ยายร่ำไห้ หลานชายรับจ้างขนยาบ้า 3.3 แสนเม็ด หาเงินรักษาพ่อป่วยมะเร็ง

วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ที่หน้ากองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นายกัมปนาท วิเวศ ศรีพุทธา รอง ผวจ.นครพนม พร้อมด้วย พ.อ.กันตภณ จันทะนันท์ รองหัวหน้าส่วนปราบปราม หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งตัน และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 24 ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้าจำนวน 338,000 เม็ด มูลค่าเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท พร้อมจับกุมขบวนการค้ายาบ้า ได้ผู้ต้องหา 3 ราย มี 1.นายธีระเดช อายุ 22 ปี ชาว อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ทำหน้าที่เป็นคนขับ 2.นายธีรวัฒน์ ชาว อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม อายุ 23 ปี และ 3.นายทินพงษ์ อายุ 35 ปี ชาว อ.นาหว้า จ.นครพนม รวมถึงตรวจยึดรถยนต์ของกลาง ยี่ห้อ เชฟโรเลต สีขาว ถูกเจ้าหน้าที่ยิงยางรถยนต์ สกัดจับกุม จนล้อหน้าขวาหลุด สภาพพังเสียหาย จนไม่สามารถวิ่งได้ เหตุเกิดบนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2132 สายศรีสงคราม-ท่าแร่ ก่อนตรวจยึดของกลาง ควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวน ดำเนินคดี

เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ นายธีระเดช อายุ 22 ปี ชาวอ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม คนขับรถสารภาพว่า ยอมรับเสพยาบ้ากับเพื่อนร่วมแก๊ง จึงได้ชวนกันรับจ้าง จากนายทุนที่รู้จัก เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท ทำหน้าที่ขนยาบ้าจากอำเภอชายแดน จ.นครพนม เพื่อส่งต่อพื้นที่ จังหวัดตอนไหนตามนัดหมาย ระหว่างทาง จึงถูกสกัดตรวจค้น แต่พยายามขับรถยนต์หลบหนี เจ้าหน้าที่จึงติดตามยิงยางรถยนต์สกัดจับกุมได้ ส่วนหนึ่งยอมรับว่าไม่มีเงิน อยากได้เงินไปรักษาพ่อป่วยมะเร็ง แต่ถูกจับกุมเสียก่อน ภายหลังถูกจับกุม ทางญาติพี่น้องทั้งแม่และยายของผู้ต้องหา เดินทางมาเยี่ยมทั้งน้ำตา ต่างพากันร่ำไห้ ไม่คิดว่าลูกหลานจะคิดทำผิดแบบนี้