สังคม
ยึดรถบัส 5 คันโผล่โคราช หนีตรวจสอบ แอบถอดถังแก๊ส เบื้องต้นแจ้ง 1 ข้อหา ‘เจ้าของบัสมรณะ’
โดย petchpawee_k
4 ต.ค. 2567
26 views
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เผย รถบัสบริษัทที่ไฟไหม้ 5 คัน ไม่ไปตามนัดตรวจสภาพที่ขนส่งลพบุรี ก่อนตรวจพบ GPS ไปโผล่ที่อู่แห่งหนึ่งในโคราช ระบุ รถติดก๊าซทั้ง 5 คัน ขณะพบถอดถังก๊าซเสร็จเกือบหมดแล้ว สั่งระงับพร้อมแจ้งตำรวจดำเนินการ ล่าสุด ขนส่งโคราช นำไปตรวจสภาพ พบ รถบัสทุกคันมีจำนวนถังก๊าซมากกว่าที่ขอจดทะเบียนไว้
กรณีรถบัสทัศนศึกษานักเรียนโรงเรียน จ.อุทัยธานี เกิดไฟไหม้ ส่งผลให้มีครูและนักเรียนเสียชีวิตรวม 23 ราย ซึ่งจากการพิสูจน์หลักฐานเบื้องต้น พบการตรวจสอบเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบก๊าซ NGV ขณะเกิดเหตุพบว่ามีการติดตั้งถังก๊าซ 11 ถัง แต่มีการจดทะเบียนในหนังสือรับรอง 6 ถัง ส่วน 5 ถังติดตั้งเพิ่มเติมเอง
โดยวานนี้ (3 ต.ค.67) เวลา 14.00 น. เป็นเวลานัดหมายให้เจ้าของบริษัทรถบัสชินบุตร นำรถบัสในเครือที่เหลือ 5 คันมาตรวจสภาพที่ขนส่ง จ.ลพบุรี เนื่องจากว่าความพร้อมและอุปกรณ์มีมากกว่า ขนส่ง จ.สิงห์บุรี
โดยเมื่อผู้สื่อข่าว ทราบว่ามีการนัดหมายดังกล่าวจึงไปปักหลักที่ขนส่ง จ.ลพบุรี จนเวลาล่วงเลยไป จึงได้สอบถามไปโดยผู้ประกอบการแจ้งว่ารถได้ไปตรวจสภาพในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาแล้ว สร้างความเคลือบแคลงสงสัยให้กับผู้สื่อข่าวหลายสำนักที่ตั้งตารอกว่า 3 ชม. จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการเคลื่อนย้ายรถไปปลดถังก๊าซที่เกินจำนวนออกจากตัวรถหรือไม่
ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงสาเหตุที่รถของ คุณปานิศรา ชินบุตร คันที่ 2 และในเครือรวม 5 คัน เหตุใดยังไม่มาตรวจสภาพ แต่นางอัจฉรา นิสัยสัตย์ ขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี รักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดลพบุรี ระบุว่า ไม่ทราบเหตุผลเช่นกัน
ต่อมาทีมข่าวได้ข้อมูล จากแหล่งข่าวทราบว่าตรวจพบ GPS ของรถบัสของบริษัทเดียวกับคันที่เกิดเหตุ จำนวน 4-5 คัน อยู่ในพื้นที่จังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน และได้ทราบว่าได้มีการอายัดรถทั้งหมดจากอู่แห่งหนึ่ง พร้อมเตรียมนำรถทั้งหมดเข้าตรวจสอบที่ขนส่งจังหวัดนครราชสีมาแล้ว
กระทั่งเวลา 16.50 น. ที่กระทรวงคมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก แถลงความคืบหน้ากรณีดังกล่าว
โดยนายจิรุตม์ กล่าวว่า ตามที่มีการแจ้งไปแล้วว่ารถบัสคันเกิดเหตุ มีการติดตั้งถังก๊าซรวม 11 ถัง โดยขึ้นทะเบียน 6 ถัง และติดตั้งเพิ่มอีก 5 ถัง จากนั้นทางกรมฯ จึงมอบให้ขนส่ง จ.สิงห์บุรี เนื่องจากรถคันดังกล่าวจดทะเบียนอยู่ในขนส่ง จ.สิงห์บุรี โดยให้เรียกรถที่อยู่ในใบอนุญาตประกอบการและรถในเครือข่าย โดยทราบว่า เจ้าของรถคันเกิดเหตุมีรถบัส 2 คันรวมคันเกิดเหตุ
