สังคม
ตำรวจยันไม่ได้ทำร้ายร่างกายพ่อค้าไก่ปิ้ง เผยใบหน้าชายคนดังกล่าว มีบาดแผลอยู่แล้ว เพราะทะเลาะกับเมีย
โดย gamonthip_s
30 มิ.ย. 2567
260 views
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.หนองหิน ติดตามความคืบหน้า พบ พ.ต.อ.เทอดศักดิ์ บุญโชติ ผกก.สภ.หนองหิน อยู่ระหว่างสอบถามตำรวจทั้ง 5 นาย ที่ถูกกล่าวหาว่ารุมกระทืบ นายสันติ พ่อค้าไก่ปิ้งจนปอดฉีก ได้รับบาดเจ็บ
จากนั้น ส.ต.ท.สิทธิศักดิ์ อินศรีทะ ปฎิบัติหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ 1 ในผู้ถูกกล่าวหา ได้พาผู้สื่อข่าวไปยังห้องจราจรที่อยู่หน้า สภ.หนองหิน เล่าว่า วันดังกล่าวออกขี่รถจยย. ตรวจพื้นที่กับคู่สาย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บขี่รถมาด้วยความเมา จึงเรียกตรวจพบว่าอยู่ในอาการที่เมา จึงควบคุมตัวมาที่ สภ.หนองหิน แต่ผู้บาดเจ็บพยายามขัดขืนจึงเรียนรถกระบะสายตรวจมารับ โดยมี จนท.ตร.มาด้วยกัน 3 นาย เพื่อมารับตัว เมื่อมาถึงโรงพักพาเข้าไปที่ห้องจราจร แต่ผู้บาดเจ็บ มีอาการเมามาก ด่าทอเจ้าหน้าที่ และทำลายข้าวของในห้อง จึงได้ควบคุมตัว และใส่กุญแจมือ จากนั้นก็ไม่ยอมหยุดด่าตำรวจ และกัดมือของ ส.ต.ท.สิทธิศักดิ์ จนบาดเจ็บ จากนั้นพยายามหนีออกจากห้อง จนหัวไปฟาดกับโต๊ะ และวิ่งออกไปที่ประตูจนศีรษะกระแทกกับประตู โดยที่จนท.ในห้องไม่ได้มีการทำลายร่างกายแต่อย่างใด
พ.ต.อ.เทอดศักดิ์ บุญโชติ ผกก.สภ.หนองหิน เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า วันที่ 26 มิถุนายน เวลาประมาณ 09.00 น. นายสันติได้มาเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลหนองหิน ให้ประวัติกับพยาบาลว่า โดนไม้ดีดฟาดใส่ศีรษะ ลำตัวด้านขวา และไหล่ขวา มีแผลที่คิ้วขวา มีแผลฉีกขาดยาวประมาณ 3 ซม. ลึก 0.3 ซม. และปวดบวมไหล่ขวา เจ้าหน้าที่พยาบาล จึงได้เย็บบริเวณคิ้ว สอบถามญาติว่า เหตุดังกล่าวไม่ใช่ไม้ดีดใส่ แต่เป็นนายสันติกับภรรยาทะเลาะกัน และได้ทำร้ายร่างกายกันจนบาดเจ็บ มาเข้ารับการรักษาตัว รพ.หนองหิน
เช้าวันที่ 28 มิ.ย. 67 นายสันติได้ขี่รถจยย. ไปตามหาภรรยาที่บ้านพี่เมีย ที่อ.ท่าลี่ ขากลับเจอด่านตรวจ ถูก จนท.ตร.จับกุมเมาแล้วขับ จึงให้ไปเสียค่าปรับ 2,000 บาท โดยที่จนท.ตร.สภ.ท่าลี่ ที่จับกุม ยังเห็นใบหน้าของนายสันติ มีบาดเจ็บฟกช้ำอยู่แล้ว
จนมาคืนวันที่ 28 มิ.ย. 67 เวลาประมาณ 22.00 น. สายตรวจออกตรวจในเขตพื้นที่เทศบาลบริเวณ หมู่ 4 ต.หนองหินพบชายนั่งอยู่บนรถกลางถนน จึงได้จอดรถ สอบถามว่าเป็นอะไร มายังไง ทำไมถึงจอดรถกลางถนน นายสันติพูดจาไม่รู้เรื่อง แต่จับความได้ว่า มีปัญหากับภรรยา ทะเลาะกันลงไม้ลงมือ มีแผลบริเวณใบหน้าหลายแห่ง ชายคนดังกล่าวบอกว่าเมียเอาไม้ฟาดตัวเอง แล้วภรรยาได้หนีไป จึงกินเหล้าจนเมา แล้วออกมาจากบ้าน เพื่อจะไปตามหาเมีย สายตรวจจึงได้เตือนว่า เมาแล้วกลับไปนอนพักที่บ้าน เมามากแล้ว เดี๋ยวขับรถไปชนคนอื่น สายตรวจจึงได้ขับรถผ่านไป
แต่พอสายตรวจวนกลับมา พบชายดังกล่าวขี่รถเข้าไปในซอยลึกกว่าเดิม สายตรวจจึงได้เข้าไปเรียกให้จอดรถ และได้บอกให้ลงรถ และได้ทำการขออนุญาตตรวจค้น ชายดังกล่าวตะโกนโวยวายจนชาวบ้านละแวกนั้นออกมาดู สายตรวจได้สอบถามข้างบ้าน และผู้คนในซอยว่า ปกติแกเป็นแบบนี้ไหม ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า เวลาเมาชอบขับรถออกมาโวยวายตะโกนกวนทั้งซอย ชาวบ้านชินกับพฤติการณ์ สายตรวจจึงได้เชิญตัวไปที่โรงพัก เพื่อที่จะวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ชายดังกล่าวไม่ยินยอม พยายามขัดขืนต่อสู้เจ้าหน้าที่ และร้องโวยวาย สายตรวจจึงได้ขอกำลังและรถยนต์นำตัวไปที่โรงพักเพื่อสงบสติอารมณ์
