พุทธศาสนิกชนเข้ากราบสักการะ 'พระบรมสารีริกธาตุ-พระอรหันตธาตุ' ร่วมเวียนเทียน-เจริญพระพุทธมนต์ แน่นสนามหลวง

วานนี้ (25 ก.พ. 67) ซึ่งเป็นวันหยุด และเป็นวันที่สอง ที่เปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ ณ มณฑลท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ  เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ระหว่างวันที่ 24 ก.พ. 2567 ถึงวันที่ 3 มีนาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. - 20.00 น.

โดยบรรยากาศตั้งแต่เวลา 18.00 น. พบว่า มีพระสงฆ์ และประชาชนชาวไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เป็นพุทธศาสนิกชน ต่างนำดอกบัว พวงมาลัยดอกไม้ดอกดาวเรือง ธูปเทียน เดินทางไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุฯ  ซึ่งประดิษฐานอยู่บนมณฑปกลางท้องสนามหลวง ซึ่งยิ่งค่ำ ประชาชนยิ่งเยอะ เพราะอากาศไม่ร้อน เมื่อเทียบกับช่วงกลางวันอากาศร้อน 34-35 องศา

นอกจากนี้ พุทธศาสนิกชนยังได้ร่วมกันเดินเวียนเทียนรอบมณฑป เจริญภาวนาจิต  และร่วมเจริญพระพุทธมนต์ ถวายเป็นพระพุทธบูชา และพระราชณกุศล เพื่อเป็นเป็นสิริมงคล เต็มพื้นที่โดยรอบท้องสนามหลวง โดยทางผู้จัดงานได้แจกหนังสือสวดมนต์ให้ทุกคน และได้จัดเตรียมสถานที่ไว้ให้กับพุทธศาสนิกชน ที่มาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ

ส่วนการจราจรโดยรอบสนามหลวงรถเยอะค่อนข้างติดขัด เจ้าหน้าที่ตำรวจมาอำนวยความสะดวกพื้นที่จอดรถสำหรับประชาชนทั่วไป ที่จะเข้าร่วมสักการะฯ ทางผู้จัดงานขอความร่วมมือให้เดินผ่านจุดคัดกรอง จำนวน 2 จุด ซึ่งอยู่บริเวณถนนผ่ากลาง ฝั่งตรงข้ามศาลฎีกา และฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

โดยมีตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล มาดูแลรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการจราจร มีการตั้งกองอำนวยการร่วม ณ หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากประชาชนทั่วไป ที่จะเข้าร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุฯ ให้แต่งกายด้วยชุดสุภาพ

-------------

จากกรณี รัฐบาลไทยร่วมกับสาธารณรัฐอินเดีย อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ จากอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ - 19 มีนาคม

ทั้งนี้ เป็นความร่วมมือของรัฐบาลไทย โดยกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และ กรมการศาสนา (ศน.) รัฐบาลสาธารณรัฐอินเดีย โดยสถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย พร้อมหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน

ขณะนี้ ได้อัญเชิญประดิษฐาน ณ มณฑป มณฑลพิธี ท้องสนามหลวง โดยเปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะ ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2567 นั้น

--------------

วานนี้ (25 ก.พ. 67) ที่มณฑลพิธี ท้องสนามหลวง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยกาศในวันที่ 2 ที่เปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง มีประชาชนเดินทางหลั่งไหล มากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ กันเป็นจำนวนมาก ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ โดยบางคนเดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้า แม้อากาศจะร้อน แต่พุทธศาสนิกชนยังคงเดินทางเข้ากราบสักการะ และร่วมเวียนเทียน เพื่อเสริมสิริมลคงมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้งวัน

นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวว่า บรรยากาศการเข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ เป็นไปอย่างคักคัก ประชาชนเดินทางเข้ากราบสักการะต่อเนื่องตลอดทั้งวัน

โดยผู้จัดงานได้เตรียมพื้นที่จุดพักคอยไว้ทั้งทางเข้าฝั่งศาลฎีกา และฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งรองรับประชาชนได้ฝั่งละ 1,000 คน รวมถึง มีบริหารอาหาร และน้ำดื่ม ให้กับประชาชนตลอดทั้งวัน

-----------------

ทั้งนี้ นอกจาก การกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุแล้ว ภายในบริเวณมณฑลพิธี ท้องสนามหลวง

ยังมีนิทรรศการ 'การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ วันที่ 28 กรกฎาคม 2567' ให้ความรู้ประกอบการสักการะ

“นับเป็นมหามงคลครั้งยิ่งใหญ่ ที่รัฐบาลไทยร่วมกับรัฐบาลอินเดีย อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ จากอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมพระราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ จึงขอเชิญชวนประชามาร่วมรับเสด็จ และสักการะเพื่อเสริมสร้างมงคลชีวิต ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนแต่งกายด้วยชุดสุภาพ งดเว้นสีดำ” นายชัยพล กล่าว

ในส่วนของการอำนวยความสะดวก เจ้าหน้าที่ได้จัดพื้นที่จอดรถสำหรับประชาชนทั่วไป 4 จุด ได้แก่

• ลานจอดรถสนามหลวง งดจอดวันที่ 26 กุมภาพันธ์
• ใต้สะพานพระราม 8
• ราชนาวีสโมสร
• ลานจอดรถกองสลากเก่า
• ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น.

ทาง ขสมก.จัดเดินรถเฉพาะกิจ ให้บริการประชาชน 3 เส้นทาง ฟรี คือ

• อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งเกาะพญาไท - สนามหลวง รถจะจอดใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฝั่งพระนคร
• เส้นทางวงเวียนใหญ่ - สนามหลวง
• เส้นทาง ท่าช้าง - สนามหลวง
• ให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น.หรือจนกว่าจะส่งประชาชนออกจากพื้นที่หมด

-------------

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/T2Vj9kFByuo