เจ้าของบ้านสุดงง ปล่อยบ้านร้าง 2 ปี ไปขอต่อมิเตอร์ใหม่ เจอค่าไฟกว่า 4 หมื่นบาท

ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก นางปิยวรรณ อายุ 56 ปี เจ้าของบ้านพัก ในพื้นที่หมู่4 ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากถูกการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเมืองสุราษฎร์ธานี บังคับให้หาเงินมาจ่ายค่าไฟฟ้า รวมทั้งสิ้น 43,000 บาท

โดย นางปิยวรรณ เล่าว่า ย้อนหลังไปเมื่อ 2 ปีก่อน บ้านหลังนี้ตนได้ให้คนเข้ามาเช่า แต่หลังจากนั้นผู้ที่เช่าก็ได้คืนบ้านให้ตน ซึ่งตนได้ปล่อยร้างมาตั้งแต่ตอนนั้น และมีค่าไฟค้างชำระประมาณ 100 บาท แต่ตนไม่ได้ติดต่อจ่ายจนถูกการไฟฟ้ามายกมิเตอร์ไฟฟ้าไป จนกระทั่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลานสาวจะมาเรียนที่ในตัวเมืองสุราษฎร์ อยากขอเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ตนจึงไปติดต่อการไฟฟ้าเพื่อชำระหนี้เก่าและขอติดมิเตอร์ใหม่ เพื่อจะให้หลานสาวเข้ามาอยู่ได้

หลังจากการไฟฟ้ามาติดมิเตอร์ให้ประมาณ 1 เดือน ฝ่ายการเงินของการไฟฟ้าโทรศัพท์มาหาตน ให้ไปเคลียร์ค่าไฟฟ้าเดือนปัจจุบันจำนวนกว่า 12,000 บาท ซึ่งตอนนั้นตนตกใจมาก จึงรีบไปที่การไฟฟ้า และแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า บ้านหลังดังกล่าวไม่มีคนอาศัยอยู่และไม่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าอยู่ภายในบ้าน แม้กระทั่งหลอดไฟก็ถอดออกหมดแล้ว แต่เจ้าหน้าที่กลับแจ้งมาว่า บิลนี้แค่เดือนแรก ยังมีเดือนที่ 2 ที่ยังไม่ได้ออกใบแจ้งหนี้อีก 31,000 บาท ซึ่งการไฟฟ้าขอให้ตนชำระหนี้ดังกล่าว มิฉะนั้นจะถูกถอดมิเตอร์ไฟฟ้าอีกรอบ ซึ่งตนไม่มีเงินมาจ่ายและได้พยายามเข้าไปเจรจากับการไฟฟ้า แต่ก็ไม่เป็นผล

ด้าน นายวิทยา อายุ 57 ปี สามีของนางปิยวรรณ เล่าว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตนได้ไปที่สำนักงานการไฟฟ้าอีกรอบ โดยหัวหน้าฝ่ายมิเตอร์ ได้บอกให้ตนชำระยอดเดือนแรกจำนวน 12,000 บาท แล้วจะเคลียร์ยอดเดือนที่ 2 จำนวน 31,000 บาทให้ แต่ตนไม่ยอมชำระ เพราะตนมั่นใจว่าไม่ได้ใช้ไฟและไม่ได้เป็นฝ่ายผิด หลังจากนั้นการไฟฟ้าได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไม่ ก็พบว่าไม่มีไฟรั่วที่จุดใด แต่ตนติดใจตอนที่เจ้าหน้าที่มาติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า ควรจะแจ้งให้เจ้าของบ้านทราบว่ามาตอนไหน เพื่อจะได้ตรวจสอบว่าการติดตั้งถูกต้องหรือไม่ นอกจากนี้หลังจากมียอดค้างชำระเดือนที่ 2 จำนวน 31,000 บาท เจ้าหน้าที่ได้มาถอดมิเตอร์ไฟฟ้าออก แต่ปรากฏว่ายังมียอดค้างชำระเดือนถัดมาจำนวนกว่า 1,000 บาท ซึ่งตนแปลกใจว่าค่าไฟฟ้ามาได้อย่างไร ในเมื่อถอดมิเตอร์ไฟฟ้าออกแล้ว