ศาลฝรั่งเศส สั่งจำคุก 20 ปี สามีฝรั่งเศสวางยาภรรยา ให้ชายอื่นข่มขืนร่วม 10 ปี

ศาลเมืองอาวีญง ของฝรั่งเศสได้มีคำพิพากษา ลงโทษจำคุก นายโดมินิก เปลิคอต ชายชาวฝรั่งเศส อายุ 72 ปี  เป็นเวลา 20 ปี ฐานกระทำผิดในคดีวางยานางจีเซล เปลิคอต ภรรยาวัย 72 ปีของเขาในขณะนั้น เพื่อให้ชายแปลกหน้ามากกว่า 50 คนข่มขืนภรรยาตนเองนับสิบปี  

ตัวของนายเปลิคอต เป็นหนึ่งในจำเลยทั้งหมด 51 คนในคดีนี้ที่ถูกศาลเมืองอาวีญง ตัดสินว่ามีความผิดในคดีวางยาและข่มขืนนางจีเซล โดยคณะผู้พิพากษาทั้ง 5 คน พิพากษาโทษจำคุกสูงสุดเป็นเวลา 20 ปีต่อนายเปลิคอตตามคำร้องของอัยการ นอกจากนี้จำเลยคนอื่นๆ ได้รับโทษจำคุกระหว่าง 3-15 ปี ซึ่งน้อยกว่าที่อัยการร้องขอต่อศาล

ทั้งนี้ นายเปลิคอตได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาในการพิจารณาคดีนี้ที่ดำเนินมานาน 3 เดือน และเขาได้กล่าวขอโทษต่อครอบครัวของตนเองด้วย นอกจากนี้เขายังบอกด้วยว่าชายแปลกหน้าที่เขาเชิญเข้ามาในบ้านรู้ว่าอดีตภรรยาของเขาตอนนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ

ในระหว่างการให้การ นายเปลิคอต ปฏิเสธว่าไม่ได้ให้ข้อมูลเท็จแก่บรรดาชาย ซึ่งเขาพบทางออนไลน์ โดยบอกว่าพวกเขารู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ และย้ำว่า “ผมก็เป็นนักข่มขืนเหมือนกับคนอื่นๆ ในห้องนี้” อย่างไรก็ตาม จำเลยคนอื่นๆ ที่ถูกกล่าวหาหลายคนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าพวกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องเซ็กซ์ที่คู่สามีภรรยาทำขึ้นด้วยความยินยอม และโต้แย้งว่ามันไม่ใช่การข่มขืนเมื่อสามีเห็นชอบ

ทั้งนี้ คดีดังกล่าวถือว่า เป็นคดีสะเทือนขวัญช็อกโลก และยังทำให้นางเปลิโคต์กลายเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและเป็นฮีโร่ของกลุ่มเฟมินิสต์จากการกล้าลุกขึ้นต่อสู้กับผู้กระทำต่อเธอ ซึ่งนางจีเซล ยังได้สละสิทธิในการไม่เปิดเผยตัวตนของเธอในระหว่างการพิจารณาคดีด้วย และเรียกร้องให้เปิดวิดีโอที่สามีของเธอได้บันทึกขณะที่กลุ่มชายข่มขืนเธอได้  โดยกล่าวว่าเธอหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยกระตุ้นให้ผู้หญิงคนอื่นกล้าออกมาพูด

คดีนี้ยังได้จุดชนวนให้เกิดการประท้วงทั่วฝรั่งเศสเพื่อสนับสนุนจีเซล และกระตุ้นให้เกิดการถกเถียงว่าควรจะปรับปรุงกฎหมายข่มขืนของฝรั่งเศสหรือไม่  ซึ่งหลังศาลอ่านคำพิพากษา บรรดา นักเคลื่อนไหวหลายคนที่ยืนอยู่หน้าศาลตะโกนว่าพวกเขาต้องการให้นายเปลิคอตได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต

นางมูเรียล ทริเชต์ อายุ 50 ปี กล่าวว่า "ฉันผิดหวังมาก ผิดหวังมาก ฉันไม่รู้ว่าคาดหวังอะไรจากคำตัดสินนี้ในตอนแรก ฉันพยายามไม่คาดหวังมากเกินไปกับเรื่องนี้ แต่ฉันยังคงคาดหวังว่าในที่สุดฝรั่งเศสจะพิจารณาเรื่องการข่มขืน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับผู้หญิง และอันที่จริง คำตัดสินนี้คือข้อความที่ส่งออกไปก็คือ ฝรั่งเศสไม่สนใจใดๆ ฝรั่งเศสไม่สนใจเหยื่อ ฝรั่งเศสไม่สนใจว่าพวกเธอจะถูกข่มขืน"