คลิปเสียง ‘จ-ศ’ ต่อรองเรียกเงิน อธิบดีกรมการข้าว 1.5 ล้าน ขอก่อนปีใหม่ ยันจ่ายแล้วไม่ร้องใหม่

เมื่อวานนี้ (28 ม.ค. 67) ในรายการ เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ เราได้หลักฐานสำคัญ คดีตบทรัพย์ นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ซึ่งทนายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกุล ที่ปรึกษากฎหมายอธิบดีกรมการข้าว เป็นผู้เปิดเผย และอนุญาตให้เรานำเสนอ

โดยหลักฐานที่ได้มา มีทั้งคลิปเสียงสนทนาระหว่าง....

• นาย จ. กับ นางธัญญรัตน์ ไชย์ศิริคุณากร ภรรยาอธิบดีฯ
• นาย ศ. กับภรรยาอธิบดีฯ
• แชทการสนทนาตกลงเรื่องเงิน
• สลิปการโอนเงิน
• ภาพถ่ายการส่งมอบเงินให้นาย ศ.
• รวมถึงภาพวงจรปิดนาย จ . พร้อม เลขา ต. เดินทางไปพบ อธิบดีฯ ที่กรมการข้าว
  

ซึ่งหลักฐานสำคัญทั้งหมดที่เราได้มา เกิดขึ้นหลังการแถลงข่าว เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566  ที่รัฐสภา

ซึ่ง นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน และ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ได้ไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง โครงการประกวดราคาซื้อเครื่องบินขนาดกลางของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ซึ่งระบุว่า พบกลิ่นไม่ดี

ในช่วงท้ายการแถลงข่าว 'เจ๋ง ดอกจิก' อ้างว่า มีการทุจริตในกรมการข้าวอย่างมโหฬาร หลักหมื่นล้าน  ผู้บริหารระดับกรมฯ แต่งตั้งภรรยา ให้ตั้งบริษัทขึ้นมารองรับ มีการจ่ายเงินจ่ายทองกัน

ทนายดนุเดช ให้ข้อมูลว่า ช่วงค่ำวันเดียวกัน (20 ธันวาคม 2566) นาย จ .ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปยัง นายณัฏฐกิตติ์ อธิบดีกรมการข้าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้

กระทั่งเช้าวันต่อมา วันที่ 21 ธันวาคม 2566 ได้ติดต่อกันอีกครั้ง  โดย นาย จ. บอกจะขอไปกินกาแฟด้วย และมีการเดินทางไปที่กรมการข้าว  ซึ่งทนายดนุเดชมอบภาพวงจรปิดให้เรา

จากภาพวงจรปิด ระบุเวลา 12.11 น. (วันที่ 21 มกราคม 2566) ปรากฎภาพ  นาย จ. พร้อม เลขา ต.  เดินทางมาที่ กรมการข้าว  โดยมี อธิบดีฯ เดินประกบคู่ นาย จ.

ทนายดนุเดช ยังอ้างว่า มีคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นาย จ. กับ ภรรยาอธิบดีฯ  ในวันที่ 21 ธันวาคม 2566  (คลิป ความยาว 07.30 นาที ) ซึ่งการพูดคุยนี้ เกิดขึ้นหลังจาก นาย จ. ไปพบอธิบดีฯ ที่กรมการข้าวแล้ว

โดยนาย จ. เริ่มบทสนทนากล่าวทักทายว่า “สวัสดีครับคุณนาย” ซึ่ง ภรรยาอธิบดี ได้ถามต่อว่า “เราจะทำยังไงกันดี ยอมรับ มีความกังวล”

นาย จ. พยายามพูดจาโน้มน้าว ให้ภรรยาอธิบดีฯ จ่ายเงินให้จบก่อนปีใหม่ “เพื่อล้างคราบมั่วหมองไม่ให้เกิดขึ้นกับอธิบดีฯ  กว่าจะสู้ กว่าจะพิสูจน์ทราบว่าเราบริสุทธ์ ก็ไปไกลแล้ว”

