สังคม

จับสึกพระใช้ช้อนแทงชายเสียชีวิต อ้าวโมโหคู่กรณีมาขอข้าว ทั้ง ๆ ที่เพิ่งกลับถึงที่พัก

โดย paranee_s

18 มิ.ย. 2567

823 views

จากกรณีที่นายศุภพงศ์ ได้หายออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางนางอรปรียา พร้อมญาติ ได้ออกค้นหาตลอดทั้งวันในทุก ๆ ที่ที่คิดว่าสามีไปเป็นประจำ เช่น โบราณสถานถ้ำเขาปีบ ซึ่งมีพระจำพรรษาอยู่ 2 รูป และทั้งคู่อ้างว่าไม่พบหน้านายศุภพงศ์


จนกระทั่งเช้าของวันที่ 15 มิถุนายนได้มีชาวบ้านมาพบเป็นศพที่ทำร้ายด้วยของเหล็กแทงเข้าที่ในหน้าที่บนศีรษะหลายแผลลอยน้ำอยู่ในสระน้ำหน้าสวนปาล์มของชาวบ้าน และอยู่เยื้องกับโบราณสถาน เพียง 200 เมตร โดยมีรางรถไฟกั้นกลาง


ล่าสุดจากการลงพื้นที่จากตำรวจชุดสืบสวน ภาค 8 และตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทุ่งตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ได้ลงสอบปากคำพระ 2 พ่อลูกพร้อมนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาเปรียบเทียบ ซึ่งทั้งคู่อ้างว่า ทุกเช้าจะออกเดินบิณฑบาตตั้งแต่เช้าเวลา 05.30 น.และจะกลับในเวลาประมาณ 08.30 น.โดยพระหัด ซึ่งพ่อเดินหน้า และมีพระสุนย์ทร ลูกชายเดินตามหลัง เป็นอย่างนี้ทุกวัน


แต่ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พบว่า ในวันเกิดเหตุในขาไป พระหัด เดินหน้าจริง โดยมีพระสุนย์ทร เดินตามหลังห่างกันเพียง 4 นาที แต่ตอนขากลับพบว่าพระสุนย์ทร ได้เดินกลับเพียงลำพัง โดยพระหัด ผู้เป็นพ่อ เดินตามมาห่างกันประมาณนับชั่วโมง แต่ทั้งคู่ยังยืนยันว่า ห่างกันเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงได้นิมนต์เฉพาะพระสุนย์ทร มาสอบปากคำอีกครั้งที่ สภ.ทุ่งตะโก เพื่อเค้นหาข้อมูลที่เท็จจริงในช่วงดังกล่าว


นอกจากนี้ยังพบว่าบริเวณไหล่ขวาของพระสุนย์ทร มีร่อยรอยขีดข่วนแนวยาว ซึ่งขัดกับคำกล่าวอ้างของพระสุนย์ทร ที่บอกว่ายุงกัด


ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จนในที่สุด พระสุนย์ทร ยอมเปิดปาก ว่าหลังจากที่กลับจากบิณฑบาต กลับมาที่สำนัก ก็พบว่านายศุภพงศ์ มานั่งรอที่จะเอาอาหารจากตน ทั้งที่ตนเองเพิ่งมาถึงและยังไม่ได้ฉันอาหารเลย จึงเกิดการทะเลาะกัน ถึงขั้นลงไม้ลงมือ และตนเองก็ใช้ช้อนสั้นเป็นอาวุธในการแทงนายศุภพงศ์


ทางเจ้าหน้าที่จึงได้สอบปากคำเกี่ยวกับพื้นที่บริเวณก่อเหตุตรงไหน และทำไมศพ จึงไปอยู่ในสระน้ำ ซึ่งทางพระสุนย์ทร บอกเพียง จุดที่ทะเลาะทำร้ายกัน ตรงศาลาที่สำนัก ส่วนศพและรองเท้า ทำไมไปอยู่ตรงนั้นตนไม่รู้ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปทำการสึก และรอการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจาก พระสุนย์ทร หรือนายสุนทร เริ่มมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด


ด้านพระหัด ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า พระลูกชายสุขภาพไม่ดี เคยผ่าสมองตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยสาเหตุจากอุบัติเหตุ และตนไม่รู้เลยว่าพระลูกจะมาก่อเหตุดังกล่าวได้ หากวันนั้นตนเองกลับมาพร้อมกันเรื่องก็คงไม่เกิดแน่นอน เพราะพอจะห้ามปราบได้ ซึ่งเชื่อว่าพระลูกคงคุมอารมณ์ไม่ได้ เนื่องจากอาการจะอ่อนไหว โมโหร้าย และบางครั้งก็จะนิ่งเงียบ


พระหัด ยังบอกว่า ก็ปล่อยไปตามกฎหมายไปใครทำอะไรก็ได้เช่นนั้น ส่วนตนนั้นหลังจากนี้ก็จะเดินทางไป จ.อุดรธานี บ้านเกิด เพื่อจะจัดการเรื่องที่ทางเพื่อเก็บที่ดินส่วนหนึ่งไว้ให้กับนายสุนทร หลังจากที่พ้นคดีไว้ทำกินต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News