ทนายบุกวัด เอาผิด อดีตเจ้าอาวาสวัดพบมีความผิด ช่วยเหลือตัวเอง

นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิกองทัพธรรม พร้อมด้วยพระปกครองจังหวัดปทุมธานีและฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบอดีตเจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ หรือ วัดสีชมพู ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี หลังได้รับการร้องเรียนว่า เคยมีคลิปวีดีโอช่วยเหลือตัวเองแชร์ลงบนโซเชียล จนเกิดกระแสสังคมโจมตีอย่างหนัก ก่อนทางวัดต้องประกาศปลดเจ้าอาวาส

แต่กลับพบข้อเท็จจริงว่า เจ้าอาวาสาสรูปดังกล่าวยังคงจำอยู่ในวัดและมีพฤติกรรมเป็นพระมาเฟียบริหารจัดการการเงิน ซึ่งตรวจพบการกู้ยืมจากญาติโยมหลายคน รวมเป็นเงินกว่า 11 ล้านบาท โดยไม่สามารถชี้แจงเส้นทางการเงินได้ ไม่มีการทำบัญชีวัด แต่พบว่าเป็นเงินโอนเข้าไปยังบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสที่อ้างว่านำมาพัฒนาวัดระหว่างการแถลงวันนี้ พระครูธรรมธรฐิติศักดิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ ผู้ถูกร้องเรียน รวมถึงสื่อมวลชน รวมเฝ้าสังเกตุการณ์แถลงด้วย

ซึ่งขณะที่อดีตเจ้าอาวาส ผู้ถูกร้องเรียน เดินเข้ามาที่ศาลาวัดกลางวงประชุม และเตรียมจะนั่งที่โซฟาด้านหน้า แต่ทนายอนันต์ชัย เชิญให้ไปนั่งด้านหลัง เพราะไม่มีตำแหน่งในวัด และเรียกร้องให้ลาสิกขา เนื่องจากการกระทำที่เกิดขึ้นไม่สามารถจะคงสภาพความเป็นพระได้

ระหว่างที่อดีตเจ้าอาวาสผู้ถูกร้องเรียนกำลังชี้แจงอยู่นั้น ทนายอนันตชัยได้ลุกขึ้นและพูดโต้ตอบกับอดีตเจ้าอาวาส ว่า เหตุใดท่านถึงช่วยตัวเอง จนเริ่มเกิดเป็นเหตุการณ์บานปลายขึ้น เมื่ออดีตเจ้าอาวาส ผู้ถูกร้องเรียน โต้เถียงว่า ’เป็นธรรมดาครับ ยอมรับว่าในภาพเป็นตนเอง มันไม่เหมาะอยู่แล้ว มันผิดพลาดไปแล้วก็ต้องยอม เพราะทุกองค์มีใครบ้างที่ไม่เคย แต่มันไม่มีใครออกไปเป็นหลักฐานได้หรอก’ พร้อมยืนยันว่า ’ตัวเองจะไม่ออก เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด’

ขณะที่ ทนายอนันตชัย ได้บอกให้สื่อมวลชนดูว่า ’อดีตเจ้าอาวาสไม่ยอมออกจากวัด’ ทนายยืนยันว่าจะดำเนินการตามกฏหมายและธรรมวินัย ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ทนายของมูลนิธิกองทัพธรรมจะเข้ามาดูแลบริหารการเงินของวัดทั้งหมด ระหว่างนั้นอดีตเจ้าอาวาส พูดต่อว่า ’ฟังนะ วัดทวีฯ หากฉันอยู่ไม่ได้ ทุกคนก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน’ หลังจากนั้นมีการลุกขึ้นยืนและเดิน พร้อมพูดใส่ไมค์ ชี้บอกว่า เจ้าคณะตำบลมันกินเด็กและเลี้ยงเด็ก ซึ่งทนายได้พูดโต้ตอบว่า จะดำเนินคดีทุกข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น ทั้งหมิ่นคณะสงฆ์และอื่น ๆ