นาย จ. ยังอ้างด้วยว่า ได้พูดคุยกับฝั่งนู้น (หมาย ถึง นาย ศ. ) โดย นาย จ. เป็นตัวกลาง ช่วยต่อรองราคา จาก 2 กิโล เหลือ 1.5

“ผมก็บอกว่าเอาไปแบ่งกัน 1.5 แล้วก็ไปเที่ยวก่อนปีใหม่  ไปเที่ยวแล้วก็ปิด เรื่องก็จบ //  เรื่องนี้กูขอแล้วกัน //  ส่วนเรื่องอื่นๆเนี่ยเดี๋ยวกูจะเคลียร์ข้างบนเอง ข้างบนเนี่ยกูไม่ให้ใครยุ่ง ส่วนข้างล่างมึงก็ปิดให้เรียบร้อย อย่าให้อะไรมันโผล่มาอีก เช่นเรื่องกรมการข้าว อย่าให้อะไรโผล่มา”

ขณะที่ ภรรยาอธิบดีฯ ได้พยายามต่อรองขอลดจำนวนเงินและขอจ่ายหลังปีใหม่   แต่ นาย จ. ย้ำว่า  “มีหลายคน ต้องเอาไปแบ่งกันหลายทีม ได้คนละไม่เท่าไร ปิดๆไปเถอะ  ถือว่ารักษาความมัวหมอง เป็นเกราะป้องกันให้อธิบดี”

ภรรยาอธิบดีฯ ยังถามเพื่อความมั่นใจ ว่า “หากจ่ายเงินไปแล้ว จะไม่มีการมาร้องเรียนใหม่ ใช่หรือไม่”  นาย จ. รับปากว่า จะไม่มีการร้องเรียนและบอกด้วยว่า “ผมรับผิดชอบเอง ผมไม่ให้มาแตะเรื่องนี้อีก”

ในช่วงท้ายคลิป นาย จ . บอกว่า หลังจากนี้ให้ประสานกับ “ตูน” ว่าจะนัดหมายกันยังไง ถือว่าเคลีย์จบทั้ง 2 ฝ่าย หมดหน้าที่แล้ว จะไปประชุมกรรมาธิการต่อ  ก่อนจะพูดทิ้งท้ายว่า “ใครร้องเรียน คณะกรรมมาธิการที่ผมอยู่  ผมทุบขี้แตกเลยนะ”

ทนายดนุเดชยังให้ข้อมูลอีกว่า  ในวันที่ 21 ธันวาคม 2566  ภรรยาอธิบดีฯ ได้พูดคุยกับ เลขา ต. โดยมีการแลกไลน์กัน กระทั่งช่วงเย็น เลขา ต.กับ ภรรยาอธิบดีฯ ได้มีการพูดคุยผ่านไลน์  โดยตกลงเรื่องเงินที่ต้องจ่าย

ซึ่งเลขา ต. ระบุว่า  “1 ขีด พอค่ะ จะได้มีเงินเที่ยวปีใหม่”  “ส่วนที่เหลือไว้ปีใหม่”  ก่อนจะส่งเลขบัญชีให้ และนำไปสู่การโอนเงินในเวลาต่อมา

ทนายดนุเดช   ยังเผยหลักฐานการโอนเงิน  ระบุวันที่ 21 มกราคม 2566  เวลา 19.29  น.  นางธัญญรัตน์ โอนเงินไปยังบัญชีตามที่ เลขา ต. ให้ไว้ เป็นเงินจำนวน 50,000 บาท  โดยระบุในบันทึกช่วยจำ ว่า “ค่าทีมทำเอกสารศรีสุวรรณ เรียกรับเงิน ร้องเรียนอธิบดีกรมการข้าว ภรรยา ตามตูนแจ้งมา”

