สังคม

‘ทนายเดชา’ ฮึ่ม! เอาผิด ‘บอสพระ’ เทศน์เชียร์ ‘ดิไอคอน’ ลั่นเหล่าบอสสู้คดีก็ติดคุก หลักฐานชัด เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่

โดย petchpawee_k

14 ต.ค. 2567

248 views

ทนายเดชา เผยผู้บริหาร ดารา และบอสต่างๆ ถึงสู้คดี ก็ติดคุกอยู่ดี เพราะคดีแชร์ลูกโซ่ มีพยานหลักฐานชัดเจน แม้ไม่ได้เป็นผู้บริหารบริษัท แต่เป็นตัวการร่วม พร้อมแจง จ่อเอาผิด "บอสพระ" เทศน์เชียร์ดิไอคอน 

เมื่อวานนี้ (13 ต.ค.67) ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีธุรกิจเครือข่ายบริษัท THE iCON GROUP โดยระบุว่าล่าสุดพนักงานสอบสวน ชุดสืบสวน ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค , สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ร่วมกันทำงาน ขณะนี้มีการสอบพยานคืบหน้าไปมาก เชื่อว่าเร็วๆ นี้จะมีการแจ้งข้อกล่าวหา หรือหากไม่แจ้งข้อกล่าวหา อาจจะมีการยื่นต่อศาลเพื่ออกหมายจับเลยก็ได้ หรืออาจจะแจ้งข้อกล่าวหา แล้วพาตัวไปศาลเพื่อออกหมายขังเลยก็ได้


กรณีที่มีดาราและนักแสดงที่เกี่ยวข้อง ออกมาบอกว่าตนเองไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารของบริษัทนั้น ในส่วนนี้ ต้องบอกว่า ผู้ต้องหาทุกคนติดคุก ทั้งที่พนักงานสอบสวนไม่ได้ออกหมายเรียก ก็รีบมารายงานตัวพร้อมทนายความก่อน ดังนั้นคำพูดของคนเหล่านี้ไม่ต้องไปฟัง คดีนี้แม้จะมีสินค้าจริงก็เป็นแชร์ลูกโซ่ได้ เพราะที่ผ่านมามีคดีประเภทนี้มาก่อน การพิจารณาของศาลไม่ได้ดูว่าคุณมีสินค้าหรือไม่ แต่ดูจากพฤติกรรมว่าเป็นการระดมทุน หาคนหาเครือข่าย เพื่อให้ได้ผลตอบแทนหรือไม่ ถ้าเข้าหลักการก็ถือเป็นแชร์ลูกโซ่

ส่วนการที่ดารานักแสดงหลายคนที่เกี่ยวข้อง ออกมาบอกว่าไม่ได้เป็นผู้บริหารของบริษัทนั้น ในส่วนนี้การอ้างว่าไม่ได้เป็นเจ้าของ ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น ไม่ได้เป็นบอสนั้น ฟังไม่ขึ้น เพราะมีคำพิพากษาเก่าที่ศาลเคยตัดสินไว้ การอ้างแบบนี้ไม่สามารถหนีความผิดได้ เพราะคดีลักษณะนี้ดูการกระทำที่ผ่านมา ว่าที่ผ่านมามีการแบ่งหน้าที่กันทำหรือไม่ การไปยืนเรียงหน้ากันพูดเรื่องต่างๆ ชักชวนคนเข้ามาในธุรกิจ ก็มีโอกาสที่จะถูกแจ้งข้อกล่าวหา เพราะการกระทำจะเป็นตัวบอกว่าจะติดคุกหรือไม่ การยกมือไหว้ขอโทษ เช็ดน้ำตา ยืนยันว่าจะอยู่ข้างประชาชนในตอนนี้ มันช่วยอะไรไม่ได้ เพราะการกระทำความผิดมันสำเร็จไปแล้ว เนื่องจากพฤติกรรมที่ผ่านมาในโซเชียลมีเดีย มันจะมัดตัวกับสิ่งที่ได้ทำผ่านมา ความเห็นส่วนตัวเชื่อว่าคนเหล่านี้ไม่น่ารอด

จากประะสบการณ์ที่ผ่านมานับสิบปี ในคดีเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ จะพบว่าคดีแชร์ลูกโซ่โทษขั้นต่ำคือจำคุก 5 ปี โทษสูงสุดคือจำคุก 10 ปี ในความผิดที่ทำต่อบุคคล 1 คน ซึ่งขณะนี้จากการรวบรวมข้อมูลพบว่าช่วง 2- 3 วันที่ผ่านมา มีผู้เสียหายมากกว่า 1,000 คนแล้ว ที่ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 400-500 คนแล้ว ยังไม่รวมผู้เสียหายในต่างประเทศและต่างจังหวัดอีกจำนวนมาก

