สังคม

แบงก์ดังแจงแล้ว เหตุทนายโดนดูดเงิน 1.1 ล้าน บุกเอาไขควงแทงแขน หลังเคยเทอึราดตัว

โดย petchpawee_k

19 มิ.ย. 2567

403 views

มาตามนัด! ทนายนพ บุกหน้าธนาคารกลางเมืองราชบุรี ทวงคำตอบเงินล้านที่ถูกมิจฉาชีพหลอก ชุลมุนเอาไขควงแทงแขนตัวเองเลือดสาด ล่าสุดธนาคารออกแถลงชี้แจงแล้ว 

ช่วงเช้าวานนี้ (18 มิ.ย.67)  ทนายนพ  อายุ 71 ปี  ทนายความ เดินทางไปที่หน้าธนาคารแห่งหนึ่ง ที่อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี  เพื่อมาทวงสัญญา หลังจากเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ทนายนพได้มาประท้วงแล้วหนึ่งครั้ง พร้อมราดอุจจาระใส่ตัวเอง เพราะมาขอความช่วยเหลือและความรับผิดชอบ ที่ถูกมิจฉาชีพหลอกดูดเงินหายไปเกลี้ยงบัญชี  เป็นเงิน 1.1 ล้านบาท แต่ธนาคารไม่ยอมออกมาพูดคุยด้วย

จากนั้นได้ประกาศไว้ว่า อีก 2 สัปดาห์จะมาทวงคำตอบ เมื่อวานนี้ จึงเดินทางมาตามที่ลั่นวาจาไว้  โดยทนายนพ  อ่านแถลงการณ์ เล่าเหตุการณ์ที่ถูกหลอก โดยมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นบริษัทขนส่งพัสดุ ติดต่อขอชดใช้ค่าเสียหาย 1,000 บาท หลังทำเอกสารของลูกความชำรุด และให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น เพื่อคืนเงิน แต่หลังจากดาวน์โหลดโทรศัพท์ก็จอดำ ไม่สามารถใช้งานได้ มีเพียงช่องให้สแกนใบหน้าเท่านั้น ก่อนหน้าจอจะดับลงประมาณ 10 นาที  และพบว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีทั้งหมดกว่า 1.1 ล้านบาท

ที่ผ่านมาได้เข้าไปให้ปากคำกับตำรวจไซเบอร์ แล้วอ้างว่า ตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบแล้ว แจ้งว่าเป็นความผิดของธนาคาร ที่ไม่ติดตั้งระบบป้องกันการแฮ็ก จึงแนะนำให้ฟ้องแพ่งธนาคาร แต่ไม่ยืนยันว่าจะได้เงินคืนครบ อาจได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น เพราะเงินไหลออกไปต่างประเทศแล้ว จะคาดหวังให้ตำรวจนำเงินกลับคืนมาทั้งหมดคงไม่ได้  พร้อมได้ยึดโทรศัพท์ไว้ เพื่อให้กองพิสูจน์หลักฐาน กู้หลักฐานใช้ฟ้องแพ่งกับธนาคาร แต่ตอนนี้ไม่มีเงินจะใช้ฟ้องแพ่ง แค่เงินกินข้าวในแต่ละวันก็ยังไม่มีเลย เพราะเงินที่คนใจบุญเคยบริจาคช่วยเหลือมารวม 8,000 บาทหมดแล้ว

ส่วนเงินที่ธนาคารเยียวยามาเบื้องต้น 30,000 บาท มองว่า หากรับไว้ คงใช้ดำรงชีพได้เพียงไม่กี่วัน  จึงตั้งใจจะโอนคืนให้กับธนาคาร พร้อมเรียกร้องให้ผู้จัดการธนาคาร ออกมารับหนังสือแถลงการณ์ และต้องให้คำตอบทันที ว่า จะคืนเงินทั้งหมดให้หรือไม่

หลังจากรอสักพัก ไม่มีเจ้าหน้าที่ธนาคารออกมา ทนายนพ จึงนำหนังสือแถลงการณ์ สอดไว้ใต้ประตูทางเข้า ยืนยันว่า หากธนาคารไม่คืน ก็จะจัดการตัวเองที่หน้าธนาคาร เพื่อให้ธนาคารได้รับผลกระทบ ทำให้ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองราชบุรี ที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ 10 นาย พยายามมาเกลี้ยกล่อมให้ทนายนพใจเย็น และกลับไปรอคำตอบที่บ้าน  แต่ทนายนพไม่ยินยอม ตำรวจจึงขอค้นอาวุธ พบเพียงยารักษาโรคเท่านั้น

