สังคม

เปิดต้นตอ ‘ปลาหมอคางดำ’ ระบาด แนะช่วยกินคนละโล กำจัดเอเลี่ยนสปีชีส์ ‘ณัฐชา’ จ่อเรียกสอบเอกชนนำเข้า

11 ก.ค. 2567

116 views

อธิบดีกรมประมง นำทีมประมงเพชรบุรี จัดกิจกรรม 'กำจัดเอเลี่ยนสปีชีส์แห่งเมืองเพชร' ชี้ ไม่วิกฤตเหมือนจังหวัดอื่น พบขณะจับ มีปลาชนิดอื่นมาด้วย สะท้อนว่าอยู่ด้วยกันได้ในระบบนิเวศน์ ขณะที่นักวิชาการพาดูวิธีการของปลาตัวผู้อมไข่ไว้ในปาก เพื่อปกป้องลูกให้มีโอกาสเติบโตมากที่สุด บางตัวอมไข่ไว้สูงสุดกว่า 500 ฟอง พบขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว เหตุมีความสมบูรณ์เพศไวกว่าปกติ ด้านชาวอัมพวาต้องหยุดทำบ่อกุ้ง เพราะปลาหมอบุกกินเกลี้ยงจนติดหนี้ ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า อีกรายเล่าต้นตอการระบาด ชี้รัฐกับนายทุนต้องร่วมรับผิดชอบ


จากกรณี 'ปลาหมอคางดำ' ซึ่งเป็นเอเลี่ยนสปีชีส์ ที่แพร่ระบาดไปหลายจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางโดยเกษตรกรในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม เป็นพื้นที่แรกที่พบการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ มานานนับ 18 ปี และยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ พร้อมทั้งเสนอให้รัฐบาลยกเป็นวาระแห่งชาติ


ล่าสุด พบว่า 'ปลาหมอคางดำ' ระบาดหนักในหลายจังหวัดเป็นวงกว้าง มีการแพร่กระจายต่อที่ เช่น เพชรบุรี / สมุทรสาคร / ระยอง / ประจวบคีรีขันธ์ / ชุมพร / สุราษฎร์ธานี / สงขลา และนครศรีธรรมราช


ซึ่งช่วงนี้ พบว่า หลายจังหวัดพยายามหาวิธีแก้ปัญหา ทั้งจับมาขายในราคากิโลกรัมละ 10-20 บาท ทำเมนูเด็ด ให้ความรู้ว่ากินได้ รวมทั้งให้ชาวประมงนำปลาหมอสีคางดำที่กำจัดออกจากระบบนิเวศน์ ไปใช้ประโยชน์ นำส่งแปรรูป

-----------

ด้าน นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยกับทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ถึงสถานการณ์ปลาหมอคางดำ ว่า 'ขณะนี้ ค่อนข้างวิกฤต' ตอนนี้ รุกรานไปแล้ว 13 จังหวัด และต้องเร่งกำจัดออกไป ซึ่งร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ตั้งคณะกรรมการมาแก้ไขเรื่องนี้ และสามารถจับได้กว่า 100 ตันแล้ว


ขณะเดียวกัน วานนี้ (10 ก.ค. 67) มีการ Kick off 'โครงการวิจัย การเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม 4n  ในปลาหมอคางดำ' ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี


โดยเป็นโครงการวิจัยเรื่องการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม 4n ในปลาหมอคางดำ  ซึ่งกรมประมงมีแนวทางควบคุมการแพร่ขยายพันธุ์ของปลาหมอคางดำ ด้วยหลักการทางพันธุศาสตร์ โดยการศึกษาสร้างประชากรปลาหมอคางดำพิเศษที่มีชุดโครโมโซม 4 ชุด (4n)


