สาวงง! จอดรถริมถนนบนที่สาธารณะ ถูกเจ้าของร้านด่าฉ่ำ บอกขวางทางเข้าร้าน

จากกรณีดัง โพสต์ข้อความและคลิปวิดีโอ มนุษย์ป้ากับคนในบ้านอีกคน ด่าสาวมาจอดรถฉ่ำ ที่สาธารณะนะคะป้า หรือป้าคิดว่ายังงัยคะ ที่ข้างถนนมันไม่ควรจอดอยู่แล้ว อันนี้เราทราบดี แต่เส้นประชานิเวศน์ 3 จอดกันเต็ม 2 ข้างทาง เราก็ไม่รู้ว่าที่สาธารณะหน้าร้านป้า เป็นของป้า ป้าบอกว่าเราจอดรถหน้าบ้านป้า ป้าแกรอจะจอดตั้งนาน แต่มันอยู่บนที่สาธารณะนะคะ ป้าบอกว่าไปถามแขวงมาแล้ว ขนาดตั้งโต๊ะก็ยังให้ป้าเก็บเลย แต่ทำไมป้าจอดเลยได้ทั้งคืนละคะ แล้วกลับมาว่าเรา ทำไมไม่จอดหน้าร้านตัวเอง ก็หน้าร้านเรามีรถคนอื่นจอด เรายังไม่ว่าอะไรสักคำ ใครจะจอดก็จอดได้ เพราะเป็นที่สาธารณะ แต่ป้าบอกว่านี่เป็นที่จอดรถหน้าบ้านเค้า ถึงกับยืนรอมาด่า ส่วนอีกคนด่าอยู่ในบ้าน



ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ เพื่อสอบถามเหตุการณ์ พบว่าที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนสายหลักหมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี ส่วนจุดที่เกิดเหตุโต้เถียงกันเป็นตึกแถว 3 ชั้น หน้าร้านขายข้าวแกง ไม่ได้เปิดร้าน เนื่องจากหยุดวันอาทิตย์ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเพื่อนบ้านใกล้เคียง



ป้ารุ่งรัตน์ อายุ 69 ปี ร้านขายก๋วยเตี๋ยว กล่าวว่า ปัญหาที่จอดรถไม่ค่อยมี มาจอดแค่ซื้อของก็ไปเราก็ต้องเกรงใจซึ่งกันและกัน เขาไม่ได้มาจอดแช่ ส่วนที่มีบางร้านเอาสิ่งของมาวางกั้นที่จอดรถ ก็จะมีเทศกิจของเทศบาลนครนนทบุรีมาเก็บไม่ให้วางจองที่จอด บางคนเอากรวยมาวางเขาก็เก็บหมด ส่วนที่มีคนเอารถมาจอดทิ้งไว้ก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ชาวบ้านจะมาจอดก็ไม่ได้ ก็ต้องดูว่าอันนั้นเกินไปหรือเปล่า ต้องให้เจ้าของบ้านเขาออกได้ แต่ถ้าเป็นคนพื้นที่ไปว่าเขาก็เกินไป เขามาจอดแปปเดียวไม่ได้จอดนาน ถ้าจะออกจากบ้านก็มาเรียก เพราะเขามีความจำเป็นต้องออกจากบ้าน ไม่ใช่เจ้าของบ้านออกมาเรียกแล้วไปพูดใส่ว่ายังไงเขาเสียภาษีนะ มันก็เกินไปบอกว่าเจ้าของบ้านเขาจะออก พอเขาพูดแบบนี้ตนก็เลยจบไม่ได้ไปต่อล้อต่อเถียงกับเขา พอเจ้าของบ้านเขาจะออกแล้วมีปัญหา



พี่หนิง อายุ 49 ปี (เสื้อลายหลายสี) เจ้าของร้านจิ้มจุ่ม กล่าวว่า ปัญหาเรื่องที่จอดรถมันน้อย ไม่ใช่ปัญหาเรื่องแย่งที่จอดกัน และความเข้าใจเกี่ยวกับเจ้าของร้านและผู้ที่มาจอดรถ เข้าใจไม่ตรงกัน ส่วนใหญ่มาจอดทานข้าวมาจอดรับลูกแล้วก็ไป ไม่น่าจะนานเกินครึ่งชั่วโมง ส่วนที่มาจอดเพื่อดูแลร้านชั่วโมง 2 ชั่วโมงก็มีบ้าง ส่วนที่มาจอดข้ามวันข้ามคืนไม่มี ส่วนหน้าร้านตนเองถ้ามีคนอื่นมาจอดก็ยินดี ถ้ามาจอดค้างคืนตนเองก็ไม่ได้ซีเรียส เพราะว่าเป็นถนนหลวง แต่ก็อาจจะบังหน้าร้านตน ก็ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครมาจอดค้างคืน ส่วนที่มีคนเอาสิ่งกีดขวางมาตั้งกั้น โดยส่วนตัวตนก็แล้วแต่ธุรกิจของเขา และระยะเวลาที่เขาทำธุรกิจแบบนี้ก็ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย บางครั้งเขาไม่มีพื้นที่ทำธุรกิจก็ลำบากเหมือนกัน



