สังคม
ญาติไม่ติดใจ เด็ก 14 ถูกไฟดูดดับคาตู้กดน้ำ ชาวบ้านเล่าเหตุการณ์ รร.แจง-เยียวยา 1.2 แสนบาท
โดย passamon_a
24 มิ.ย. 2567
265 views
ญาติไม่ติดใจ น้องวายุ วัย 14 ปี ถูกไฟดูดดับในโรงเรียน ฝากโรงเรียนเอาเป็นอุทาหรณ์ ควรดูแลความปลอดภัยให้ดีกว่านี้ พ่อไม่เอาผิดโรงเรียนเข้าใจเป็นอุบัติเหตุ ด้านโรงเรียนเยียวยา 1.2 แสนบาท คนอยู่ในเหตุการณ์เล่า ไม่มีใครนิ่งดูดายช่วยเหลือเต็มที่ เพื่อนน้องใช้เท้าเตะตัวให้หลุดออกมาก็ถูกไฟดูดด้วย แต่ยังมีสติวิ่งตะโกนให้คนมาช่วย ผอ.มัธยมศึกษาเขต 13 ตั้ง กก.สอบ สั่งทุกโรงเรียนงดใช้ตู้ทำน้ำเย็นเด็ดขาด
จากกรณีไฟดูด น้องวายุ อายุ 14 ปี นักเรียนระดับชั้น ม.2 เสียชีวิตในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.กันตัง จ.ตรัง ทาง สพฐ.อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นตู้กดน้ำดังกล่าวไม่ได้ใช้งานแล้ว คาดสาเหตุเกิดจากน้ำฝนรั่วใส่แผงเบรกเกอร์ด้านหลังตู้กดน้ำ ทำให้ไฟฟ้าลงกราวด์ที่พื้น นักเรียนตัวเปียกเดินเข้าไปจุดนั้นพอดี และมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการเข้าไปช่วยเหลืออย่างล่าช้า
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.67 ที่วัดควนตุ้งกู ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ เด็กชายวรวิช หรือ น้องวายุ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 พบว่าบรรดาญาติต่างอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ โดยมีพวงหรีดจากทางโรงเรียนมาตั้งไว้ใกล้กับหีบศพ
นายพรชัย อายุ 53 ปี ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า เสียใจมากกับการจากไปของลูกชาย ตนมีลูกชาย 2 คน คนที่เสียชีวิตเป็นคนสุดท้อง หลังเกิดเหตุทางโรงเรียน ทั้งผู้อำนวยการ คณะครูทั้งโรงเรียน ได้เข้ามาดูแลอย่างดี คืนวันที่ 22 มิ.ย. ก็เข้ามาเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพ ก่อนจะเกิดเหตุไม่ได้มีลางสังหรณ์อะไร สำหรับนิสัยของลูกชายเป็นเด็กร่าเริง ไม่เกเร ตั้งใจเรียน เป็นที่รักของคณะครู ตอนน้องยังมีชีวิตอยู่ไม่เคยบอกว่าอนาคตอยากจะเป็นอะไร
ทั้งนี้ตนก็ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี ไม่ได้เอาผิดอะไรกับทางโรงเรียน เพราะเป็นอุบัติเหตุทางเราก็เข้าใจ ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงแค่รู้ข่าวหลังจากคุณครูโทรมาว่าลูกชายเกิดอุบัติเหตุ ให้ตนไปที่โรงพยาบาลกันตัง เมื่อไปถึงเห็นลูกอยู่ในสภาพแน่นิ่งแล้ว ทำอะไรไม่ถูกเลย รู้แค่ว่าลูกถูกไฟดูด หากพูดกับลูกชายได้อยากจะบอกว่าให้ลูกไปสู่สุขติไม่ต้องห่วงพ่อแม่แล้ว พ่อแม่ก็จะทำทุกอย่างให้เต็มที่ ตนเองในฐานะที่เป็นพ่อแม่ ก็คิดว่าลูกเสียชีวิตไปแล้ว ทำอย่างไรก็ไม่ได้กลับคืน และไม่คิดจะเรียกร้องอะไรมากมาย
เพราะทางโรงเรียนก็พร้อมจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ จึงเสนอขอให้ทางโรงเรียนช่วยเหลือครอบครัวค่าจัดงานศพให้น้อง เป็นเงิน 5 แสนบาทเท่านั้น ขอเพียงแต่ให้ดูแลกวดขันเรื่องความปลอดภัยภายในโรงเรียนให้ดีขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยขึ้นภายในโรงเรียนกับนักเรียนคนอื่น ๆ ต่อไป ส่วนศพของน้องจะบำเพ็ญกุศลศพและฌาปนกิจวันพฤหัสบดีที่ 27 มิ.ย.นี้
นายจรินทร์ อายุ 41 ปี น้าของน้องวายุ กล่าวว่า ตนไปดูที่เกิดเหตุก็น่าจะเกิดจากไฟฟ้ารั่วติดกับเสาเหล็ก ลักษณะแทงค์น้ำ สูง มี 2 ชั้น ซึ่งสายไฟก็เป็นสายไฟเก่าที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว น้องเดินไปโดนเสาเหล็กที่มีไฟรั่วอยู่ ประกอบกับไม่ใส่รองเท้าและมีน้ำฝนไหลผ่าน ตนมองแล้วว่าความปลอดภัยของโรงเรียนน้อยไปนิด ซึ่งจะต้องดูแลความปลอดภัยให้ดีกว่านี้อีก เพราะนักเรียนก็มีหลายคน โดยเหตุการณ์นี้ ตนมองว่าถ้าฝนไม่ตกลงมาก็น่าจะไม่มีอะไร ในฐานะที่เป็นน้าของน้องวายุ อยากจะบอกหลานว่า รักหลานมาก ไม่อยากให้เสียชีวิต แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้แล้ว อยากให้เป็นอุทาหรณ์กับทางโรงเรียนและแก้ไข เพราะอาจจะเกิดขึ้นอีก โดยทางญาติไม่ได้ติดใจในการเสียชีวิตเพราะเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครตั้งใจ และคลิปวิดีโอในการเข้าช่วยเหลือช้า ก็เข้าใจว่าไม่มีใครที่กล้าจะเข้าไปช่วยในจุดนั้น เพราะต้องมีวิธีการช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่โรงเรียนที่เกิดเหตุ พบว่าได้ปิดประตูเงียบ เนื่องจากเป็นวันหยุด โดยยังคงมองเห็นตู้กดน้ำจุดเกิดเหตุยังคงติดตั้งอยู่ในลักษณะเดิม มีเพียงนักการภารโรง และคุณครูบางท่าน เดินทางเข้าไปทำงานวันหยุด แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ รอให้มาสัมภาษณ์ผู้อำนวยการโรงเรียนในวันนี้ (24 มิ.ย.)
จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับโรงเรียน และได้มาชมการแข่งขันกีฬาสีของโรงเรียนด้วย บอกว่า ช่วงเกิดเหตุประมาณช่วงเที่ยงของวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นวันที่มีการแข่งขันกีฬาสีของโรงเรียน และช่วงเวลาดังกล่าวมีฝนตกลงมาอย่างหนัก จังหวะนั้นทราบว่า นักเรียนชายผู้เสียชีวิตได้เดินผ่านไปที่ตู้ทำน้ำเย็น พร้อมกับเพื่อนอีกหนึ่งคน แต่ปรากฏว่าเกิดกระแสไฟฟ้าดูดจนล้มลง และเพื่อนที่ไปด้วยกันพยายามใช้เท้าเตะตัวเพื่อนให้หลุดออกมา แต่กลับทำให้ตัวเองก็ถูกไฟฟ้าดูดด้วย โชคดีไม่เป็นอันตรายมาก เพราะไม่ล้มลงและยังมีสติจึงรีบวิ่งออกมาตะโกนบอกให้ทุกคนได้รู้
จากนั้นทั้งครู นักเรียน นักการภารโรง ผู้ปกครอง รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่พยาบาล ที่มาประจำการในช่วงการแข่งขันกีฬาสี ต่างก็วิ่งไปหาน้อง และคิดที่จะหาทางให้ความช่วยเหลือ ซึ่งขณะนั้นทุกคนก็พยายามอย่างเต็มที่แล้ว โดยบางคนวิ่งไปหาไม้มาเพื่อจะงัดน้องออก แต่จังหวะนั้นเป็นจังหวะที่ชุลมุนมาก เพราะเหตุการณ์เกิดอย่างรวดเร็วและทุกคนช็อก ทำอะไรไม่ถูก จนสุดท้ายใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็มีคนวิ่งไปเอาผ้าของผู้ปกครองที่เดินทางมาชมการแข่งขันกีฬาสี ไปจับที่ข้อเท้าน้องแล้วก็ลากตัวออกมาได้ ยืนยันว่าทั้งครูและทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างพยายามจะช่วยน้องอย่างเต็มที่ ไม่มีใครนิ่งดูดายเลยแม้แต่คนเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชำนาญ กานต์นภัทร ปลัดอาวุโสอำเภอกันตัง ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของนักเรียนชายด้วย และบอกว่า ทางอำเภอได้ติดตามเรื่องนี้ใกล้ชิดตั้งแต่วันเกิดเหตุ และนายอำเภอก็ได้ไปติดตามที่โรงพยาบาลกันตังด้วยตนเอง ตนมาให้กำลังใจครอบครัวและแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนสาเหตุนั้นทางโรงเรียนจะเร่งสรุป และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว
ด้าน นายชัยณรงค์ ช่างเรือ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ตรัง-กระบี่ ผู้บริหารต้นสังกัดของโรงเรียนที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ทางผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุ ได้รายงานมาว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา วันเกิดเหตุในช่วงเที่ยงเป็นวันแข่งกีฬาสีภายในของโรงเรียน วันนั้นมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ซึ่งผู้บริหารโรงเรียนได้รายงานมายังตน ตั้งแต่วันเกิดเหตุและระหว่างเหตุการณ์มีมูลนิธิกู้ภัยและหน่วยพยาบาลเข้าช่วยเหลือ เพราะวันแข่งกีฬาสีจะมีเจ้าหน้ากู้ชีพกู้ภัยคอยสแตนด์บาย โดยจุดเกิดเหตุเป็นถังน้ำขนาดใหญ่ มีตู้กดน้ำอยู่ติดกัน สภาพฝนตกมีน้ำเจิ่งนองพื้น การเข้าช่วยเหลือจะเข้าช่วยเหลือทันทีไม่ได้ เพราะต้องหาจุดต้นเหตุให้ได้ ก่อนที่จะลากตัวออกมา และเมื่อตัดคัตเอาต์ไฟฟ้าได้แล้วจึงเร่งเข้าไปช่วยเหลือ
ทั้งนี้ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว ส่วนกระแสอื่น ๆ ที่ลงในโซเชียล มีทั้งครูใช้ให้เด็กไปกดน้ำ ปิดสวิตช์น้ำ ผู้ปกครองใช้ให้เด็กไปกดน้ำ ซึ่งยังสับสนไม่มีความแน่ชัด และตนได้ตั้งกรรมการสอบในระดับเขตแล้ว โดยไม่ใช้บุคลากรในโรงเรียนร่วมสอบ เพื่อความกระจ่าง ซึ่งจะสรุปผลสอบสวนในวันจันทร์ที่ 24 มิถุนายนนี้ โดย นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง จะร่วมแถลงข่าวด้วยตัวเอง สำหรับการช่วยเหลือเยียวยา โรงเรียนได้เยียวยาตั้งแต่วันเกิดเหตุ 20,000 บาท และทางเขตเยียวยาเพิ่มอีก 1 แสนบาท รวมเป็น 120,000 บาทในเบื้องต้น และพร้อมดูแลเรื่องงานศพ รวมทั้งเยียวยาสภาพจิตใจของครอบครัวเด็ก ส่วนรายละเอียดและสาเหตุยังสรุปไม่ได้ ต้องรอกระบวนการสอบสวนก่อน
"ที่ผ่านมา สพฐ.ได้สั่งการให้โรงเรียนทุกโรงเรียนทำมาตรการความปลอดภัย แล้วรายงานมายัง สพฐ. รวมทั้งขึ้นเว็บไซต์ โดยเฉพาะเรื่องไฟฟ้า ก็ได้สั่งการไปแล้วสด ๆ ร้อน ๆ ไม่นานมานี้ ตรงไหนมีปัญหาได้สั่งให้ปิดใช้งาน สั่งซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันสุดวิสัยจริง ๆ ทางผู้ปกครองเขาก็คงเข้าใจ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนเราเลี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้จริง ๆ เพราะอยู่ในช่วงเวลาของการเรียนในโรงเรียน ก็ต้องดูแลครอบครัวและเยียวยาอย่างเต็มที่ หากผลการสอบสวนออกมาพบว่ามีความประมาทหรือเกิดจากสาเหตุใด ก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย"
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/VR5Nc-JZ5n4
แท็กที่เกี่ยวข้อง ตู้กดน้ำโรงเรียน ,ไฟดูดนักเรียน ,ตู้กดน้ำไฟดูด