ส่วน 4 คันที่เหลือเป็นของเครือญาติ ดังนั้น รถอีก 5 คันต้องเข้ามาขนส่ง จ.สิงห์บุรีเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในทันที แต่จะใช้พื้นที่ในขนส่ง จ.ลพบุรีเนื่องจากว่าอุปกรณ์มีความพร้อมมากกว่า โดยวัตถุประสงค์ที่ต้องเรียกมาตรวจเนื่องจากว่าหากเป็นรถที่ไม่ถูกต้องตามการกฎหมายตามการจดทะเบียน เกรงว่าหากนำไปรับจ้างต่อไป หวังว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน แต่ปรากฏว่าเจ้าของรถได้ขอผ่อนผันในการนำรถมาตรวจ ถึงช่วงบ่ายวานนี้ (3 ต.ค.67) ตามการนัดหมาย ไม่มีรถเข้ามายังขนส่ง
เจ้าหน้าที่ขนส่งส่วนกลางจึงตรวจสอบระบบ GPS จนพบว่า รถทั้ง 5 คันไปโผล่ที่อู่แห่งหนึ่ง ใน จ.นครราชสีมา ซึ่งได้ถอดถังก๊าซออก นั่นหมายความว่า ยังคงมีถังก๊าซที่ติดตั้งเกินอยู่ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ขนส่งไปพบ และได้อายัดรถไว้ ก่อนแจ้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปดำเนินการตรวจสอบและดำเนินคดี
ทีมข่าวได้ภาพจากเจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมนาทีที่เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกไปเจอรถบัสทั้ง 5 คัน กำลังจอดอยู่ในอู่แห่งหนึ่ง จากภาพจะเห็นว่าบางคันถอดถังก๊าซออกหมดแล้ว จนที่วางถังก๊าซบนรถบัสเป็นช่องว่าง
ส่วนพฤติการณ์ขณะไปเจอรถบัสทั้ง 5 คัน ที่ จ.นครราชสีมานั้น อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า เบื้องต้นคือกำลังถอดถังก๊าซออก นั่นหมายความว่าเป็นพฤติการณ์ที่เจตนาจะดำเนินการไม่เป็นไปตามกฎหมาย
ช่วงท้ายนักข่าวถามเพิ่มเติมว่า ทั้ง 5 คัน ติดตั้งก๊าซทั้ง 5 คนเลยหรือไม่ ตอนที่ไปเจอกำลังถอด หรือถอดหมดแล้ว อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ระบุว่า “ทั้ง 5 คันติดก๊าซทั้งหมด ซึ่งตนได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่าถอดถังก๊าซเสร็จหมดแล้ว“
ส่วนบรรยากาศที่จังหวัดนครราชสีมา หลังมีข้อมูลว่ารถบัสทั้งห้าคันแอบไปถอดถังก๊าซออกที่อู่แห่งหนึ่งนั้น ในช่วงเย็นทีมขาวลงพื้นที่ พบว่ารถบัสทั้ง 5 คันได้ถูกย้ายไปตรวจสภาพที่ขนส่งจังหวัดนครราชสีมาแล้ว
ทีมข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังขนส่งจังหวัดนครราชสีมาเบื้องต้นพบรถทั้ง 5 คัน บางคันอยู่ในสภาพที่ถังก๊าซถูกถอดออกหมดแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาได้รับการประสานงานจากกรมการขนส่งให้ติดตามรถบัสนำเที่ยวของชินบุตรทัวร์ ที่มีบริษัท ชินบุตร เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเจ้าของ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่พบความผิดปกติ คือ จำนวนถังก๊าซ CNG ของรถบัสทั้ง 5 คันที่แจ้งจดทะเบียนไว้กับทางขนส่งนั้น ไม่ตรงกับข้อมูลที่ขอจดทะเบียนเอาไว้ อย่างเช่น รถบัสบางคันแจ้งจดทะเบียนถังก๊าซไว้ 2 ถัง แต่จากการตรวจสอบกลับพบว่า ในรถบัสมีจำนวนถังก๊าซมากถึง 11 ถัง ซึ่งรถบัสทั้ง 5 คันมีจำนวนถังก๊าซไม่ตรงกับที่จดทะเบียนเอาไว้เลยสักคันเดียว
และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสภาพรถทราบว่า การที่จำนวนถังก๊าซไม่ตรงกับที่จดทะเบียนไว้ จะมีผลต่อน้ำหนักของรถ ซึ่งการที่บริษัทรถเพิ่มจำนวนถังก๊าซ แต่ไม่ยอมลดจำนวนที่นั่งโดยสารถือเป็นความผิด นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่า รถบัสบางคันมีร่องรอยเพิ่งถอดถังก๊าซออกไปก่อนหน้านี้ แต่ยังถอดไม่เสร็จ ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดนครราชสีมาไปทำการตรวจยึดไว้ได้ก่อนดังกล่าว
ขณะที่เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายช่างตรวจสภาพรถชำนาญงาน และนายช่างตรวจสภาพรถชำนาญงาน 2 ข้าราชการที่สำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี ที่เซ็นปล่อยให้รถบัสออกมาวิ่งใช้งาน เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.คูคต โดยไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน โดยมีเจ้าหน้าที่จากป.ป.ท. เข้าร่วมสอบปากคำด้วย
ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถาม พันตำรวจเอก กานตภณ วรรณา ผู้กำกับการ สภ.คูคต ให้ข้อมูลสั้นๆ ว่า เนื่องจากเป็นความผิดของทางเจ้าหน้าที่รัฐ ส่งผลต่อภาครัฐจึงจำเป็นต้องมีหน่วยงานปปท. มาร่วมสอบปากคำด้วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่าโดยหลังให้ข้อมูลเสร็จ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบถามนานกว่า 6 ชั่วโมง ทางด้าน 2 นายช่างตรวจสภาพรถชำนาญงาน ได้เดินทางลงมาก่อนที่จะรีบเดินทางออกไปจากโรงพักทันที โดยหนึ่งในนั้นได้กล่าวแสดงความเสียใจ และพูดว่า การตรวจสภาพรถเป็นด้วยความเรียบร้อยถูกต้องไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องที่มีการติดถังแก๊สเกินกว่าที่ขอไปนั้นไม่ข้อพูด ส่วนอีกคนได้วิ่งหนีสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวโดนไม่มีการพูดอะไรแม้แต่คำเดียว
ขณะที่นางสาวปาณิสรา ชินบุตร เจ้าของรถบัสคันที่เกิดเหตุ ได้เดินทางมาพร้อมทนายความ เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยใช้เวลาสอบสวนนานกว่า 4 ชั่วโมง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้แจ้งข้อกล่าวหา “กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหาอื่นๆ จะแจ้งให้ทราบในภายหลัง
จากนั้นผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหาและปล่อยตัวกลับพร้อมกับทนาย ส่วนในข้อหาอื่นกำลังอยู่ระหว่างเร่งรัดจากการตรวจสอบสภาพรถและรายละเอียดอื่นๆ เพื่อที่จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/4A43slUmTtw
แท็กที่เกี่ยวข้อง ไฟไหม้รถบัส ,ถอดถังแก๊ส ,แจ้งข้อหา ,ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา