รู้ตัวแล้ว 'มธุรส' สาวเจ้าของบัญชีรับโอนค่าปรับ โปรครึ่งราคา 'ดาบ ศ.' อ้างประชาชนฝากจ่าย

รู้ตัวแล้ว 'มธุรส' สาวเจ้าของบัญชี รับโอนเงินค่าปรับ โปรครึ่งราคา เข้าให้ปากคำตำรวจ ด้าน 'ดาบ ศ.' ให้การภาคเสธ อ้างเป็นการฝากจ่ายค่าปรับ เตรียมเอาผิด ม.157 และ 149


ความคืบหน้ากรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ร้องเรียนว่าถูกตำรวจจราจร สังกัด สภ.เมืองขอนแก่น ออกใบสั่งปรับวินัยจราจร โดยเสนอว่าจะลดค่าปรับให้ แต่ต้องโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ชื่อ มธุรส เพื่อแลกกับการไม่ต้องไปจ่ายค่าปรับที่โรงพัก และไม่ต้องจ่ายค่าปรับเต็มจำนวน จนกระทั่งโซเชียลพากันถามหาว่า มธุรสเป็นใคร และค่าปรับจราจรสามารถโอนเข้าบัญชีบุคคลธรรมดาได้ด้วยหรือ เข้าข่ายทุจริตหรือไม่  


เมื่อวันที่ 23 เม.ย.67 คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มี พ.ต.ท.พิทักษ์เขต สิงห์พิทักษ์ รองผู้กำกับการจราจร สภ.เมืองขอนแก่น เป็นประธาน และมีสารวัตรกับรองสารวัตรจราจร เป็นคณะกรรมการ เรียก ดาบตำรวจศรชัย ตำรวจจราจรที่อยู่ในโพสต์ มาสอบข้อเท็จจริง โดย ดาบ ศ. มีอาการเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด  


คณะกรรมการฯ ยังเชิญผู้ที่โอนเงินค่าปรับเข้าบัญชี มธุรส จำนวน 2 คน มาให้ข้อมูล คือ นางสาวแพรวา และพนักงานของปั๊มน้ำมันริมบึงแก่นนคร  


ต่อมา นางสาวมธุรส อายุ 31 ปี เจ้าของบัญชีธนาคารที่รับโอนเงินค่าปรับ เดินทางมาที่ สภ.เมืองขอนแก่น เข้าพบคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ โดยมากับพ่อ และให้ปากคำกับคณะกรรมการฯ ประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ


ในขณะที่ ดาบตำรวจศรชัย ก็ให้ปากคำกับคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ ประมาณ 2 ชั่วโมงเช่นกัน ก่อนจะเดินทางกลับทันที โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์


หลังจากนั้น พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้เชิญประชาชน 3 ราย ที่โอนจ่ายค่าปรับเข้าบัญชีนางสาวมธุรส มาให้ข้อมูล โดยมี 2 ราย โอนจ่ายไปคนละ 1,000 บาท ส่วนอีก 1 ราย โอนจ่ายไป 500 บาท ส่วนดาบตำรวจศรชัยให้การภาคเสธ คือ ยอมรับว่าได้รับโอนเงินจากทั้ง 3 คนจริง แต่เป็นการฝากจ่ายค่าปรับ


ซึ่งผู้ถูกร้องจะให้การอย่างไรก็ได้ แต่คณะกรรมการจะพิจารณาตามพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงมา หากพบว่ามีมูลความผิดจริง จะเข้าข่ายความผิดในมาตรา 157 และ 149 โทษสูงสุดคือให้ออกและไล่ออกจากราชการ โดยหลังจากนี้คณะกรรมการฯ จะสรุปผลการตรวจสอบ รายงานไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้ลงความเห็นเอาผิดทางวินัยได้ทันที ส่วนทางอาญานั้น พนักงานสอบสวนจะส่งเรื่องต่อไปยัง ป.ป.ช. เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ จะมีความผิดในส่วนของอาญามาตรา 157 และ 149 เรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวนได้เอง เว้นแต่ทาง ป.ป.ช.จะมอบอำนาจให้ทางตำรวจเป็นผู้สอบสวน


ส่วนนางสาวมธุรสนั้น เป็นสาวคนสนิทของดาบศรชัย คณะกรรมการฯ จะสอบสวนว่า มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดส่วนใดบ้าง มีความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้าหรือไม่ จากนั้นจึงจะดำเนินคดีตามความผิดที่พบต่อไป


พ.ต.อ.ยศวัจน์ ยังย้ำว่า เงินค่าปรับวินัยจราจรนั้น สามารถโอนได้ แต่ต้องโอนเข้าบัญชีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น หากพบว่าโอนเงินเข้าบัญชีส่วนบุคคล ให้ประชาชนสันนิษฐานได้ก่อนเลยว่า เป็นการกระทำความผิด ให้ปฏิเสธการจ่าย แล้วเข้ามาจ่ายที่สถานีตำรวจใกล้ที่เกิดเหตุ แล้วแจ้งหัวหน้าสถานีนั้น ๆ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย  

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/tsx8Era4nJE