และมีการโอนอีกครั้ง วันที่ 23 ธันวาคม 2566  จำนวน 10,000 บาท จากบัญชี ภรรยาอธิบดีฯ ไปยัง บัญชีเดิม โดยระบุในบันทึกช่วยจำ ว่า “ตูนเรียกรับเงิน  ให้เคลียร์ทีมทำเอกสาร ให้ศรีสุวรรณ ร้องกรมการข้าว นี่คือการล่อซื้อ”

นอกจากนี้ ทนายดนุเดช   ยังเปิดเผยคลิปอีก 2 คลิป ความยาว 04.30 นาที กับ  ความยาว 14.45 นาที   ซึ่งทนายระบุ ว่าเป็นคลิปต่อเนื่องกัน  หลังวันที่ 21 ธันวาคม 2566 (ทนายจำไม่ได้ บอกอยู่ระหว่าง ปลายปี 2566  ต่อเนื่องต้นปีที่ผ่านมา)

โดยคลิปความยาว 04.30 นาที อ้างว่า เป็นคลิปการสนทนาระหว่างนาย จ. กับภรรยาอธิบดี ฯ ซึ่งบทสนทนา คล้ายเป็นการขู่ภรรยาอธิบดีฯ ว่า “เคลีย์จบที่นาย ศ. คนเดียวเท่านั้น”

ต้นคลิปเสียงได้กล่าวถึง นาย ศ. ระบุ เรื่องใหญ่จะอยู่ที่นาย ศ. ไปจัดการที่ ศ. จะเป็นคนจบเรื่องทุกอย่าง  คนที่เป็นข่าว ก็คือ นาย ศ.

บางช่วงในคลิป ได้กล่าวพาดพิงถึงอธิบดีกรมฝนหลวง กล่าวหาว่า มีการล็อคสเปคทีโออาร์ เอาเครื่องตัวถังของรัสเซียมา ผิด พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง ฮั้วประมูล

พร้อมยังขู่อีกว่า อธิบดีกรมฝนหลวงจะโดนหนักและอาจจะต้องติดคุกด้วย และยังบอกอีกว่าเรื่องนี้ กำลังจะเข้ากรรมาธิการ และจะถูกตรวจสอบ  แต่ตน (ซึ่งหมายถึง นาย จ. )สามารถยับยั้งได้

ในคลิปยังพูดพาดพิงถึงที่ปรึกษารัฐมนตรีท่านหนึ่ง ที่เคยเปิดห้องเคลียร์กับนาย ศ. แล้ว แต่ทางอธิบดีกรมฝนหลวงดื้อไม่ยอมไปคุยเอง

ในคลิป นาย จ. พยายามหว่านล้อมให้ ภรรยาอธิบดีฯ ไปเคลียร์กับนาย ศ. เพื่อให้ทุกอย่างจบ จะได้ทำมาหากินกันอย่างสบาย ส่วนเงินที่ยังค้างจ่ายอีกเท่าไหร่นั้น ตนไม่ขอรับรู้ ตนเพียงมีหน้าที่มาพูดคุยเจรจาเพื่อให้เรื่องจบเท่านั้น

ส่วนอีกคลิป นาย จ .กดดันให้จ่ายเงิน โดยใช้คำพูดลักษณะต่อว่า  ภรรยาอธิบดีฯ ที่ไม่ยอมจัดการให้เรียบร้อยตามที่ตกลงกันไว้ และไม่ควรไปสืบหาว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง ก่อนจะพูดข่มขู่ว่า ถ้าไม่จบ เรื่องก็จะบานปลาย

“ความจริงผมเคลียร์จบทุกเรื่องแล้ว แต่คุณไม่จัดการให้เรียบร้อย ตามคํามั่นสัญญาที่ตกลงกันไว้ ผมก็พยายามบังให้ทุกฝ่าย แต่ไปเที่ยวถามคนนั้นคนนี้ ไปเที่ยวสืบ ไปเที่ยวถาม