ผ่านไป 1 ชั่วโมง ทนายนพทำทีว่า ยอมกลับบ้านแล้ว พร้อมเดินข้ามถนน โดยไม่ยอมให้ตำรวจตามประกบตัว เมื่อเดินถึงเกาะกลางถนน ได้หยิบไขควงเย็บกระสอบ ที่แอบซ่อนไว้ในรองเท้า ออกมาแทงเข้าที่แขนของตัวเองจนทะลุ มีเลือดไหลจำนวนมาก ตำรวจต้องรีบเข้าไปห้าม พร้อมช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ระหว่างรอรถโรงพยาบาลราชบุรี ทนายนพร้องไห้ พร้อมตัดพ้อว่า อยากตาย ชีวิตนี้หมดสิ้นทุกอย่างแล้ว ไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่มีเงินกินข้าว งานก็ไม่มีเข้ามา เพราะทนายโง่ ไม่มีใครจ้าง แล้วยังถูกลูกชายด่าอีก หลังรถพยาบาลมารับทนายนพก็ยังคงร้องไห้อยู่  

ทีมข่าวตรวจสอบเฟซบุ๊กทนายนพ พบว่า ได้โพสต์ภาพตัวนอนบนเตียงรถเข็นในโรงพยาบาล พร้อมระบุว่า ปฎิบัติการทวงถามความคืบหน้าแบงค์เขียว สำเร็จเรียบร้อย คือ ผมไม่ได้รับคำตอบจากแบงค์เขียว จึงแทงตัวเองที่แขนตามที่ผมสัญญาไว้ เมื่อวันก่อนราดอึ ต่อไปจะถึงขั้นฆ่าตัวตาย วันเวลาจะแจ้งให้ทราบต่อไป    

ขณะที่เมื่อ 1 วันก่อน ทนายนพได้โพสต์ว่า ตอนนี้เงินบริจาคผมมันหมด ผมไม่มีเงินกินข้าวแล้ว ไม่มีทุนฟ้องแพ่งแบงค์เขียว ตามที่ตำรวจไซเบอร์แนะนำ ผมต้องเปลี่ยนใจฆ่าตัวตาย ในวันอังคารที่ 18 เวลา 9 โมง ตามที่นัดไว้ขอเงินคืนทั้งหมด ถ้าไม่ได้ขอตาย เงินที่แบงค์เขียวช่วยมา 30,000 ผมไม่แตะขอคืน แต่ต้องคืนล้านกว่าที่แบงค์เขียวคุ้มครองไม่ได้ ไม่ติดโปรแกรมป้องกันการแฮ็ค ปล่อยให้คนร้ายแฮ็คเอาไป รออยู่อย่างนี้ก็อดตาย ขอนักข่าวด้วย


ล่าสุดธนาคารกสิกรไทย โพสต์ข้อวามชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นบริษัทขนส่ง หลอกผู้เสียหายให้โอนเงินนั้น ธนาคารขอชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวไม่ใช่กรณีแอปดูดเงิน แต่เป็นการโอนเงินผ่านการสแกน QR พร้อมเพย์ ซึ่งคนร้ายหลอกว่าเป็น QR รับเงิน ผู้เสียหายดำเนินการตามขั้นตอน โดยเป็นผู้ใส่รหัสแกนหน้า และโอนเงิน พร้อมยืนยันรายการด้วยตนเองเป็นจำนวน 2 รายการ

เมื่อธนาคารรับแจ้งเหตุจากผู้เสียหายในวันที่ถูกหลอกโอนเงิน จึงได้ดำเนินการออกเลขที่รับแจ้งเหตุ (Bank Case ID) พร้อมทั้งส่งข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วนให้ธนาคารผู้รับโอนทันที เพื่อระงับธุรกรรมชั่วคราวและ ไล่เส้นทางการเงินตามกระบวนการของกฎหมาย ทางการที่แจ้งขอข้อมูลมาทุกกรณี โดยธนาคารพร้อมสนับสนุนและให้ความร่วมมือหน่วยงาน

ทั้งนี้ ธนาคารขออภัยสำหรับประเด็นการขอข้อมูลตามที่เป็นข่าว ที่อาจมีความคลาดเคลื่อน ในการสื่อสาร อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้มีความจำเป็น หรือส่งผลกระทบต่อกระบวนการส่งเรื่อง เพื่อระงับธุรกรรมแต่อย่างใด

ธนาคารขอเน้นย้ำว่าการสแกน QR Code ผ่านแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้ง เป็นการสแกนเพื่อ จ่ายเงินเท่านั้น ไม่มีการสแกนเพื่อรับเงิน และเพื่อลดความเสี่ยงการตกเป็นเหยื่อจากมิจฉาชีพ อย่ากดลิงก์ จาก SMS แปลกปลอม และอย่าแอดไลน์คนที่ไม่รู้จัก



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/hXl98Kzb_pc

คุณอาจสนใจ