สังคม

'พระมหาอุดร' รับรู้จัก 'บอสพอล' แจงเหตุโอนเงินทำบุญ เข้าบัญชีส่วนตัว ยันนำไปทำนุบำรุงวัด

โดย passamon_a

21 ต.ค. 2567

333 views

จากกรณีเพจ อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ โพสต์ภาพสลิปการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร ที่มีชื่อผู้โอน คือ บอสพอล วรัตน์พล โอนเข้าบัญชีส่วนตัวของ พระอุดร บุญชูหล้า โดยในสลิประบุว่าเป็นเงินทำบุญร่วมสร้างวัดสว่างน้ำใส อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น


โดยทางเพจ ระบุข้อความว่า “บอสพอลโอนเงินทำบุญเข้าบัญชีส่วนตัวให้พระมหาอุดร บุญชูหล้า แบบฉ่ำมาก โดยส่วนใหญ่จะโอนทีละ 200,000-600,000 บาท บางเดือนโอนไป 2-3 รอบ (สลิปแค่ส่วนหนึ่ง) ในระยะเวลาไม่กี่ปี บิ๊กบอสพอลโอนเงินบริจาครวม ๆ กว่า 12 ล้าน ผ่านพระรูปหนึ่ง โดยอ้างว่าทำบุญวัดสว่างน้ำใส แต่ไม่รู้ทำไม ทั้ง ๆ ที่วัดก็มีบัญชีวัดอยู่แล้ว แต่มักโอนเข้าผ่านพระรูปนี้ตลอดเลย แว่ว ๆ มาว่า พอลค่อนข้างสนิทมากซะด้วย มักจะทำแต่ที่นี่ประจำ ลองตรวจสอบดูอาจเจออะไรดี ๆ ..บอสปัน ก็เอากะเขาด้วยนะ..”


เมื่อวันที่ 20 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวไปที่วัดสว่างน้ำใส บ้านวังยาว หมู่ 5 ต.บ้านหัน อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น พบ พระมหาอุดร บุญชูหล้า อายุ 65 ปี ซึ่งเพิ่งเดินทางมาถึงวัดเมื่อช่วงเช้า เพราะปกติท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดใน กทม. และจะมาที่วัดสว่างน้ำใสหลังจากออกพรรษาทุกปี เพื่อมาดูแลแม่ที่อายุมาก มีบ้านอยู่ในหมู่บ้านวังยาว และตัวท่านเองก็เกิดที่บ้านวังยาวด้วย จึงกลับมาที่วัดสว่างน้ำใส นำเงินที่ญาติโยมทำบุญมาพัฒนาและทำนุบำรุงภายในวัดสว่างน้ำใส


พระมหาอุดร พาผู้สื่อข่าวเดินดูศาลาปฏิบัติธรรมสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ และ พระมหาเจดีย์พุทธมงคลวัดสว่างน้ำใส ซึ่งเป็นส่วนที่มีการก่อสร้างขึ้นมาเพิ่มเติม และเป็นจุดที่มีคลิปบอสพอล พาคณะมาทำบุญทอดกฐิน


พระมหาอุดร บอกว่า รู้จักบอสพอลครั้งแรกเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ขณะนั้นจำพรรษาอยู่ที่วัดใน กทม. บอสพอลมาทำบุญที่วัดเรื่อย ๆ เป็นเหมือนญาติโยมลูกศิษย์ทั่วไป ส่วนที่บอสพอลโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวไม่โอนเข้าบัญชีวัด เพราะจะได้นำไปทำบุญต่อได้สะดวกกว่าการใช้บัญชีวัด และไม่ได้มีเฉพาะบอสพอลที่โอนเข้าบัญชีส่วนตัว แต่ญาติโยมคนอื่น ๆ ที่ร่วมทำบุญก็โอนเข้าบัญชีส่วนตัวเช่นกัน แต่ยืนยันว่า ตนไม่ได้นำเงินไปใช้ส่วนตัว แต่จะนำไปทำนุบำรุงที่วัดสว่างน้ำใส ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิด ทั้งเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าภัตราหารสำหรับญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะช่วงที่มีงานบุญต่าง ๆ และยังนำมาสร้างสิ่งต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นในวัดด้วย ทั้งบ่อบาดาล 3 บ่อ บ่อละ 200,000 บาท ที่ต้องขุดเจาะลงไปลึก 150 เมตร เดินสายไฟ หอกระจายข่าว ถังประปา กุฎิที่ตนอยู่ ไม่ใช่ว่าใช้แต่เงินทำบุญของบอสพอลคนเดียว แต่มีเงินทำบุญของญาติโยมคนอื่น ๆ ด้วย


กรณีที่บอกว่าโอนเงินมาให้ปีละเป็นล้าน รวม ๆ 12 ล้านนั้น ยืนยันว่าไม่ถึง มีเพียงช่วงหลังโควิดเมื่อปี 64 ที่ทำบุญเข้ามาประมาณครั้งละ 200,000 - 600,000 บาท ก็จะนำไปใช้เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม และทุก ๆ อย่างในวัด แต่จะต้องดูแลเงินเองเพื่อการประหยัดงบประมาณ  


พระมหาอุดร บอกว่า ส่วนตัวไม่ทราบว่าบอสพอลทำธุรกิจอะไร เพราะไม่เคยบอก และพระจะไม่ยุ่งกับธุรกิจหรือครอบครัวของชาวบ้าน เพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ และไม่ถามญาติโยมว่าปัจจัยที่นำมาถวายนั้นบริสุทธิ์ไหม ถูกต้องไหม พระจะถามไม่ได้เด็ดขาด เพราะเป็นเรื่องมารยาทและคุณธรรม


