สังคม
ภารโรงสุดช้ำ ผอ.ให้รับผิดชอบค่าซ่อมรถโรงเรียน ถูกหักเงินเดือนเกือบหมด
โดย nutda_t
31 ก.ค. 2567
2.9K views
จากกรณี เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีทริน์ part 7 โพสต์เรื่องราวของลูกสาวรายหนึ่ง ร้องขอความเป็นธรรมให้พ่อซึ่งเป็นภารโรง โดยระบุว่า "ฝากเรื่องราวของพ่อหนูไว้พิจารณาด้วยค่ะ คือพ่อเข้าทำงานเป็นภารโรงจะเข้าปีที่ 10 ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวอำเภอ แต่ตลอดระยะเวลาในการทำงาน ทางโรงเรียนได้ให้พ่อขับรถรับส่งนักเรียนไปด้วย ซึ่งเป็นรถของทางโรงเรียนเอง อายุการใช้งานน่าจะเกิน 30 ปีแล้ว ซึ่งในระยะเวลาการทำงานของพ่อ พ่อไม่เคยบกพร่องในหน้าที่ของตัวเองถึงแม้จะเป็นแค่ภารโรง แต่พ่อดูแลทุกส่วนในโรงเรียน แม้กระทั่งเวลาเลิกงาน หรือแม้ตอนที่พ่อพักกินข้าว ก็มีคนโทรเรียกพ่อให้ไปซ่อมนั่นทำนี่บ้าง พ่อก็ไม่เคยบ่น
แต่ก็มีเรื่องขึ้นมา คือว่าด้วยความที่รถโรงเรียนมันมีอายุการใช้งานมานานมากแล้วพอสมควร มันก็สึกหรอไปตามกาลเวลา คือเครื่องยนต์สึกหรอ น้ำมันเครื่องหมด เครื่องน็อก บางครั้งพ่อขับรถไปส่งนักเรียนตามบ้าน น้ำมันหมดกลางทางก็มี ซึ่งระยะทางมันไกลมาก แล้วก็เกิดปัญหาแบบนี้ซ้ำๆ บ่อยครั้ง พ่อก็ได้พยายามแจ้งทางโรงเรียนเพื่อขอเบิก จะมาซ่อมส่วนนี้หลายต่อหลายครั้ง แต่ทางโรงเรียนไม่เคยสนใจ เพิกเฉยตลอด จนปล่อยให้พัง แล้วสุดท้ายทางโรงเรียนมาโยนว่าเป็นความผิดของพ่อ ว่าพ่อไม่ดูแลรถ ทั้งๆที่พ่อก็แจ้งมาตลอดว่าขอเบิกเงินไปซ่อม
ทางโรงเรียนจะให้พ่อชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดคนเดียว เป็นจำนวนเงิน 25,000 บาท แต่พ่อได้พยายามคุยกับทางโรงเรียนหลายครั้ง แต่ทางโรงเรียนไม่ยอมรับฟังเหตุผล พ่อจะเอาเงินที่ไหนไปชดใช้ เงินเดือนแค่ 9,500 ไหนจะภาระอีกมากมาย ทางโรงเรียนเลยจะขอหักจากเงินเดือน เดือนละ 5,000 จนกว่าจะหมด ซึ่งมันก็คงไม่เหลืออยู่ดี และสุดท้ายพ่อหนูก็ตัดสินใจเขียนใบลาออก และก็อาจเป็นไปได้ว่าเงินเดือนเดือนนี้ก็จะถูกหักหมดเช่นกัน หนูอยากจะขอความเป็นธรรมให้กับพ่อ หนูแค่ไม่เข้าใจทำไมพ่อหนูต้องชดใช้ ทั้งที่มันเป็นทรัพย์สินของโรงเรียน และพ่อไม่ได้ทำรถพัง ไม่ได้ทำให้รถเกิดความเสียหายแม้แต่น้อย ทำไมไม่เอางบประมาณตรงนั้นมาซ่อมบำรุง หนูอยากทราบว่าต้องไปร้องเรียนได้ที่ไหน และหนูคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ถูกต้อง มันไม่ยุติธรรมสุดๆ"
