สังคม

กฟภ.โร่แจงดรามา หลังชาวบ้านเดือด ค้างค่าไฟ 1 เดือน โดนตัดไฟ-ถอดมิเตอร์ ไม่มีแจ้งเตือน ช่วงหน้าร้อน

โดย petchpawee_k

8 มี.ค. 2567

1.1K views

ค้าง 1 เดือน ตัดไฟยกมิเตอร์ นโยบายใหม่การไฟฟ้า ทำชาวบ้านเดือดจัด ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด เพราะไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ มาก่อน และบางรายค้างค่าไฟแค่ 100 กว่าบาท สวนทางมหาดไทยช่วย ปชช.  ด้านกฟภ. อยู่ไม่ได้ โร่แจงดรามา 

เมื่อวานนี้ (7 มี.ค.67)  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงนี้หากประชาชนรายใดโทรศัพท์เข้าเบอร์สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ในเขตบริการ หรือโทรเข้าสายด่วน หมายเลข 1129 PEA Contact Center ก็จะได้ยินข้อความประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงรอสายว่า “PEA สนองนโยบายกระทรวงมหาดไทย ขยายระยะเวลาการงดจ่ายกระแสไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 บาทต่อเดือน ไม่เกิน 3 บิลเดือน เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประชาชน เริ่มต้นโครงการตั้งแต่บิลค่าไฟฟ้าเดือนพฤศจิกายน 2566 ถึงพฤศจิกายน 2567 สอบถามข้อมูลได้ที่หมายเลข 1129 PEA Contact Center”


แต่ในทางปฏิบัติจริงกลับพบว่า สถานการณ์ร้อนแรงยิ่งกว่าสภาพอากาศที่ร้อนจัดในยามนี้ เพราะล่าสุดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้จ้างบริษัทผู้รับเหมาเอกชน มา ตัด ถอด ยก มิเตอร์ไป นับตั้งแต่การค้างค่าไฟเริ่มเข้าสู่งวดที่ 2 โดยไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ ต่อผู้ใช้ไฟ ทั้งด้วยเอกสารแจ้งเตือน หรือผ่านโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้ไฟ


อย่างเช่น ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดตรัง  เขตบริการของสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดตรัง พบว่า ในช่วงระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ บรรดาผู้ใช้ไฟต่างเดือดจัด หลังถูกพนักงาน ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นบริษัทผู้รับเหมาเอกชน เข้าไปตัดไฟและยกมิเตอร์ของชาวบ้านไป หลังค้างจ่ายค่าไฟเพียงแค่ 1 เดือน หรือกำลังย่างเข้าเดือนที่ 2 เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้ไฟเดือดร้อนอย่างหนัก


ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในตำบลบ้านควน อำเภอเมือง จังหวัดตรัง  ซึ่งมีบ้านหลังหนึ่งถูกพนักงานบริษัทผู้รับเหมาเอกชน  ตัดไฟและถอดมิเตอร์ออกไปตั้งแต่ช่วงกลางวันของวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมาแล้ว  ขณะที่เจ้าของบ้านออกไปทำงานนอกบ้าน แต่เมื่อกลับเข้าบ้านในช่วงค่ำ เปิดไฟไม่ติด จึงออกมาดูหน้าบ้าน พบว่ามิเตอร์ได้ถูกถอดไปแล้ว ทั้งที่ค้างค่าไฟเพียง 1 เดือน เป็นเงินแค่ 1,123.51 บาทเท่านั้น


โดยเจ้าของบ้านยืนยันว่า ก่อนนี้ไม่เคยได้รับการแจ้งเตือนด้วยเอกสาร หรือข้อความผ่านมือถือใดๆ ทั้งสิ้น แต่จู่ๆ ก็มีพนักงานมาถอดมิเตอร์ออกไป  ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยค้างค่าไฟ แต่อาจจ่ายช้าบ้าง เพราะโดยปกติเข้าใจว่า ไม่เกิน 3 เดือน ก็สามารถจ่ายได้ แต่ล่าสุดค้าง 1 เดือน ก็มายกมิเตอร์ไปเลย ทำให้ครอบครัวต้องไปเช่าโรงแรมนอน 1 คืน เสียเงินไปอีกนับพันบาท  ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะโอนเงินจ่ายค่าไฟยอดที่ค้างไป และต้องจ่ายเพิ่มค่าปรับอีก 107 บาท


อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นของวันเดียวกัน ได้มีพนักงานบริษัทผู้รับเหมาเอกชน นำมิเตอร์มาติดให้กับผู้ใช้ไฟดังเดิม เมื่อได้พูดคุยกับพนักงาน ทราบว่า  อยู่แผนกต่อไฟ ส่วนตัดไฟเป็นอีกแผนกหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ของอำเภอเมืองตรัง มี 2 บริษัทผู้รับเหมา มาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดพัทลุง โดยแต่ละวันฝ่ายตัดไฟ จะยกมิเตอร์มาได้เป็นกระสอบๆ แม้จะค้างค่าไฟเพียง 1 เดือน ก็ต้องตัดเลย เพราะเป็นนโยบายใหม่ ซึ่ง พนักงานคนนี้ก็ไม่ทราบอะไรมากนัก  เพราะวันๆต้องวิ่งรอกต่อไฟกลับกว่า 10 หลัง ตั้งแต่เช้ายันค่ำ เพราะผู้ใช้ไฟรออยู่


ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวตรวจสอบในกระเป๋าท้ายรถ จยย.ของพนักงาน พบมิเตอร์และเอกสารปะหน้ามิเตอร์ของผู้ใช้ไฟตกอยู่จำนวนหนึ่ง โดยระบุเหมือนกันทุกรายว่า ค้างค่าไฟ 1 เดือน ซึ่งมียอดบางราย 300 กว่าบาท บางราย 400 กว่าบาท หรือบางรายมียอดเพียง 153.71 บาท ซึ่งในการตัดไฟนั้นจะมีข้อแม้เหมือนกันหมดทุกหลังคาเรือน นั่นคือ ไม่มาจ่ายยอดค้าง 1 เดือน ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างมาก ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัดในขณะนี้


ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ตรัง เพื่อขอสัมภาษณ์ 


นายสมมาศ พุฒิพงศกร ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ตรัง  โดยนายสมมาศอยู่ในห้องทำงาน แต่ได้ฝากหน้าห้องแจ้งว่า ยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ในทันที ขอเวลาศึกษารายละเอียดข้อมูลก่อนให้สัมภาษณ์   โดยขอนัดให้สัมภาษณ์ในช่วงบ่ายของวันพุทธที่ 13 มีนาคมนี้ เวลา 13.00 น.


ขณะที่บรรยากาศ พบว่าได้มีประชาชนต่างเร่งรีบนำใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้ามาติดต่อขอชำระค่าไฟ โดยส่วนใหญ่ค้างเพียง 1 เดือนเท่านั้น หรือย่างเข้าเดือนที่สอง ก็รีบเดินทางมาจ่าย เพราะกลัวจะถูกตัดไฟ เพราะกรณีการตัดไฟเพียงเดือนเดียวแพร่สะพัดไปอย่างมาก โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย


ผู้สื่อข่าวสอบถามผู้ใช้ไฟฟ้าที่มาจ่ายค่าไฟหลายคนบอกว่า เคยถูกตัดไฟ ยกมิเตอร์ไฟฟ้ามาแล้ว เพราะไม่ได้จ่ายเพียง 1 เดือน หรือผ่านกำหนดชำระเพียง 1-2 วัน ก็จะถูกเจ้าหน้าที่ไปตัดไฟยกมิเตอร์ไฟฟ้าในทันที พร้อมวิงวอนขอให้รัฐควรยืดเวลาการจ่ายให้ ไม่เกิน 3 บิลเดือน เพราะแต่ละวันประชาชนก็วุ่นวายกับการทำมาหากิน และส่วนใหญ่มีรายได้น้อย ต่างหาเช้ากินค่ำ การตัดไฟเพียง 1 บิลเดือน ถือว่าซ้ำเติมชาวบ้านมากเกินไป


นอกจากนั้น ชาวบ้านก็บ่นเรื่องค่าไฟที่แพงขึ้นอยู่แล้ว และยังมาถูกนโยบายใหม่ตัดไฟยกมิเตอร์ตั้งแต่ค้างค่าไฟเดือนแรก โดยไม่ทันตั้งตัว ต้องเสียเงินค่าติดตั้งใหม่เพิ่ม ทำเพิ่มภาระและความเดือดร้อนให้ประชาชน บางบ้านมีผู้ป่วยติดเตียงที่ใช้ไฟฟ้ากับเครื่องให้ออกซิเจนก็ยังโดนตัดไฟ


จากกรณีที่เกิดขึ้น เมื่อวานนี้ (7 มี.ค.67)  นายธนพันธ์ เตียสุวรรณ ผู้อำนวยการกองสื่อสารภาพลักษณ์องค์กรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ส่งหนังสือชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว ระบุว่า


ตามที่มีผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีผู้ใช้ไฟฟ้าร้องเรียน หลังค้างจ่ายค่าไฟฟ้า 1 เดือน แต่ถูกตัดไฟยกมิเตอร์ ไม่มีการแจ้งเตือนในพื้นที่จังหวัดตรังนั้น  การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ตรวจสอบแล้วและขอเรียนชี้แจงว่า PEA ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ประกาศขยายระยะเวลาการงดจ่ายไฟฟ้าประเภทบ้านที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 300 บาทต่อเดือน โดยมีผลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566-พฤศจิกายน 2567 โดยผู้ใช้ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังนี้ สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าเอกชนรายย่อย ประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย ที่ได้รับสิทธิ มี 2 ประเภท ดังนี้


1.1.1 อัตราปกติ ใช้พลังงานไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน

1.1.2 อัตราปกติ ใช้พลังงานไฟฟ้าเกิน 150 หน่วยต่อเดือน

หากผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 บาทต่อเดือน และรวมกันไม่เกิน 3 บิลเดือน (หากบิลเดือนที่ 3 เกินวันครบกำหนด จะมีการแจ้งเตือนค่าไฟฟ้า) 


ทั้งนี้ หากไม่เข้าเงื่อนไขตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวข้างต้น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะดำเนินการตามวิธีปฏิบัติก่อนงดจ่ายไฟฟ้าผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยมีระยะเวลาชำระเงินตามที่ระบุในใบแจ้งค่าไฟฟ้า 10 วัน และขยายระยะเวลาการชำระเงินจุดบริการอีก 3 วัน และก่อนการดำเนินการงดจ่ายกระแสไฟฟ้าจะมีการส่งหนังสือแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ไฟฟ้าให้ทราบทุกราย


โดยกำหนดชำระเงินตามหนังสือแจ้งเตือนฯ อีก 5 วัน จึงจะเข้ากระบวนการงดจ่ายไฟ ตามมาตรฐานของสัญญาให้บริการไฟฟ้าของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หากมีข้อสงสัยติดต่อสอบถาม 1129 PEA Contact Center หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้ความอนุเคราะห์ชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริง


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ertXNRd_mc8

คุณอาจสนใจ

Related News