สังคม

พายุถล่มนครพนม ต้นไม้ใหญ่ริมโขงหักโค่นทับเก๋ง เจ้าของรถรอดหวุดหวิด

โดย chalanthorn_l

6 ก.ย. 2567

961 views

6 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ได้เกิดพายุฝนตกหนัก รวมถึงมีพายุหมุน ฝนฟ้าคะนอง ผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่น ยางิ ที่เคลื่อนตัวผ่านมาทาง ประเทศเวียดนาม สปป.ลาว ทำให้พื้นที่อีสานตอนบน รวมถึง จ.นครพนม ได้รับผลกระทบ จนเกิดพายุฝนตกหนัก และเกิดพายุหมุน นานกว่า 30 นาที ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ ที่อยู่ในพื้นที่ถนนสุนทรวิจิตร เลียบแม่น้ำโขง ในเขตเทสบาลเมืองนครพนม อายุเกือบ 100 ปี หักโค่นหลายต้น นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ขนาดใหญ่ หักโค่นทับรถยนต์เก๋งประชาชน ที่จอดไว้ริมถนน เยื้องสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครพนม โชคดี ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต


ผู้ประสบเหตุคือ น.ส.กฤษณา อายุ 43 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น เล่าว่า ตนขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส ซึ่งยืมจากญาติมาจากเชียงใหม่ เพื่อมาเยี่ยมย่าทวดที่อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ระหว่างที่จอดรถเพื่อส่งแฟนไปซื้อของในตัวเมือง น.ส.กฤษณาได้จอดรถใต้ต้นไม้ใหญ่ และยืนโทรศัพท์ริมฝั่งโขง ก่อนที่ท้องฟ้าจะมืดครึ้มและพายุฝนฟ้าคะนองจะพัดกระหน่ำ เธอจึงรีบวิ่งขึ้นไปในรถเพื่อหลบพายุ แต่ไม่นานนักได้ยินเสียงต้นไม้หักโค่นทับตัวรถ โคนต้นไม้ล้มลงกึ่งกลางระหว่างเบาะคนขับและเบาะผู้โดยสาร ทำให้หลังคารถยุบและกระจกแตก โชคดีที่เธอรอดตายหวุดหวิด จากนั้นมีพลเมืองดี 2 คนมาช่วยเหลือเธอออกจากรถ

นี่เป็นครั้งที่สองที่ น.ส.กฤษณา รอดตายหวุดหวิด ก่อนหน้านี้เธอเคยประสบอุบัติเหตุรถแหกโค้งที่จังหวัดแพร่เมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่บาดเจ็บเลย เธอเชื่อว่าการทำบุญช่วยเหลือพ่อแม่ และสัตว์จรจัดอาจเป็นเหตุให้เธอรอดตายได้อีกครั้ง

นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม สั่งการให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองนครพนม เข้าปิดกั้นการจราจรบริเวณถนนสุนทรวิจิตรและนำรถกระเช้าพร้อมเลื่อยยนต์เข้ามาตัดกิ่งและเก็บต้นไม้ที่โค่น ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงสามารถเคลียร์พื้นที่ได้เสร็จสิ้น


ด้านเทศบาลเมืองนครพนม ได้ระดมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบ ให้การช่วยเหลือ เคลียร์พื้นที่ ตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ ที่กีดขวาวงการจราจร ส่วนระดับน้ำโขงลดลงต่อเนื่อง วันละ 10 - 20 เซนติเมตร ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 9.50 เมตร พ้นจุดวิกฤติล้นตลิ่ง คือ ที่ 13 เมตร คาดว่า ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกจำนวนมาก หากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง รวมถึงหากมีมวลน้ำจากภาคเหนือไหลมาสมทบ แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังเตรียมพร้อม 24 ชั่วโมง ในพื้นที่เสี่ยง อำเภอชายแดนติดแม่น้ำโขง มี อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน อ.เมือง และ อ.ธาตุพนม เนื่องจากช่วงนี้ลำน้ำสาขาสายหลัก ยังไหลระบายลงน้ำโขงช้า บางพื้นที่มีปริมาณเกินความจุเสี่ยงเกิดปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน หากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน จะทำให้มวลน้ำจากหลายพื้นที่ไม่สามารถไหลระบายลงน้ำโขงได้ทัน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  พายุยางิ ,ต้นไม้ทับรถ

คุณอาจสนใจ

Related News