การที่ดารานักแสดงหลายคน รีบไปพบตำรวจก่อน ทั้งที่ยังไม่มีหมายเรียก ว่าที่ผู้ต้องหาเหล่านั้น เรียกว่าเป็น “อาการผวาคุก” คือกลัวการติดคุก แต่กระบวนการมันเพิ่งเริ่มต้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องมีการเรียกตัวเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา อาจจะแจ้งแล้วพาไปศาลเพื่อฝากขัง หรือแจ้งข้อกล่าวหาแล้วปล่อยตัว หรือจะไปยื่นกับศาลออกหมายจับเลยก็ได้

ดังนั้นอยากฝากศิลปิน ดารา คนมีชื่อเสียงว่า อย่าลืมว่าสิ่งที่ทำให้คนเหล่านั้นมีเงินทองมีชื่อเสียง เพราะศรัทธาของประชาชน ดังนั้นอย่าทรยศกับศรัทธาของประชาชน อย่าเห็นแก่เงินมากกว่าศรัทธาของประชาชน ต้องคำนึงเสมอว่าตัวพวกคุณดังได้เพราะศรัทธาของประชาชน อย่ามาหากินบนความเดือนร้อนของประชาชน

จากประสบการณ์ที่ทำงานทนายมานับสิบปี เกี่ยวกับคดีแชร์ลูกโซ่ จะพบว่าผู้ต้องหาในคดีนี้ มีเงินเยอะ จะใช้เงินมากมายจ้างทนายความสู้คดี คนพวกนี้มักจะไม่มีสำนึกและจะจ้างทนายสู้คดีจนถึงที่สุด แต่สุดท้ายศาลจะสั่งจำคุก 20 ปี เท่าที่ทำคดีมา ไม่มีคดีไหนที่รอด ตั้งแต่ทำคดีมา เคยมีรอดแค่คดีเดียว รอดจากการติดคุกเพียง 1 คนเท่านั้น เพราะไม่เกี่ยวข้องจริงๆ ดังนั้นต้องบอกว่าเลยว่าคดีแชร์ลูกโซ่ผู้ที่เกี่ยวข้องจะติดคุกหมด เมื่อถูกแจ้งข้อกล่าวหา จะถูกค้านการประกันตัว คนพวกนี้ก็จะอยู่ในคุกยาว ดังนั้นพวกดารานักร้องคนดัง ถ้าผิดจริงขอให้รับสารภาพ ถ้าสู้คดีก็ใช้เงินทองมหาศาล แต่สุดท้ายต้องติดคุกอยู่ดี  


นอกจากนี้ ทนายเดชา ยังได้ไลฟ์สดผ่านเพจทนายคลายทุกข์ ถึ โดยประกาศว่า จะเอาผิดดิไอคอนให้ถึงที่สุด กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสนับสนุนให้ประชาชนหลงเชื่อ ไม่ว่าจะเป็น ดาราพรีเซ็นเตอร์ บอสต่างๆ ของดิ ไอคอน รวมไปถึงรายการต่างๆ ที่บอสของดิ ไอคอน ได้ไปออกรายการสร้างความน่าเชื่อถือ


ไม่เว้นแม้แต่ “พระบอส” ที่เข้าไปเทศน์ในบริษัท ดิ ไอคอน จนเป็นที่ฮือฮาว่า “ถ้าอยากรวยภายในวันเดียวต้องดิ ไอคอน” ประโยคนี้สั่นสะเทือน ไปถึงหัวใจของทนายเดชา  ถ้าไม่มีใครเอาผิด ตนจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับพระบอสเอง ต่อให้เป็นพระใหญ่ระดับท่านเจ้าคุณก็เถอะ


ทนายเดชา ยังระบุว่า ตอนนี้จำนวนผู้เสียหายเกินกว่า 300 รายแล้ว ความเสียหายมากกว่า 100 ล้านขึ้นไป ก็เข้าข่ายที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ สามารถนำไปทำเป็นคดีพิเศษได้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาและความพร้อมของดีเอสไอ และขึ้นกับว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับดีเอสไอก็กำลังหารือกันอยู่  


ซึ่งตอนนี้ก็มีกลุ่มแรกที่ต้องถูกดำเนินคดี คือระดับบอส 6 คน และชุดต่อมาน่าจะเป็นกลุ่มแม่ข่าย ประมาณ 20 คน โดยเฉพาะพวกที่ได้รับรางวัลจากการไปขายของหรือชักชวนคนอื่นมาร่วมลงทุน รวมทั้งบอสพระด้วย ซึ่งตนมองว่าไม่เหมาะสมกับความเป็นพระ


ทนายเดชา ยังขอให้ผู้เสียหายแจ้งข้อมูลเข้ามาทางเพจทนายคลายทุกข์ ว่าใครเป็นแม่ข่าย และผู้เสียหายได้รับความเสียหายเท่าไหร่ เพื่อจะรวบรวมพยานหลักฐานไปแจ้งความดำเนินคดี


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/QxDvSqdmPHw


คุณอาจสนใจ

Related News