สังคม

ผู้บริหารโรงพยาบาล เร่งตรวจสอบข้อมูลคนไข้หลุด หลังพยาบาลนำสำเนาบัตรปชช.ไปแอบอ้างกู้เงิน

โดย nutda_t

14 มี.ค. 2567

64.1K views

จากกรณีเสี่ยเจ้าของเต็นท์รถมือสอง แจ้งความว่าถูกพยาบาลหลอกให้รัก แล้วยืมเงินอ้างไปปล่อยกู้ สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ซ้ำฝ่ายหญิงยังแอบอ้างบัตรประชาชของคนไข้ ไปหลอกคนกู้

ทีมข่าวช่อง 3 เดินทางไปยังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านพัฒนาการ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ นางสาวธีรนันท์ ทำงานอยู่ จากการสอบถามได้ข้อมูลว่า นางสาวธีรนันท์ เป็นพยาบาลอยู่แผนก ER หรือ ฉุกเฉิน ทำงานมานาน 5-6 ปี แต่เพิ่งลาออกไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางผู้บริหารรับทราบเรื่องแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลและรายละเอียดว่า สำเนาบัตรประชาชนคนไข้หลุดออกไปได้อย่างไร



ขณะที่ บุรุษพยาบาลประจำรถฉุกเฉิน เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองได้ทำงานร่วมกับนางสาวธีรนันท์ ในช่วงโควิด 19 ระบาด นางสาวธีรนันท์ จะต้องออกไปตรวจตามหน่วยพยาบาลต่างๆ ซึ่งตนเองไม่ได้พูดคุย หรือสนิทสนมอะไรกับนางสาวธีรนันท์ มากนัก และไม่เคยทราบมาก่อนว่า มีการนำสำเนาบัตรประชาชนคนไข้ออกไปกู้เงิน ซึ่งในแผนกฉุกเฉินจะไม่มีการขอสำเนาบัตรประชาชนคนไข้ ส่วนใหญ่สำเนาบัตรและข้อมูลต่างๆของคนไข้ จะอยู่ที่เวชระเบียน ส่วนตัวไม่เคยได้รับการชักชวนจาก นางสาวธีรนันท์ ให้กู้เงิน



ด้าน วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างหน้าโรงพยาบาล เปิดเผยว่า นางสาวธีรนันท์ เคยเรียกรถตนเองให้ไปส่งหอพักฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นหอพักที่นางสาวธีรนันท์ มาเช่าอยู่หลายปีแล้ว เพิ่งเห็นล่าสุดประมาณปลายเดือนที่แล้ว หลังจากนั้นก็ยังไม่เห็นอีกเลย ทราบว่าน่าจะลาออกจากโรงพยาบาล และเท่าที่เห็น นางสาวธีรนันท์ เป็นคนเงียบๆ เรียบร้อย นิ่งๆ พูดน้อย ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว ส่วนตัวไม่เคยได้รับการชักชวนให้กู้เงิน มีแต่จะถามว่า งวดนี้มีเลขเด็ดอะไรบ้างไหม




ขณะที่คุณขวัญ หนึ่งในเจ้าของบัตรประชาชน 680 ใบ ที่ถูกนำมากู้เงินกับเฮียอ้วน เปิดเผยกับทีมข่าว ว่าไม่เคยรู้จักกับนางสาวธีรนันท์ และไม่เคยไปใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนย่านพัฒนาการ เพราะส่วนตัวอยู่แถวสมุทรปราการ มีโรงพยาบาลประจำอยู่แล้ว ส่วนบัตรประชาชนที่ ถูกนำไปกู้เงินโดยที่ตนเองไม่รู้คาดว่าน่าจะหลุดออกไปได้ 3 ทางที่ตนเองเคยให้สำเนาบัตรประชาชนใบนั้นไว้ คือ 1. ธนาคารที่ตนเองไปรีไฟแนนซ์บ้าน 2. คลินิกทำฟัน ย่านบางนา และ 3. คลินิกศัลยกรรม