จากนั้น จะปล่อยปลาหมอคางดำพิเศษเหล่านี้ลงสู่แหล่งน้ำเพื่อให้ไปผสมพันธุ์กับปลาหมอคางดำปกติ ที่มีชุดโครโมโซม 2 ชุด (2n) การผสมพันธุ์นี้จะทำให้เกิดลูกปลาหมอคางดำที่มีชุดโครโมโซม 3 ชุด (3n) ซึ่งลูกปลาที่มีโครโมโซม 3 ชุดนี้จะกลายเป็นปลาหมอคางดำที่เป็นหมัน ไม่สามารถสืบพันธุ์ต่อได้


ในเบื้องต้นของการศึกษานี้ จะทดลองในบ่อทดลองเลียนแบบธรรมชาติภายในศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำเพชรบุรี  ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 18 เดือน


และหากผลการวิจัยนี้ สามารถควบคุมการเพิ่มจำนวนประชากรปลาหมอคางดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะขยายผลไปยังแหล่งน้ำอื่น ๆ ต่อไป และเมื่อดำเนินการควบคู่กับวิธีการควบคุมอื่น ๆ เช่น การใช้ปลาผู้ล่า และการจับปลาไปใช้ประโยชน์ ก็จะส่งผลให้การจำนวนปลาหมอคางดำรุ่นใหม่ลดลง จนสามารถควบคุมการระบาดได้ในอนาคต


นายบัญชา กล่าวว่า ภาพรวมภายใน 3 ปี ปลาหมอคางดำจะกลายเป็นเหมือนหอยเชอรี่ และตั๊กแตนปาตังก้า ที่ในอดีต มีการรณรงค์ให้เอาหอยเชอรี่และตั๊กแตนมากิน  เราไม่ต้องนำสารเคมีมาปราบ แต่เราให้มนุษย์มากิน  เปรียบเสมือนเป็นการให้อยู่ร่วมกันได้ และหากมันลดลงตามธรรมชาติ  ปลาผู้ล่าอื่น ๆ ก็ควบคุมกันเองได้


นายบัญชา ย้อนกล่าวถึงที่ไปที่มาของปลาหมอคางดำว่า ปลาชนิดนี้ไม่ใช่ปลาหมอของไทย แต่อยู่ที่แอฟริกา หากถามว่ามาที่ประเทศไทยได้อย่างไร มาได้สองทาง คือ


กรณีที่ 1 คือ อาจจะมีผู้ลักลอบเข้ามา ตนเคยอยู่ด่านตรวจสนามบินดอนเมือง ปี 2539 เคยจับการลักลอบนำเข้าปลาปีรันย่าได้ ซึ่งปลาชนิดนี้มีโทษหนัก ก็ยังมีคนนำเข้ามาได้ ดังนั้น ปลาหมอคางดำก็เช่นกัน อาจจะมีผู้ลักลอบนำเข้ามา


กรณีที่ 2 คือ มีผู้ขอนำเข้ามาเพื่อการวิจัย ปรับปรุงพันธุ์ปลาในประเทศไทยสำหรับตระกูลปลานิล และปลาหมอเทศ ซึ่งมีการขอนำเข้ามาจำนวนหนึ่ง ซึ่งผลการวิจัยอาจสำเร็จหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ จะเกิดการหลุดรอดออกมาหรือไม่ ก็ไม่แน่ใจเพราะไม่ได้เห็นด้วยตา จึงยังไม่กล้าปรักปรำ


ทั้งนี้ นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ปลาชนิดนี้กินได้ ลองกินมาแล้ว ถ้าทุกคนช่วยกันกินมันก็จะลดลง 

----------------

คุณสุธิดา โส๊ะบีน ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด จ.เพชรบุรี จับปลาหมอคางดำตัวที่อมไข่ไว้ พร้อมบีบปากให้ดูไข่ที่อมไว้  และอธิบายว่า ความพิเศษของปลาหมอคางดำ  คือ ตัวผู้เป็นฝ่ายที่อมไข่แทนตัวเมีย ไข่ที่อมไว้มีหลายระยะ บางฟองพร้อมเป็นตัวแล้ว ระยะเวลาฟักตัวพร้อมเป็นไข่จะอยู่ในช่วง 6 ชม. แต่ปลาอื่น ๆ 7-8 ชม. นั่นหมายความว่าแพร่กระจายได้รวดเร็ว เพราะมีความสมบูรณ์เพศเร็ว  


