หนุ่มสุดสะเทือนใจ มือดีวางยาควายยกคอก 43 ตัว ถามคนทำจิตใจทำด้วยอะไร

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งประกอบอาชีพเลี้ยงควาย โพสต์ภาพพร้อมข้อความสุดสะเทือนใจ หลังมีคนแอบวางยาควายที่เลี้ยงไว้ทั้งฝูง โดยใส่ในอ่างน้ำที่ควายกิน โดยข้อความระบุว่า "เป็นการสูญเสียที่ใหญ่ที่สุดสำหรับครอบครัวผม ผมเกิดมากับควาย โตมากับควาย จิตใจมึงทำด้วยอะไร ทำไมมึงถึงโหดเหี้ยมอำมหิตขนาดนี้ ถ้ามึงเกลียดพวกกู มึงทำใมไม่ทำกับพวกกู มึงเอายาไปใส่ให้ควายกินทำไม มึงมันไม่ใช่คนแล้ว มึงมันยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานอีก ถ้าเวรกรรมมีจริงกับ 43 ชีวิต ที่มึงทำ #ขอให้ครอบครัวมึงและตัวมึง ร้อนรนทุรนทุรายเหมือนกับที่มึงทำกับควายภายใน 7 วัน 8 วัน ด้วยเทอญสาธุ"

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านสวนขวัญ พื้นที่หมู่ 13 ตำบลตลุกดู่ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี พบกับ นายปฏิญญา อายุ 30 ปี เจ้าของควายและเป็นผู้โพสต์ดังกล่าว ได้พาไปดูคอกควายที่ล้อมด้วยลวดหนาม เนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินทำกิน ( สปก. ) เลี้ยงควายไว้จำนวน 43 ตัว มีทั้งควายเนื้อ ควายแม่ลูกอ่อน และควายกำลังท้องแก่ รวมอยู่ในฝูงเดียวกัน พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 16.00 น. ซึ่งวันนั้นตนเองและครอบครัวไปร่วมงานศพที่วัด มีเพียงแม่ของตนเองที่อยู่บ้าน และเป็นผู้เห็นเหตุการณ์

ซึ่งวันนั้น แม่เป็นคนมาเปลี่ยนน้ำในอ่างน้ำให้ควายกิน จนมาเห็นว่ามีเม็ดยาฟูราดาน (ยาฆ่าแมลง) อยู่ในก้นอ่างน้ำด้วยกัน 3 อ่าง ด้วยความตกใจ แม่ก็รีบเทน้ำออกหมด เพราะกลัวควายจะไปกินเพิ่ม พอกลับมาก็เห็นว่า มีควายอยู่หลายตัวที่มีอาการซึม น้ำลายยืด จึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ตลุกดู่ ก่อนตัดสินใจประกาศขายควายออกทั้งคอก เพราะกังวลว่าจะถูกวางยาซ้ำอีก ซึ่งหลังจากที่ประกาศขาย ก็มีพ่อค้าควายมาติดต่อซื้อไปยกคอก ในราคา 650,000 บาท ซึ่งจากปกติแล้ว มูลค่าควายทั้งคอกนั้นมากกว่า 1 ล้านบาท แต่ต้องยอมตัดใจขายและยอมขาดทุนไปเกือบครึ่งล้านบาท เพราะถ้าหากโดนวางยาซ้ำอีก ก็จะถึงขั้นหมดตัว

นายปฏิญญา กล่าวว่า อยากฝากและขอสาปแช่งถึงคนที่วางควาย ขอให้เจอเหมือนกับที่ทำกับควาย เพราะตนเองสงสารควายมาก โดยเฉพาะแม่ ที่ตอนนี้สภาพจิตใจแย่มาก ซึมเศร้าลงและไม่ค่อยพูด เพราะความผูกพันที่ทำอาชีพเลี้ยงควายกันมานานกว่า 50 ปี ซึ่งควายทั้งหมดนั้น มีทั้งลูกควาย พ่อควาย แม่ควายที่กำลังตั้งท้องอยู่หลาย 10 ตัว ไม่คิดว่าคนที่ทำจะจิตใจโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้ ส่วนตัวก็พอคาดเดาได้ว่าใครเป็นคนทำ แต่ไม่มีหลักฐานจึงทำอะไรไม่ได้ หากเป็นไปได้ ก็อยากให้ตำรวจช่วยหาทางติดตามดำเนินคดีให้ด้วย