ย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อนที่รู้จักกันตอนนั้น บอสพอลยังถือว่าไม่ได้รวย ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็คือยังจนอยู่ เป็นลูกศิษย์ที่นาน ๆ จะมาเจอกัน ไม่ได้เจอกันบ่อย ครั้งล่าสุดก็เจอกันปีที่แล้ว ที่มาทอดกฐินที่วัดสว่างน้ำใส ซึ่งเป็นปีเดียวที่บอสพอลมาพร้อมกับคณะหลายคน ส่วนปีนี้ ทีแรกบอกว่าจะมา แต่เมื่อ 2-3 เดือนก่อน บอกว่าไม่สามารถมาได้แล้ว จึงบอกบุญกับชาวบ้านญาติโยมมาร่วมกันทอดกฐิน ซึ่งครั้งที่บอสพอลมาทอดกฐินนั้น ได้เงินทำบุญ 1.3 ล้านบาท


พระมหาอุดร บอกว่า บอสพอลจะชอบให้คนอนุโมทนากับตัวเองที่ได้ทำบุญ จึงอาจจะมีการโพสต์สลิปเงินทำบุญที่โอนมาในบัญชีส่วนตัวของอาตมา ซึ่งเรื่องนี้ก็เคยบอกบอสพอลไปว่า คนรักมีน้อย คนเกลียดมีมาก อย่าทำเลย กระทั่งตอนนี้เรื่องมาถึงตนเอง ทางพระผู้ใหญ่และท่านเจ้าอาวาสก็ถามมาว่าจะทำอย่างไร ซึ่งอาตมาก็คิดเพียงว่า แล้วแต่บุญแต่กรรมที่ทำมา แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบอสพอลในทางคดี หรือทางธุรกิจแต่อย่างใด


ด้าน พระครูสิริสังวรธรรม เจ้าคณะอำเภอโนนศิลา และเจ้าอาวาสวัดสว่างน้ำใส กล่าวถึงกรณีบอสพอลโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของพระมหาอุดร โดยระบุว่า ปกติบอสพอลกับพระมหาอุดรนั้นรู้จักกัน มีการโอนเงินทำบุญเข้าบัญชีส่วนตัวของพระมหาอุดรเรื่อย ๆ ซึ่งไม่ทราบว่าโอนให้จำนวนเท่าไหร่บ้าง โดยพระมหาอุดรก็มาสร้างอะไรหลาย ๆ อย่างให้กับวัดสว่างน้ำใสแห่งนี้อยู่ตลอด เวลาที่บริษัทดิไอคอน เป็นเจ้าภาพร่วมทำบุญผ่านทางพระมหาอุดร ทางวัดก็ไม่ได้ติดใจหรือสงสัยว่าโอนเงินมาเท่าไหร่ เพราะเห็นว่ามีการก่อสร้างบูรณะซ่อมแซมอาคารสถานที่ต่าง ๆ ในวัดอยู่ตลอด ซึ่งทางวัดไม่ทราบเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง แต่ก็เห็นว่าออกบิลตามระเบียบ โดยพระมหาอุดรจะเป็นผู้รับผิดชอบพูดคุยตกลงกับทางช่างเอง และจะมาบอกกล่าวเจ้าอาวาสด้วยวาจา ว่ามีญาติโยมมาสร้างถวาย


ส่วนตัวพระมหาอุดร ไม่ใช่พระลูกวัดของวัดสว่างน้ำใส เพราะปกติพระมหาอุดรจะจำพรรษาที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ มากว่า 30 พรรษาแล้ว และจะมาพัฒนาที่วัดสว่างน้ำใส ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิด ดังนั้นเรื่องการโอนเงินทำบุญของบอสพอลเข้าบัญชีส่วนตัวพระมหาอุดร จึงไม่เกี่ยวกับวัดสว่างน้ำใสโดยตรง ดังนั้นพระมหาอุดรได้รับเงินโอนเข้าบัญชีเท่าไหร่ จึงไม่จำเป็นต้องมาชี้แจงกับวัดสว่างน้ำใส เพราะทางวัดเป็นเพียงเจ้าของสถานที่ ที่รับถวายจากเจ้าภาพ ผ่านทางพระมหาอุดร


ล่าสุด กฐินที่บอสพอลมาทอดถวาย 1.3 ล้านบาท ก็มีแผนจะนำมาสร้างฝ้าเพดานในศูนย์ปฏิบัติธรรมในวัด โดยทราบจากช่างว่ามีบริษัทใหญ่คอยอุปถัมป์พระมหาอุดรมาทำบุญด้วย แต่ตอนนั้นไม่ทราบว่าเป็นบริษัทอะไร กระทั่งพระมหาอุดรโทรศัพท์มาบอกขอยกเลิกกฐินจากเจ้าภาพก่อน จากนั้นจึงมาทราบภายหลังว่า เป็นกฐินจากบอสพอล เจ้าของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จึงเข้าใจเหตุผลว่าทำไมถึงยกเลิกไปจากข่าวที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/2np6VE8ttYE

แท็กที่เกี่ยวข้อง  พระมหาอุดร ,บอสพอล ,ดิไอคอน

คุณอาจสนใจ

Related News