พอนำตัวไปถึงโรงพักชายดังกล่าวลงจากรถ ได้โวยวายด่าทอเจ้าหน้าที่เสียงดัง จึงได้นำตัวเข้าห้องจราจร เพื่อจะได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ชายดังกล่าวไม่ยินยอม และได้พยายามจะหลบหนีตลอดเวลา สายตรวจจึงได้ควบคุมตัว และให้นั่งบนเก้าอี้ ระหว่างนั้นชายดังกล่าวทำลายข้าวของภายในห้องจราจรสายตรวจ จึงทำการควบคุมตัวชายดังกล่าวขัดขืนต่อสู้ และได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ และทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่เสียหาย กัดนิ้ว ดึงเสื้อขาด ดึงนาฬิกาขาด สายตรวจจึงได้ควบคุมตามระดับกำลังที่ชายดังกล่าวแสดงออกมา ระหว่างการควบคุมตัว ชายดังกล่าวได้ชกหมัด และได้ถีบเจ้าหน้าที่ และจะวิ่งออกจากห้องจราจร สายตรวจได้เข้าไปควบคุมตัว และได้เสียหลักล้มพุ่งเข้าไปบริเวณใต้โต๊ะ สายตรวจได้จับกดลงพื้น ชายดังกล่าวยังคงได้ชกหมัดและถีบขาเจ้าหน้าที่ สายตรวจจึงได้เพิ่มระดับกำลังตามที่ชายดังกล่าวได้แสดงออกมาในการควบคุม เพื่อใส่เครื่องมือพัธนาการไว้ และนำตัวไปนั่งที่เก้าอี้ เพื่อสงบสติอารมณ์
แต่ชายคนดังกล่าว ได้พยายามลุกจากเก้าอี้ และวิ่งออกจากห้องจราจร จึงชนกับขอบประตู ทำให้มีแผลโนบริเวณใบหน้า ทำให้บาดแผลบริเวณหน้าที่มีมาก่อนแล้วเปิดออก สายตรวจเห็นว่าใบหน้ามีบาดแผล และชายดังกล่าวพูดจาไม่รู้เรื่องไม่ได้สติ จึงได้ปรึกษาร้อยเวร พงส. ว่าจะดำเนินการอย่างไร ร้อยเวรจึงได้สอบถามชายดังกล่าว และแนะนำให้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อน ชายดังกล่าวยังคงพูดจาไม่รู้เรื่อง และไม่ยอมไปรับการรักษา
ร้อยเวรสอบสวนจึงได้ให้สงบสติอารมณ์ อยู่ที่โรงพักประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเริ่มพูดคุยรู้เรื่อง จึงให้สายตรวจไปส่งชายดังกล่าวที่บ้าน และแจ้งให้ญาติของชายดังกล่าวทราบว่า ก่อนที่จะนำมาส่งบ้านเกิดอะไรขึ้น และทางญาติบอกว่าพฤติกรรม หลังจากดื่มสุราเข้าไปจะเป็นแบบนี้ตลอด ทุกครั้งที่ดื่ม และสอบถามเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์แล้ว และจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เมื่อตรวจสอบว่า จนท.ผิดก็จะดำเนินการทันทีไม่มีการช่วยเหลือ
แพทย์หญิง นธิศรา ธิติศิริพงศ์ ผอ.รพ.หนองหิน เปิดเผยว่า เวรเช้าวันที่ 29 มิ.ย.67 ที่เจอคนไข้เดินมาที่โรงพยาบาลมีอาการเจ็บหน้าอก จึงทำการตรวจ พบว่ามีลมรั่วในปอด จึงรีบทำการรักษา โดยการเจาะปอด จากนั้นรีบนำตัวส่งรพ. ส่วนในรายละเอียดที่ได้รับแจ้งมาว่า คนไข้มาครั้งหนึ่งแล้วกลางดึกคืนวันที่ 28 มิ.ย.67 ยังไม่ทราบรายละเอียดชัดเจน ถ้าคนไข้มาแล้วไม่ได้รับการรักษา อันดับแรกทางโรงพยาบาลต้องขอโทษ ถือว่าเป็นการรักษาที่ล่าช้า จากนั้นจะนำเคสนี้ไปทบทวน และเย็นวันที่ 28 มิ.ย.67 ค่อนข้างยุ่ง มีแพทย์คนเดียว และพยาบาลไม่พอ และมีการส่งตัวคนไข้ฉุกเฉินไปโรงพยาบาลอุดรธานี ระดับการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินอาจมีความผิดพลาด เนื่องจากคนไข้เดินพูดได้อย่างปกติ ซึ่งเป็นการประเมินเบื้องต้นว่าปกติดี ทางโรงพยาบาลก็น้อมรับและขอโทษญาติคนไข้ด้วย
แท็กที่เกี่ยวข้อง รุมกระทืบ ,แผลฟกช้ำ ,บาดเจ็บสาหัส ,ทะเลาะกับเมีย ,ต่อสู้ขัดขืน