ทั้งนี้ พบว่า ปลาหมอคางดำ ในรอบ 20 วัน สามารถมีลูก และวางไข่ได้แล้ว นับว่าเร็วมาก และตัวผู้จะอมไข่ไว้เพื่อปกป้องดูแลให้ไข่ลูกตัวเองมีโอกาสรอดได้มากที่สุด ซึ่งจำนวนไข่ที่อมไว้บางตัวพบมากถึง 400-500 ตัวก็มี ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่า ทำไมถึงแพร่กระจายเร็ว

----------------

วานนี้ (10 ก.ค. 67) ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์  สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาศึกษาสาเหตุ และแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ เพื่อการวิจัย และพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย  ให้สัมภาษณ์ถึงวิกฤตปลาหมอคางดำ ว่า สถานการณ์หนักมาก เนื่องจากปลาชนิดนี้เป็นเอเลี่ยนสปีชีส์ อาศัยอยู่แถบประเทศกาน่า แอฟริกาใต้ ซึ่งมีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งนำเข้ามา 2,000 ตัว เมื่อปี 2553 หลังจากนั้น ก็พบว่ามีการแจ้งทำลายทิ้งหมดแล้ว แต่กลับพบในแหล่งน้ำธรรมชาติ


นายณัฐชา เปิดเผยว่า พี่น้องในเขตบางขุนเทียนที่ตนเป็น สส. ได้ลงทุนเลี้ยงกุ้ง 300,000 บาท โดยปลาสายพันธุ์นี้หลุดเข้ามากินกุ้งจนหมดบ่อ พอจะเลี้ยงรอบ 2 ต้องกู้เงินมาลงทุน พอถึงรอบ 3 ไม่มีเงินไปจ่ายเงินกู้ ตอนนี้ ต้องขายโฉนดที่ดิน นี่เป็นภาพที่สะท้อนและเห็นได้ชัดถึงภัยร้ายแรงของปลาหมอคางดำ


ดังนั้น อนุกรรมาธิการในคณะตน เรียกประชุมและถามหางานวิจัยที่ผิดพลาด มีหลักฐานว่าทำลายล้างปลาต้นแบบมากน้อยแค่ไหน เพื่อหาต้นต่อคนรับผิดชอบให้ได้


นายณัฐชา กล่าวว่า วันนี้ (11 ก.ค. 67)  อนุ กมธ. จะเชิญบริษัทเอกชนชื่อดัง เพื่อขอดูข้อมูลหลักฐานการขออนุญาต นำเข้าแบบมีเงื่อนไข ตอนปี 2549


ในปี 2549 มีการนำเข้าปลาสายพันธุ์นี้ ตอนนั้นยังไม่ใช้ชื่อว่าปลาหมอสีคางดำ หรือปลาหมอคางดำ แต่กลับใช้ชื่อว่าปลาสายพันธุ์เดียวกับปลานิล เพื่อมาผสมพันธุ์กับปลานิล และการขอนำเข้ามาจากข้อมูลที่ได้รับจาก อนุ กมธ. ก็แจ้งไว้ชัดเจนว่าเป็นการนำเข้ามาเพื่อวิจัย โดยบริษัทเอกชน และการนำเข้าจริงเกิดขึ้นปี 2553 หลังจากนั้นมีการแจ้งว่างานวิจัยผิดพลาด เนื่องจากปลาอ่อนแอและตายในที่สุด และยังไม่ทราบรายงานว่าเป็นอย่างไรต่อ อนุ กมธ. ก็พยายามติดตามหาความจริงว่าหากปลาสายพันธุ์นี้หมดไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว ณ วันนี้มาจากไหน

----------------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/yy7j0t-_PBM



คุณอาจสนใจ

Related News