สาววอนช่วยแม่ กู้นอกระบบ 1 หมื่น ผ่านไป 12 ปี จ่ายดอกไปแล้ว 2.6 ล้าน

เพจสายไหมต้องรอด โพสต์เรื่องราวร้องทุกข์ #รังสิต กู้เงิน 10,000 บาท มาจ่ายค่าเทอมลูกตอน ป.1 ผ่านมา 12 ปี จ่ายดอกไปแล้ว 2 ล้าน 6 แสนบาท วันไหนไม่มีเงิน ดอกจะทบต้นไปเรื่อยๆ

โดยข้อความระบุว่า "ขออนุญาตสอบถามนะคะ ตอนนี้แม่หนูเป็นหนี้นอกระบบมา 12 ปี แล้วค่ะ เริ่มจากการกู้เงินดอกลอย 10,000 บาท มาจ่ายค่าเทอมให้หนูตอน ป.1 ปัจจุบันหนูเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 แล้วค่ะ

ระยะเวลาตลอด 12 ปี แม่ส่งดอกลอยมาตลอดค่ะ ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อวันค่ะ ถ้าวันไหนไม่มีเงินจ่ายดอก เจ้าหนี้ก็จะเอายอดที่ค้างดอกไปทบเป็นเงินต้นวนแบบนี้ไปเรื่อยๆๆๆ แม่ส่งดอกลอยไปทุกวันมาตลอดค่ะ จนตอนนี้แม่ส่งไม่ไหวแล้ว

เจ้าหนี้บอกว่าวันนี้เงินต้นขยับไปที่ 280,000 บาทแล้ว (ดอกทบต้น ต้นทบดอก) ทั้ง ๆ ที่ยอดที่แม่ส่งไปเกินต้นไปมากแล้วค่ะ แม่ลงทะเบียนแก้หนี้ไปแล้วค่ะ แต่ยังไม่มีการแก้ไขใดๆ ทางอำเภอเคยแจ้งให้แม่ไปพบแต่แม่ไม่กล้าไปค่ะ แม่คิดว่าลงทะเบียนออนไลน์แล้ว เจ้าหน้าที่จะช่วยเหลือ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องไปสอบปากคำที่อำเภอค่ะ แม่กลัวจะถูกทำร้ายแบบในข่าว จึงไม่ได้ไปที่อำเภอ

ที่แม่ยอมส่งดอกมาตลอด 12 ปี เพราะความกลัวค่ะ กลัวว่าจะมีอันตราย เพราะเรายอมส่งดอกลอยมาตลอดค่ะ ก่อนหน้านี้เคยไปแจ้งทางตำรวจไว้ให้มาช่วยไกล่เกลี่ยกัน แต่ทางเจ้าหนี้บุกมาที่บ้าน มาแจ้งว่าให้คืนเงินต้น 280,000 บาททันที ซึ่งแม่อยากมาปรึกษาทางเพจสายไหมต้องรอด ว่าแม่ควรทำยังไงดีคะ เพราะวันนี้เจ้าหนี้บุกมาที่บ้านและที่ร้านแม่กลัวมากค่ะ"

ทีมข่าวช่อง 3 เดินทางไปพบกับคุณจูน ซึ่งเป็นลูกหนี้ โดยคุณจูน ยอมรับว่าจุดเริ่มต้น ที่ยืมเงินจากเจ้าหนี้ คือ 1 หมื่นบาทจริง เพื่อไปจ่ายค่าเทอมลูก โดยถูกคิดดอกเบี้ยวันละ 100 บาท

ต่อมาตนก็มีการยืมเงินเพิ่มไปเรื่อย ๆ 3 พันบาทบ้าง และ 5 พันบาทบ้าง รวมถึงมีเพื่อนแม่ค้าด้วยกัน ไปยืมกับเจ้าหนี้ ซึ่งเจ้าหนี้ก็จะถามตนว่าแม่ค้ารายอื่นที่มาขอยืมเครดิตดีไหม ซึ่งตนก็ตอบไปว่าดี ให้ยืมได้เพราะเห็นว่าขายของด้วยกัน ทำให้เจ้าหนี้ได้ปล่อยเงินกู้ให้กับแม่ค้ารายอื่นตามที่ตนการันตีไป แต่ตนจำไม่ได้ว่าจำนวนเงินเท่าไร

จนกระทั่งช่วงโควิด เจ้าหนี้บอกว่าตนติดหนี้ซึ่งเป็นเงินต้นประมาณ 2 แสนกว่าบาท โดยจำนวนนี้มีเงินของแม่ค้ารายอื่นรวมอยู่ด้วย แต่เจ้าหนี้ ให้ตนเป็นคนรับผิดชอบ เพราะบอกว่าตนเป็นคนการันตีให้แม่ค้าคนอื่น และคิดดอกเบี้ยวันละ 200 บาท ซึ่งตนก็ยอมจ่ายเพราะไม่อยากมีปัญหา

จากช่วงหลังโควิด ตนก็ยืมเจ้าหนี้มาอีกหลายครั้ง จนเป็นหนี้ใหม่เพิ่มมาอีกก้อนหนึ่งจำนวน 8 หมื่นบาท เจ้าหนี้จึงปรับยอดให้ตนจ่ายดอกเบี้ยรายวันเป็นวันละ 1 พันบาท ซึ่งตนก็ยอมจ่าย จนเมื่อ 2 วันที่แล้ว ตนไม่มีเงิน ทำให้เจ้าหนี้ ตามไปทวงเงินตนถึงที่บ้าน และบอกกับแม่ตนว่าตนหนีหนี้ ซึ่งไม่เป็นความจริง

ประกอบกับที่ผ่านมาตลอดระยะเวลามากกว่า 10 ปี ตนจ่ายดอกเบี้ยไปล้านกว่าบาท ซึ่งมากพอแล้วจึงไปร้องขอเพจสายไหมให้ช่วยเหลือ

ขณะที่ทีมข่าวได้พยายามติดต่อไปยัง เจ้าหนี้ของคุณจูน ได้รับคำตอบว่า ปล่อยเงินให้คุณจูนกู้จริง ที่ผ่านมาจำไม่ได้ว่าเก็บดอกมาแล้วกี่บาท เพราะไม่มีการคุยกันเรื่องจ่ายเงินต้น จ่ายแต่ดอกอย่างเดียว

ซึ่งเมื่อวานนี้ ตนได้คุยกับคุณจูน ว่าเงินที่ค้างอยู่ประมาณ 2.8 แสนบาท จะให้จ่ายวันละ 500 บาท โดยตัดเป็นต้น ไม่ใช่ดอกแล้ว และคุณจูนก็ไม่ได้โต้แย้งอะไร

ส่วนลูกหนี้อีก 2 คน ที่คุณจูนการันตี คนแรกเงินต้น 5.7 หมื่นบาท คนที่สอง จำนวน 2 หมื่นบาท ตนได้บอกคุณจูนว่าขอเก็บวันละ 700 บาท เพื่อเป็นการตัดเป็นเงินต้น ไม่ใช่ดอกเบี้ยแล้ว

เรื่องที่เกิดขึ้นตนไม่เข้าใจว่า ทำไมคุณจูน ถึงยังไม่จบเรื่อง และหากไม่พอใจในเงื่อนไขที่ตนเสนอไป ทำไมไม่เจรจาหรือขอต่อรอง ซึ่งตนพร้อมคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน