โผล่อีก! ยึดพื้นที่ส่วนกลางสร้างลานจอดรถในหมู่บ้าน ลั่นเทศบาลไม่เห็นว่าอะไร

จากเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ Return Part 6 ได้โพสต์ข้อความ เรื่องชาวบ้านคืองานของเรา ปัญหาโลกแตกปัญหาเพื่อนบ้าน ขอความช่วยเหลือหน่อยครับ ในกรณีนี้ใช้พื้นที่ส่วนกลาง มาเป็นของตัวเอง โดยการสร้างหลังคาขึงเชือกเอาแผงมากั้น โดยไม่ให้คนอื่นเข้าไปใช้ ที่ดินตรงนี้เจ้าของโครงการได้จดภาระจำยอมให้เป็นแปลงทาง ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ทางเดิน ทางรถ ได้ เข้า ออก ได้ แต่เจ้าของโรงงานนำสิ่งของมากีดขวาง มิให้คนในโครงการนี้ ใช้เลยครับ พื้นที่นี้อยู่ ซ.สุดใจ โครงการร่วมจิตแลนด์ จ.นนทบุรี ซ.วัดลาดปลาดุก

วันที่ 12 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ในโครงการร่วมจิตแลนด์ ซอยสุดใจ ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบนายนภัสดล ผู้ร้องเรียนซึ่งเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ เปิดเผยว่า เดิมพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่จัดสรรมาก่อน ตลอดระยะเวลาที่อยู่ร่วมในโครงการ ชาวบ้านในโครงการแห่งนี้ต่างก็ได้รับความเดือดร้อนจากถนนที่พังเละเทะมาตั้งแต่ปี 35 พื้นที่จัดสรรแห่งนี้ไม่มีการปรับปรุงอะไรเลย น้ำประปาก็ไม่มีใช้ ทุกวันนี้ต้องอาศัยใช้น้ำบาดาลแทน ซึ่งก็ไหลบ้างไม่ไหลบ้าง แถมน้ำก็มีกลิ่นอีกพวกชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในโครงการนี้อยากให้ผู้มีอำนาจลงพื้นที่เข้ามาช่วยเราหน่อยเพราะได้รับความเดือดร้อนกันอย่างมากมาเป็นเวลานานแล้ว

นายนภัสดล กล่าวว่า และยังมีปัญหาที่เพิ่มขึ้นมาอีก เมื่อเจ้าของบริษัทในโครงการได้สร้างหลังคา และนำไม้นำเชือกมากั้นยึดพื้นที่ส่วนกลางไปเป็นพื้นที่จอดรถของตัวเอง ทำให้ชาวบ้านในโครงการไม่สามารถใช้พื้นที่จุดดังกล่าวกลับรถได้ และยังสร้างความกังวลใจให้กับชาวบ้านว่าหากเกิดเพลิงไหม้ขึ้นมา รถดับเพลิงจะเข้ามากลับรถลำบากเพราะจุดกลับรถของส่วนกลางถูกยึดไปแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่เป็นพื้นที่สาธารณะแท้ ๆ ก่อนหน้านี้ตนเคยถามกับเจ้าของบริษัทไปแล้วว่าเขานำไม้มากั้นเชือกมากั้นทำอะไร เขาบอกว่าจะสร้างที่จอดรถ ตนก็บอกจะทำแบบนั้นไม่ได้ แต่เจ้าของบริษัทยืนยันว่าจะทำ และเขาไม่สนใจอะไร โดยเขายังถามตนย้อนกลับมาว่า เขาจะสร้างเป็นโรงจอดรถแล้วใครจะเดือดร้อน ถ้าเดือดร้อนก็ให้ไปแจ้งเทศบาล เพราะเทศบาลไม่เห็นจะมาว่าอะไรเขาเลย

นายนภัสดล กล่าวอีกว่า ตอนนี้ชาวบ้านได้พยายามรวบรวมเงินกันเพื่อจ้างทนายให้ยื่นฟ้องเรื่องนี้ต่อศาล เพื่อขอให้เจ้าของโครงการยกพื้นที่ให้อยู่ในความดูแลของเทศบาล เป็นพื้นที่สาธารณะ ซึ่งจะทำให้ทางเทศบาลมีสิทธิ์เข้ามาปรับปรุงถนนที่พังเสียหายได้ เพราะที่ผ่านมาแม้ว่าทางเทศบาลอยากจะมาปรับปรุงซ่อมแซมถนนที่พังชำรุดให้ แต่ก็ติดขัดในเรื่องกฎหมาย ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ ชาวบ้านจึงพยายามติดต่อกับทางเจ้าของโครงการ เพื่อขอให้ยกพื้นที่ให้เทศบาลดูแลแทน แต่เจ้าของโครงการไม่ยอม และไม่มีการพัฒนาปรับปรุงอะไร กลุ่มชาวบ้านจึงตัดสินใจที่จะยื่นฟ้องร้องต่อศาลแทน โดยได้ยื่นฟ้องไปเมื่อปี 66 และนัดสืบพยานวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งทางกลุ่มชาวบ้านก็ยังไม่รู้ชะตากรรมต่อไปว่าทางศาลจะพิจารณามีความเห็นอย่างไร ทั้ง ๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนมานานนับสิบ ๆ ปี


นายนภัสดล กล่าวว่า ปัจจุบันท่อระบายน้ำในโครงการก็พังไปหมดแล้วตั้งแต่ปี 35 ฝนตกน้ำก็ท่วม อยากให้เจ้าของโครงการเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนรวมของชาวบ้านบ้างเพราะโครงการนี้ก็ขายได้หมดแล้ว แต่ถนนทางโครงการไปจดไว้ให้เป็นภาระจำยอมเท่านั้น และทางเจ้าของโครงการก็ไม่เคยมาปรับปรุงอะไรให้ตั้งแต่ปี 35 ทำให้พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ในจังหวัดนนทบุรีที่แปลกมาก กลายเป็นพื้นที่โครงการจัดสรรที่ไม่มีน้ำประปาแถมถนนก็พังยับ


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยังเจ้าของบริษัท แต่ไม่มีใครรับสายจึงไม่สามารถติดสอบถามเพื่อฟังคำชี้แจงได้ จากการสอบถามนายอู๊ด อายุ 69 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทแห่งนี้ กล่าวว่า เจ้าของบริษัทที่ยึดพื้นที่สาธารณะมาสร้างเป็นที่จอดรถนั้น เพราะทางบริษัทไม่มีที่จอดรถประกอบกับบริษัทมีพนักงานเยอะ จึงได้นำพื้นที่ดังกล่าวมาสร้างเป็นที่จอดรถแทน


โดยนายนภัสดลได้พาผู้สื่อข่าวชี้จุดที่บริษัทแห่งนี้ทำการบุกรุกพื้นที่ส่วนกลางด้วยการสร้างหลังคา และนำไม้มากั้นพื้นที่ดังกล่าวไว้ ไม่ให้คนอื่นเข้าไปใช้ประโยชน์ร่วมกัน พร้อมกับยืนยันว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นที่ส่วนกลาง เมื่อเจ้าของบริษัทแห่งนี้มายึดพื้นที่ส่วนกลางไป จึงทำให้ชาวบ้านในโครงการไม่สามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางดังกล่าวในการกลับรถยนต์เข้าออกได้