คุณตาวัย 71 ฝังสร้อยคอทองคำรวมน้ำหนัก 5 บาทไว้ใต้ต้นลำไย กลับมาขุดหาอีกทีหายไร้ร่องรอย

(4 มิ.ย.) นายประเวศ คุณตาวัย 71 ปี ชาวบ้านหนองเจดีย์ ตำบลนครเจดีย์ อำเภอป่าซาง พาผู้สื่อข่าวเดินไปดูจุดที่ตนเองนำสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท จำนวน 2 เส้น สร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น รวมน้ำหนักทองคำทั้งหมด 5 บาทไปฝังดินไว้ บริเวณใต้ต้นลำไย ภายในบริเวณบ้าน ก่อนที่จะออกไปหาเห็ดเผาะในป่า กลับมาหาอีกทีทองคำทั้งหมดหายไปไร้ร่องรอย



คุณตา เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองอาศัยอยู่บ้านหลังนี้กันเพียงลำพังสองคนตายายกับนางสมบูรณ์ อายุ 69 ปี ภรรยา ส่วนลูกแยกไปอยู่ต่างหาก ก็ใช้ชีวิตทำมาหากินเป็นเกษตรกร และรับจ้างทั่วไปตามวิถีชีวิตแบบชาวบ้านทั่วไปก็มีเงินเก็บสะสมไว้ใช้ในบั้นปลายของชีวิต รวมถึงมีทรัพย์สมบัติสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก เส้นละ 2 บาท จำนวน 2 เส้น และสร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 1 บาท อีก 1 เส้น จะใส่เวลามีงานบุญหรือเวลางานต่าง ๆ ในหมู่บ้านเท่านั้น หลังจากกลับมาตนก็จะนำไปฝังดินไว้เป็นประจำ โดยเปลี่ยนจุดไปเรื่อย ๆ แต่อยู่ใกล้ ๆ ตัวบ้าน โดยมียายเห็นแทบทุกครั้งที่นำไปฝังไว้ ทำแบบนี้มานานหลายปี



ส่วนเหตุผลที่ฝังดินเพราะคิดว่าจะปลอดภัยกว่าเอาไว้ในบ้าน เพราะคิดว่าหากเราสองตายายไม่อยู่บ้าน เกรงว่าโจรจะมางัดบ้านขโมยไป จึงคิดว่าฝังไว้ในดินจะปลอดภัยที่สุด เพราะหากนำติดตัวไป อาจทำหายหรือเกิดความไม่ปลอดภัยแก่ตนเองได้



โดยเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่าน ช่วงเวลาประมาณ 07.00 น. ก่อนที่ตนเองจะไปหาเห็ดเผาะ ก่อนออกบ้านได้นำสร้อยคอทองคำ และสร้อยข้อมือน้ำหนักรวม 5 บาทไปฝังไว้เหมือนปกติที่เคยทำ โดยฝังไว้บริเวณใต้ลำไยห่างตัวบ้านประมาณ 4 เมตร โดยใช้เสียมขุดดินลึกประมาณ 1 คืบ แล้วใช้เสื่อน้ำมันปิดทับอีกที แล้วนำสุ่มไก่มาครอบไว้อีกชั้น โดยมีไก่ จำนวน 2 ตัว อยู่ในสุ่มไก่อีกที แล้วออกไปหาเห็ดเผาะ

ต่อมาอีกวันจึงไปขุด เพื่อนำไปล้างทำความสะอาด และนำไปใส่ แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ สองตายายจึงเดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ที่สถานีตำรวจภูธรป่าซาง จังหวัดลำพูน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามหาตัวคนร้ายที่มาขโมยขุดสร้อยคอไปมาดำเนินคดี และนำสร้อยคอทองคำมาคืน หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าซางได้เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อสืบหาคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ต่อไป