ระหว่างนั้นมีการใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย และเดินวนอยู่ทั่วห้องประชุม มีการเดินไปหยิบไมโครโฟนบริเวณโต๊ะเจ้าคณะสงฆ์ และพูดจาชี้แจง ต่อว่า ทำนองว่า ประชุมอะไรก็ตั้งโต๊ะไม่เคยเรียกตนเองเข้ามาพูด ’วันนี้รู้สึกน้อยใจและรู้สึกอารมณ์ระเบิดแล้ว’ ซึ่งบางช่วงบางตอนได้เดินปรี่เข้าไปที่โต๊ะของเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันด้วย เจ้าหน้าที่ปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องเดินเข้าไปประชิดเพื่อปรามไม่ให้เกิดเหตุไม่ดีขึ้น

ขณะที่ประชาชนบางส่วน ที่เห็นด้วยกับอดีตเจ้าอาวาสก็มายืนล้อมหลัง และคอยเชียร์ให้อดีตเจ้าอาวาสพูดให้หมด บางส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับอดีตเจ้าอาวาส ก็นั่งฟังอดีตเจ้าอาวาสชี้แจง อยู่ที่เก้าอี้มีชาวบ้านได้บอกว่า อดีตเจ้าอาวาสเป็นหลานฉัน หลานฉันเป็นคนดี บวชมาไม่เคยสึกชอบทำบุญ ตั้งแต่เด็ก ถูกพระรวมตัวรวมหัวกันเพื่ออยากจะล้มอดีตเจ้าอาวาส มากล่าวหาตนเองว่าพกปืนและเป็นมาเฟีย ตนเองก็ทำมาหากินอยู่ที่วัดแห่งนี้ พระไม่เคยโกงกิน

ส่วนชาวบ้านหญิงรายหนึ่ง ได้ตะโกนพูดว่า ให้คนที่เปิดเผยวิดีโอออกมาชี้แจง ให้เอาคลิปออกมายันกัน ในมุมญาติโยมบอกว่ารับได้ไม่เป็นอะไร ก่อนจะหยิบแมสขึ้นมาใส่ และบอกว่าพระทุกองค์ที่นั่งอยู่ใครที่ไม่ช่วยตัวเอง เป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน แต่เมื่อไปขอขมากรรมแล้วก็จบ

ด้าน พระครูธรรมธรฐิติศักดิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ ผู้ถูกร้องเรียน เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้ในส่วนพระธรรมวินัยตนเองผิดก็คือผิดและได้ลาออก แต่ไม่ยอมรับข้อหาที่บอกว่าตนเองกระด้างกระเดื่อง มีการเข้าแจ้งความ โดยอดีตเจ้าอาวาสชี้แจงว่า ปกติตนอยู่วัดนิ่ง ๆ ทำวัตรเช้าและทำทุกอย่างตามปกติ ให้ทนายและพระอาจารย์ตรวจสอบได้เลย ส่วนเรื่องเงินทองที่กล่าวหาว่าตนเองยักยอกทรัพย์ของวัด ทั้งเงินทอดกฐินและอื่นๆ อดีตเจ้าอาวาส ชี้แจงว่า เพื่อความสะดวก โดยมีการจดเอาไว้เพื่อนำไปลงใช้ค่าใช้จ่ายทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังมีบางสื่อที่นำเสนอว่าตนเองมีปืน หรือเป็นมาเฟีย ยืนยันว่าตนเองเด็ดเดี่ยว ไม่เคยโกงกินวัด ตนเองไม่ใช่ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ ตนเองรักวัดนี้ และไม่ได้กระด้างกระเดื่องอะไร ฝากไว้ให้คิด และไม่ได้มีอำนาจใดแก่ใคร โดยอ้างว่า ทำอะไรรู้ตัวดี ฉันทำฉันได้แก่ตัวฉัน และเงินทองได้มา ก็เคลียร์ภาระต่างๆทั้งหมด รวมถึงเงินที่ยืมญาติโยมมาจัดงานประจำปีจำนวน 5,000,000 บาท โดยเงินนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในช่วงโควิด ไม่เคยโกงกินวัด สามารถตรวจสอบบัญชีได้ ไม่มีทรัพย์สินในตัว มีแต่โยมเอาทรัพย์สินมาให้ใช้

