไปขอยุติสัญญาทันที เพราะรับไม่ได้ และมั่นใจว่าหากเริ่มมีการอวดร่ำอวดรวย บริษัทต้องพังแน่นอน
เคนโด้ ยืนยันว่า ตนไม่เคยได้รับเงินถึงหลักล้านตามที่ถูกกล่าวหา ตนได้รับเป็นเงินเดือนธรรมดา เหมือนกับคนทำงานทั่วไป ในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความถูกต้อง ซึ่งเงินเดือนผู้ประกาศที่ได้อยู่ตอนนี้เดือนละ 3 แสนบาท ยังเยอะมากกว่าเงินเดือนตอนนั้น และยืนยันไม่มีสัญญาการเป็นพรีเซนเตอร์ ทุกอย่างได้ให้การกับตำรวจไปหมดแล้ว
เมื่อถามถึงเรื่องผลประโยชน์ว่า ได้รับเท่ากับบอสกันต์จริงหรือไม่ เคนโด้ ตอบว่า ตนไม่รู้ว่าบอสกันต์ได้ผลประโยชน์เท่าไหร่ แต่ให้ไปดูงบการเงินของบริษัทได้ว่าปีหลังจากที่ตนออกมา กำไรพุ่งขึ้นมาก ถ้าตนต้องการผลประโยชน์จากบริษัทจริง ตนจะออกมาทำไม
โดยตนจะขอชี้แจงกับสื่อมวลชนทั้งหมดเพียงครั้งเดียว และจะไม่มีการพูดเรื่องนี้อีก โดยขอให้สู้กันด้วยกฎหมาย ไม่ใช่กฎหมู่ พร้อมฝากถึงทนายความคนดังกล่าวด้วย ตนไม่เคยเห็นทนายความคนไหนออกมาพูดกับสื่อว่า ไปพบผู้ต้องหาในเรือนจำ แล้วจะมาเด็ดหัวคนนั้นคนนี้รายวัน ซึ่งพฤติกรรมนี้เข้าข่ายความผิดอาญาฐานข่มขู่
ด้าน วิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ 'บอสพอล' เผยว่า กรณีพิธีกรเคนโด้ อยากจะดำเนินการฟ้องกลับหรือไม่เนื่องจากมีการเปิดเผยชื่อ ไม่เป็นไร ตนพูดไปตามพยานหลักฐาน ซึ่งตนได้รับมอบอำนาจจากบอสพอล ให้ดำเนินการแจ้งความผิดถูกอย่างไรให้ต่อสู้ตามกระบวนการ ถ้าคุณเคนโด้ผิดก็ว่าตามผิด ถ้าคุณเคนโด้ไม่ผิดพวกเราก็ไม่รอด
ก่อนหน้านี้เคนโด้ เคยรับเงินในฐานะพรีเซนเตอร์ปีละ 3 ล้านกว่าบาท ซึ่งมีลักษณะการรับเงินคล้ายกับ 'บอสกันต์' ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว เพียงแต่รายได้จะไม่เท่ากัน อีกทั้ง ยังได้ยอดเปอร์เซ็นต์ด้วย เพียงแต่ว่าช่วงที่เขาเข้ามาในบริษัทนั้น ยอดการขายยังน้อย ซึ่งตนมีพยานหลักฐานส่วนนี้หมด
ประเด็นที่เคนโด้ ตอบโต้ว่า ตอนที่เขาเข้ามาในบริษัทนั้น ความเสียหายยังไม่เกิดจึงเอาผิดไม่ได้ ตนมองว่าประเด็นนี้ไม่เกี่ยว เพราะผู้เสียหายที่เข้ามาแจ้งความก็ดำเนินคดีตั้งแต่บริษัทเปิดใหม่ ๆ
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/8Wxk9UOQD5U