ต่อมา ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบว่า ภารโรงคนดังกล่าว คือนายกฤษณะ หรือ หนึ่ง อายุ 51 ปี ตำแหน่งนักการภารโรง โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ โดย นายกฤษณะ เล่าว่า ตนเป็นนักการภารโรงมาประมาณ 10 ปี ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 10,000 บาท ช่วงหลัง ผอ.โรงเรียน ให้ตนเป็นคนขับรถรับส่งนักเรียน โดยใช้รถของโรงเรียน เป็นรถยนต์ติดคอกทำเป็นรถสองแถว แต่รถยนต์คันดังกล่าว เป็นรถรุ่นเก่า อายุใช้งานประมาณ 37 ปี สภาพเก่า เครื่องยนต์ทรุดโทรม ต้องเติมน้ำมันเครื่องทุกวัน เนื่องจากเครื่องยนต์หลวม
ก่อนเกิดเหตุ ตนลางาน 2 วัน ในช่วงวันที่ 1-2 ก.ค. เพราะต้องไปทำธุระที่กรุงเทพฯ ทราบภายหลังว่า ผอ.ให้ นายปัญญา ปักกาโต รองปลัดเทศบาลตำบลนาโพธิ์ เป็นคนขับรถรับส่งนักเรียนแทน หลังจากตนกลับมาทำงาน ผอ.เรียกตนไปพบ บอกว่ารถรับส่งนักเรียนเครื่องพังต้องเอาไปซ่อม จะให้ตนรับผิดชอบค่าซ่อมทั้งหมด จำนวน 24,600 บาท ตอนนั้นยอมรับว่าอึ้ง เพราะตนเพียงแค่เป็นคนขับรถ กระทั่งตนถูกหักเงินเดือนไปทั้งหมด
ตนจึงตัดสินใจเขียนใบลา หลังจากนั้นลูกสาวได้โพสต์ขอความช่วยเหลือ จนกระทั่ง ผอ.เรียกตนเข้าไปพูดคุยว่าจะให้กลับมาทำงานต่อ แต่ต้องหักส่วนที่ค้างจ่ายค่าซ่อมอีก 15,000 บาท โดยจะหักเงินเดือนๆละ 3,000 บาท รวม 5 เดือน
นายกฤษณะ กล่าวอีกว่า ตนเป็นนักการภารโรง เมื่อผู้บังคับบัญชาให้ขับรถ ตนก็ยอม แต่การให้จ่ายค่าซ่อมรถ ตนมองแล้วไม่ยุติธรรม เพราะรถอยู่ในสภาพเก่า ต้องเติมน้ำมันเครื่องทุกวันเพื่อหล่อเลี้ยงให้วิ่งได้ในแต่ละวัน สาเหตุที่รถพัง เพราะคนขับรถแทนไม่เติมน้ำมันเครื่อง
ด้าน นางศุกภรักษ์ อายุ 49 ปี ภรรยานายกฤษณะ เล่าว่า ยอมรับว่าครอบครัวเจ็บปวดที่ถูกกระทำ เงินเดือนโดนหักไปทั้งหมด แต่ครอบครัวมีภาระที่ต้องจ่ายประจำเดือน ต้องไปกู้เงินนอกระบบ เพื่อให้อยู่ได้ ทั้งนี้ตนยังอยากให้สามีไปทำงานภารโรง ถึงแม้จะโดนหักเดือนละ 3,000 อีก 5 เดือน จนครบ 15,000 บาท แต่ลูกสาวไม่ยอม เพราะเหมือนไม่ได้รับความยุติธรรม
แท็กที่เกี่ยวข้อง รถโรงเรียน ,ภารโรง