สังคม

“แม่บ้าน” ทำร้ายแม่ยายนอนป่วยติดเตียง เอาช้อนกระแทกปากจนฟันหัก

โดย thanaporn_s

12 ก.ค. 2567

1.1K views

วันที่ 12 ก.ค. 2567 ลูกเขยรายหนึ่งเข้าร้องเพจสายไหมต้องรอด ว่าแม่ยายตนอายุ 83 ปี ถูกแม่บ้านที่จ้างมาทำร้ายร่างกาย ในระยะเวลา 3 สัปดาห์ โดนไปเกือบ 30 ครั้ง นี่เผยขณะเปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จรูป มักจะตีไปที่ตัวของหญิงชราหลายครั้ง ขณะที่ตอนพลิกตัวหญิงชราก็พลิกตัวอย่างแรง และมีการสะบัดแขนหญิงชรา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา

ล่าสุดลูกเขยของหญิงชรารายนี้ ได้นำภาพหลักฐานนี้ มาขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยนายเอ บอกว่าแม่บ้านรายนี้ ชื่อกระต่าย เข้ามาทำงานที่บ้านเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากแม่บ้านคนเก่าลาออก ซึ่งตนได้ประกาศหาแม่บ้านมาดูแลแม่ยายทางเฟซบุ๊ก แต่หาใครไม่ได้ ทำให้ตนจึงต้องยอมจ้าง ซึ่งตอนแรกเท่าที่คุย รู้สึกว่าคุณกระต่ายน่าจะดูแลแม่ยายของตนได้ดี เพราะตัวคุณกระต่ายก็มีแม่ที่สูงอายุด้วย ตนจึงเชื่อว่าน่าจะรู้ใจคนสูงอายุได้เป็นอย่างดี

โดยตนได้ให้ค่าจ้างวันละ 500 บาท ทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้า - 1 ทุ่ม หยุดวันเสาร์และอาทิตย์ และให้กินอยู่ที่บ้านของตนอีกด้วย เพราะตนถือว่าเมื่อมาดูแลแม่ยายของตนก็คือคนในครอบครัว จนเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ตนกลับมาที่บ้านก็พบความผิดปกติ เมื่อพบว่าที่แขนของแม่ยายมีรอยเขียวช้ำและฟันหน้าหัก เมื่อตนถามแม่บ้านก็ได้รับคำตอบว่าแม่ยายของตน นอนกัดฟันจนฟันหักเอง ซึ่งตอนนั้นแม่บ้านอ้างว่าไม่เห็นเหตุการณ์เพราะไปซักผ้า

แต่ตนเริ่มเอะใจและเชื่อว่าแม่บ้านโกหก เพราะตอนเช้าก่อนไปทำงานตนแปรงฟันให้แม่ยายก็พบว่าฟันแม่ยายยังแข็งแรงไม่ได้โยกจะหักได้อย่างไร และเมื่อไปดูเสื้อผ้าก็พบว่ายังไม่มีการซักอย่างที่แม่บ้านกล่าวอ้าง วันรุ่งขึ้นหลังจากที่ตนออกจากบ้าน จึงเริ่มจับตาดูพฤติกรรมของแม่บ้านผ่านกล้องวงจรปิด ที่เชื่อมกับโทรศัพท์มือถือ ก็พบว่าแม่บ้านทำร้ายร่างกายแม่ยายของตน ซึ่งตนได้บันทึกวีดีโอเก็บไว้เป็นหลักฐานเรื่อยมา

จนวันที่ 5 ก.ค. ตนได้เรียกแม่บ้านมาคุยและถามว่าเคยทำร้ายแม่ยายตนบ้างหรือไม่ ซึ่งตอนแรกแม่บ้านยืนกรานว่าไม่ได้ทำ แต่เมื่อตนเอาคลิปจากกล้องวงจรปิดให้ดู แม่บ้านก็จำนนด้วยหลักฐาน และรับสารภาพว่าตลอดระยะเวลา 3 สัปดาห์ ที่ดูแลแม่ยายของตนได้ทำร้ายร่างกายแม่ยายของตนประมาณ 30 ครั้ง

โดยตอนแรกตนได้พาแม่บ้านรายนี้ไปแจ้งความที่ สน.มีนบุรี แต่ระหว่างทางแม่บ้านบอกว่าอยากมากราบขอขมา แม่ยายของตน จึงพากลับมาที่บ้าน แต่เมื่อมาถึงแม่บ้านได้พูดขอโทษแม่ยายของตน แต่ตนฟังน้ำเสียงแล้วเหมือนไม่เต็มใจ ตั้งใจว่าวันนั้นยังไงก็จะแจ้งความดำเนินคดีให้ได้ แต่ภรรยาของตนร้องขอไว้ เพราะอยากให้โอกาสแม่บ้านและไม่อยากเป็นคดีความ ตนจึงไม่ได้แจ้งความตั้งแต่วันนั้น จนกระทั่งวันนี้ตนคิดได้ว่าหากไม่ดำเนินการตามกฎหมาย แม่บ้านรายนี้ก็จะไม่สำนึกและอาจจะไปทำแบบนี้กับครอบครัวคนอื่นอีก

คุณอาจสนใจ

Related News