หลังจากแยกย้ายและเหตุการณ์เริ่มสงบ ทนายอนันตชัย ระบุว่า อยากให้พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนทุกท่านพิจารณาโดยใช้สติปัญญา ว่าอดีตเจ้าอาวาสที่ช่วยเหลือตัวเอง และนำเงินเข้าบัญชีส่วนตัว มีการออกเผยแพร่ข่าว ซึ่งได้ยอมรับแต่ไม่ยอมออกและลาสิกขา ทนายระบุว่า วันนี้คุณเก่ง คุณเป็นฮีโร่ แน่มาก ด่าคนนั้น ด่าคนนี้ แต่หลังจากนี้คุณจะมีแต่น้ำตา จะมีแต่ความทุกข์ยาก ลำบาก เพราะมูลนิธิฯ จะตรวจสอบทุกอย่างพร้อมร้องเรียนและดำเนินคดี

เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ ทนายอนันตชัยตอบว่า ไม่หนักใจเลยเพราะเรื่องนี้เด็กมาก เด็กอนุบาลเลย วันนี้ที่มูลนิธิมาตรวจตรวจสอบเพราะคณะสงฆ์จังหวัดปทุมธานีทำหนังสือขอความช่วยเหลือมาถึงมูลนิธิฯ อย่างที่ผู้อำนวยการสำนักพุทธได้ชี้แจง ยืนยันว่าเข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาไม่ได้เพื่อสร้างปัญหา ซึ่งคาดว่าใช้เวลาไม่นาน นอกจากนี้ฝากถึงบุคคลที่ทำบัญชีเท็จ ว่ามีทนายในจังหวัดปทุมธานีถึงเจ็ดคน และทำคดีให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย วัดก็สบาย มาดูกัน อย่ามาเป็นตัวเหลือบในวัด รวมถึงฆราวาสหากมีความเชื่อมโยงก็จะถูกดำเนินคดีด้วย และจะรู้ว่านรกมีจริง

ขณะที่ พระครูปริยัติยาคม เจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์รูปปัจจุบัน กล่าวว่า เรื่องนี้มีปัญหามามากมายตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2566 จนเกิดเรื่องขึ้นและทางคณะสงฆ์ทั้งหมดได้เรียกตรวจสอบและจับสึก โดยมีข้อเสนอให้เลือกว่าจะลาออก หรือจะให้ตรวจสอบ ซึ่งอดีตเจ้าอาวาสเลือกว่าจะลาออก ระหว่างนั้นจึงให้ทำสรุปเรื่องการเงิน

ตนเห็นใจในส่วนที่สร้างวัดวาอารามก็เยอะพอสมควร ตนเองมาอย่างลำบากใจ จากเจ้าคณะตำบลมาเป็น เพราะที่แห่งนี้มีหนี้อยู่อีก 29,000,000 ทั้งจังหวัดไม่มีใครอยากมา แต่ตนเองมาโดยอำนาจและตำแหน่ง ซึ่งทางคณะสงฆ์จังหวัดฯ ได้เรียกเข้าพบหลายครั้งเพื่อให้เข้าพูดคุยและสะท้อนปัญหา ตนเองเคยโดนขู่ด้วยว่า ’หากเจ้าอาวาสใหม่มา สั่งเก็บอย่างเดียว ตาย’ ตนเองก็ไม่กล้าเข้ามา จนกระทั่งเข้ามาจัดการหลายอย่างเริ่มเข้าที่แล้ว ส่วนเรื่องการเงินให้คนช่วยดูแล หลังจากนี้ จะแต่งตั้งทนายอนันตชัย ให้ช่วยดูแลเรื่องการเงินวัดทั้งหมด ซึ่งในช่วงท้ายได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานทุกหน่วย รวมถึงสื่อมวลชนที่เข้ามาช่วยเหลือด้วย

เบื้องต้น ได้แต่งตั้งให้ทนายอนันต์ชัยพร้อมทีมมูลนิธิกองทัพธรรม เข้ามาเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสและเป็นผู้จัดการผลประโยชน์ของวัดเนื่องจากมีพระและบุคคลทำตัวเป็นมาเฟียขัดขวางไม่ให้เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันเข้าจำวัด จาากวันนี้จะเข้าจำวัด และแต่งตั้งไวยาวัจกรณ์วัดคนใหม่อย่างถูกต้องตามกฏหมายและจะรวบรวมหลักฐานเส้นทางการเงินไปยื่นปปช. ให้ตรวจสอบต่อไป