"น้องไอซ์" อาการยังโคมา สมองบวมเลือดคั่ง อยู่ห้องไอซียู หลังพ่อ-แม่เข้าแจ้งความจับคนพี่เลี้ยงทำร้าย

ที่จังหวัดนครสวรรค์ จากเหตุการณ์พ่อ-แม่ ชาวจังหวัดพิจิตร แจ้งจับ 2 ผัวเมีย ทำร้ายลูกสาววัย 4 ขวบ 7 เดือน จนสมองบวมเป็นเจ้าหญิงนิทรา ซ้ำยังพบร่องรอยถูกข่มขืน หลังนำไปฝากเลี้ยง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น



โดยเด็กหญิงวัย 4 ขวบ 7 เดือน หรือน้องไอซ์ ได้ถูกส่งตัวมารักษาต่อ ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งอาการล่าสุดยังโคม่า ไม่รู้สึกตัว รักษาอยู่ในห้อง ICU อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง



ด้านคุณแม่น้องไอซ์ กล่าวว่า ตนเองไปทำงานที่กรุงเทพฯ และในช่วงที่นำน้องไปฝากเลี้ยงกับเพื่อนบ้าน ที่จังหวัดพิจิตร และจากการที่คุยกับลูกก็เห็นแค่ใบหน้าลูกเท่านั้น ไม่เห็นบาดแผลตามร่างกาย และก็มาผิดสังเกต เมื่อลูกเหมือนไม่ค่อยอยากคุย แต่ยิ่งมาสงสัยอีก เมื่อคนที่รับเลี้ยงลูก โทรมาบอกว่า ลูกมีอาการชัก ล้มไป และก็ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลยุพราช จังหวัดพิจิตร และก็ยังโทรรายงานว่าอาการน้องไม่ดีขึ้นเลย



หลังจากนั้นทางโรงพยาบาลยุพราช จึงได้นำตัวลูกมาส่งต่อที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จนถึงตอนนี้อาการลูกก็ยังไม่ตอบสนอง อาการไม่ดีขึ้น สมองบวม เลือดคั่งในสมองข้างซ้าย ปอดช้ำ แผลฝกช้ำตามร่างกาย อวัยวะเพศฉีกขาด ซึ่งเมื่อเห็นลูกแล้วทำให้ติดใจในหลายๆอย่าง และได้มีการแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจท้องที่แล้ว แม้จะถามความจริงกับผู้ที่รับฝากเลี้ยง เขาก็อ้างแค่ว่าลูกปั่นจักรยานล้ม



เมื่อถามถึงกรณีที่อีกฝ่ายออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีการทำร้าย และไม่มีใครข่มขืน รวมถึงยังให้ข้อมูลว่า เคยติดต่อให้พ่อและแม่พาลูกกลับไปเลี้ยงแล้ว ไม่ยอมเอากลับไปนั้น แม่ของน้องไอซ์ ระบุว่า ทางนั้นเขาเคยให้ตนเอาลูกกลับไปเลี้ยงจริง แต่เนื่องจากตนทำงานก่อสร้างอยุ่ที่กรุงเทพ ซึ่งก็ต้องมีการย้ายหน้างานอยู่บ่อยๆ ประกอบกับเรื่องเงินเดือนที่มีไม่ค่อยพอ และตนได้เลิกกับสามี ซึ่งเป็นพ่อของน้องไอซ์มาได้ประมาณ 6 เดือน จึงทำให้ตอนนั้นตนยังไม่พร้อม แต่ล่าสุดเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตนก็ได้ติดต่อกลับไปหาทางฝ่ายนั้นอีกครั้ง เพื่อจะเอาลูกกลับมาเลี้ยง ซึ่งก็ได้บอกกับทางนั้นไปด้วยว่าเรื่องค่าเลี้ยงดู เพราะมีแต่เงินค่าเดินทางที่จะไปรับลูกมาเพียงเท่านั้น แต่อีกฝ่ายหนึ่งเหมือนกลับลำ ไม่อยากให้ตนพาลูกกลับไป เพราะเขากลัวว่าตนจะเอาลูกไปทิ้งประกอบกับทางนั้นเขาจะให้น้องไอซ์ไปสมัครเข้าโรงเรียนด้วย จึงยังไม่ได้มีการไปรับลูกกลับ กระทั่งมาเกิดเรื่องขึ้น



ด้านพ่อของน้องไอซ์ กล่าวเช่นกันว่า ทางนั้นเขาได้มีการติดต่อให้มารับน้องไอซ์เอากลับไปเลี้ยงจริง และทางฝ่ายภรรยาก็ขอให้ตนช่วยไปรับลูกพากลับมาเลี้ยงก่อน ตนจึงได้ติดต่อกลับไปหาลูกเมื่อช่วงเดือนมกราคม โดยมีการคุยกันผ่านวิดีโอคอล แต่ปรากฏว่าเมื่อได้คุยกับลูก น้องไอซ์กลับจำหน้าตนไม่ได้ เขาจำได้เพียงแต่ชื่อเท่านั้น อีกทั้งตัวน้องไอซ์ก็บอกมาด้วยว่าไม่อยากจะมาอยู่กับตน เพราะอยู่ทางนู้นดีกว่า แถมยังเรียกฝ่ายนั้นว่าแม่ทุกคำด้วย ตนจึงมองว่า ถ้าทางฝ่ายนั้นเขาเลี้ยงดีกว่าและลูกของตนก็ดูจะติดเขา ตนจึงตัดสินใจยังไม่เอาลูกกลับมาเลี้ยง