ซึ่งตนเองเคยไปทำศัลยกรรมมี 3 แห่ง ที่แรกอยู่แถวแบริ่ง , ที่สองแถวศรีนครินทร์ และที่สามแถวลาดพร้าว โดยตนเองเชื่อว่าน่าจะหลุดจากคลินิกศัลยกรรม เพราะอยู่ระแวกเดียวกันกับโรงพยาบาลเอกชนที่พยาบาลคนนี้ทำงานอยู่ พร้อมตั้งข้อสังเกตุว่า พยาบาลคนนี้อาจเคยทำงานที่คลินิกใดคลินิกหนึ่งมาก่อน


คุณขวัญ ยืนยันว่า ไม่รู้จักพยาบาลที่ชื่อธีรนันท์ และไม่เคยกู้เงิน นอกระบบหรือกู้เงินผ่าน Application ใดๆทั้งสิ้น ก่อนหน้านี้ก็เคยมีโทรศัพท์ปริศนาโทรฯมาถามและทักไลน์มาถามแบบเดียวกัน ว่าใช่บัตรประชาชนของตนเองหรือไม่ และลักษณะข้อความที่ทักมาคุยเหมือนเป็นการคุกคามข่มขู่ ซึ่งตอนนั้น ตนยังคิดว่า เป็นพวกมิจฉาชีพกระทั่งมาเห็นข่าวเมื่อวาน โดยตนเองได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วว่า บัตรประชาชนดังกล่าวตนเองไม่ได้ใช้ในการกู้เงิน มีบุคคลอื่นแอบอ้างนำไปใช้และได้แจ้งหายบัตรประชาชนดังกล่าวไว้แล้ว


นอกจากนี้ มีเจ้าของบัตรประชาชนอีก 1 ใบ ชื่อ คุณนันท์ เป็นพยาบาลวิชาชีพ ซึ่งอยู่โรงพยาบาลเดียวกันกับนางสาวธีรนันท์ และเคยเป็นเพื่อนร่วมงานกันมาก่อน บอกว่าเมื่อ 4-5 ปีก่อน ตนเองทำงานอยู่แผนกเดียวกันกับนางสาวธีรนันท์ และได้มีการกู้เงินกับนางสาวธีรนันท์ จริง จำนวน 20,000 บาท ซึ่งช่วงนั้นนางสาวธีรนันท์ เคยพาเฮียอ้วน มาเจอกับตนเองด้วย เคยกินข้าวและพูดคุยกันบ้าง ช่วงที่ตนเองกู้เงิน จากนั้นไม่กี่เดือนก็มีการใช้เงินคืนจนหมดและไม่เคยกู้เงินกับนางสาวธีรนันท์ อีกเลย ต่อมาตนเองได้ย้ายแผนก ทำให้เริ่มห่างกับนางสาวธีรนันท์ และไม่ได้สนิทสนมกันเหมือนก่อน

กระทั่งตนเองได้รับการติดต่อจากเฮียอ้วน ว่าตนมีการไปกู้เงินอีก 300,000 บาท ซึ่งตนได้อธิบายกับเฮียอ้วนไปแล้วว่า ไม่ได้รู้เรื่องและไม่ได้เป็นคนกู้เงินดังกล่าว และมาทราบภายหลังว่านางสาวธีรนันท์ ลาออกจากโรงพยาบาลแล้ว เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งช่วงที่คบหาเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ตนยอมรับว่านางสาวธีรนันท์ ไม่ได้มีนิสัยใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่งตัวธรรมดาและเป็นคนเรียบง่าย ไม่คิดว่าจะมีพฤติกรรมแบบนี้


แท็กที่เกี่ยวข้อง  พยาบาลโกง ,กู้เงินนอกระบบ

คุณอาจสนใจ

Related News