น.ส.ปราณี อายุ 50 ปี เจ้าของร้านข้าวแกง กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.67 เจ้าของรถนำรถมาจอดที่หน้าบ้าน ก่อนเขาจะไปขายของที่ร้าน ตนคิดว่าคงจอดไม่นาน แต่มาจอดตั้งแต่ 6 โมงเย็น ตนก็ไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าคงจอดสัก 1 ชม.แล้วก็ไป แต่เขามาจอดเกือบ 3 ทุ่มครึ่ง ตนก็มายืนรอ ก่อนหน้าตนไปนอนหลับมาตื่นนึงแล้ว หลังจากเก็บร้านตั้งแต่ 4 โมงเย็น จนสามีกลับจากขับวินรถตู้ โทรศัพท์มาบอกว่ามีรถจอดหน้าบ้าน ตนจึงให้สามีนำรถไปจอดบ้านฝั่งตรงข้ามก่อน จนใกล้ 3 ทุ่มครึ่ง พอตนไปพูดกับเขาก็ถ่ายเอาไปลงติ๊กต็อก ตนก็รายงานไปว่าหน้าบ้านพี่มีรถตู้มาจอดหน้าบ้านตอนกลางคืน เอาไปจอดหน้าบ้านคนอื่นเขาไม่ได้ ส่วนตอนกลางวันมีคนมาซื้อของก็จอดตนไม่ได้ว่าอะไร วันเกิดเหตุเขานำรถมาจอดตั้งแต่ 4 โมงเย็น แล้วก็มาเอาเกือบ 3 ทุ่มครึ่ง เพราะร้านเขาปิดเวลานั้น ตนไม่รู้ว่าเป็นรถใคร เพราะเขาพึ่งมาทำร้านเปิดใหม่

น.ส.ปราณี กล่าวต่อว่า วันนั้นแฟนกลับมาก็ไม่ได้จอดเหมือนกัน ตนก็นำรถไปจอดหน้าบ้านคนอื่นไม่ได้ เพราะแถวนี้ก็เป็นร้านขายของเหมือนกัน ไปบังหน้าร้านเขา แต่ถ้าวันไหนเขาปิดร้านก็จอดได้ แต่เราก็เกรงใจเขาเป็นรถตู้คันใหญ่ด้วย วันนั้นตนไม่ได้ด่า แค่พูดบอกเขาเฉย ๆ ว่า น้องจะจอดไปจอดหน้าร้านน้องหรือไปจอดด้านหลังก็ได้ แล้วมีลูกค้ามาบอกว่าเขาเอาไปลง แต่ตนก็ไม่ได้สนใจ ตนไม่ได้พูดอะไรรุนแรงเลยหรืออาจเป็นเพราะสำเนียงการพูดเลยทำให้เขาคิดว่าเราไปด่าเขา



น.ส.ปราณี เจ้าของร้านข้าวแกง กล่าวต่ออีกว่า การจอดรถช่วงกลางวันใครก็จอดได้ แต่ถ้าจอดตายทั้งวัน แล้วร้านตนเป็นร้านขายข้าวแกง รถลูกค้าจะจอดอย่างไร ตนไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องราวอะไร เขาจะถ่ายก็ช่างเขาเถอะ เขาบอกเขาจะขึ้นเขต ตนเคยเอาเก้าอี้มากั้น ทางเทศกิจเขามาถ่ายและบอกว่าห้ามกั้น ถ้าใครมาจอดนาน ๆ ให้บอกคนที่มาจอดก็ได้ว่าจะมีรถมาส่งของห้ามจอดนาน เทศกิจเขาก็พูดไว้ เพราะมีคนมาถ่ายร้องเรียนกันเยอะ