ตัวใหญ่ คือ ศ.ที่คุณไปพบนั่นแหละ และก็ทีมหลังบ้าน ปิดที่ผม ปิดที่ ศ.คนเดียว  เราทำตามข้อตกลงว่าเราจบกันแค่นั้นตัวเลขนั้น  //เอาวัสดุธรรมชาติไปวางไว้ที่ ศ. จบ  ไม่ต้องห่วง ผมรับผิดชอบทุกอย่างให้เอง หากไม่จบ เรื่องจะไปใหญ่ อาจถูกโยงไปถึงเรื่องตีนไก่ จะฟุ้งไปเรื่อย ”

ในคลิป นาย จ. พยายาม พูดให้ภรรยาอธิบดีฯ รีบเคลียร์ให้จบ (บางช่วงน้ำเสียง นาย จ. เริ่มมีอารมณ์)

ดยนำประเด็น “อธิบดีกรมฝนหลวง” มาข่มขู่  อ้างว่าจะโดนหนักในชั้นกรรมมาธิการ  โดยกล่าวพาดพิงถึงกรรมาธิการชุดนี้ “ประธานคือคณะก้าวไกล พวกก้าวไกลมันไม่ยอมมัน มันล่อหนักเลย ฝนหลวงเนี่ย  การเมืองเวลาเค้าล่อกันเนี่ย จริงเท็จมันอีกเรื่องนึงที่ต้องไปแก้กันแก้กันในชั้นกรรมาธิการ ไปแก้กันในศาล แต่เรื่องอะไรจะให้เราเป็นเรื่องด่างพร้อยหมองมัวหล่ะ ผมก็พยายามช่วยทุกอย่างแล้ว”

อีกคลิป (ความยาว 02.08 นาที) ทนายดนุเดช    อ้างว่า  เป็นเสียงสนทนา ของภรรยาอธิบดีฯ คุยกับ นาย ศ.  (วันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา) โดยเป็นการคุยกันหลังจากที่มีการโอนเงินไปให้ส่วนหนึ่งแล้ว แต่ยังโอนไม่ครบตามจำนวนที่ตกลงกัน 1.5 ล้าน ทำให้ต้องมีการเจรจาว่าต้องจ่ายเงินส่วนที่เหลืออีก

ช่วงแรก ภรรยาอธิบดีฯ ได้ถามนาย ศ. ว่า เลขา ต. นั้นเชื่อใจได้แค่ไหน ก่อนที่ นาย ศ. จะหัวเราะออกมา และเอ่ยถึงสถานะของ นาย จ. กับ เลขา ต.  ว่า

“ก็เมียไอ้เจ๋ง เชื่อใจได้แค่ไหน ก็ไม่รู้สิ และยอมรับทั้งคู่เป็นผัวเมียกัน”

ภรรยาอธิบดีฯ พยายามอธิบายถึงสาเหตุที่ยังตกลงกันไม่ได้ เหมือนเรื่องไม่จบ เพราะ ฝ่าย เลขา ต. มีการเรียกเงินอีก 1 แสนบาท

“เหมือนเรื่องยังไม่ค่อยจะจบ สรุปแล้ว 1.5 ล้าน มีการหักออก 6 หมื่น ทางนั้นบอกว่าฝ่ายเอกสารตาม ขออีก 1 แสน ให้จ่ายที่เขา ส่วน 1.4 ล้าน เอามาให้พี่ (คือ นาย ศ. )

นาย ศ. ยืนยัน ตามข้อตกลง คือ 1.5 ล้าน ถ้าเบิกไปแล้ว 6 หมื่น ก็จะเหลือ 1 ล้าน 4 แสน 4 หมื่น ส่วนที่เหลือจะไปคุยอะไรไม่เกี่ยว ศรีไม่รับรู้ ไม่รับทราบ

"ถ้าจบตรงนี้ มันก็จบตรงนี้ มันจะไปที่อื่นได้ยังไง ไม่ต้องไปฝืน จะมาฝืนข้อตกลงที่ผมกำหนดไว้ได้อย่างไร ไม่มีอะไรหรอก มันก็แกล้ง"

ซึ่งท้ายบทสนทนา ภรรยาอธิบดี บอกว่า “เอาอย่างนี้ เดี๋ยวหนูไปหาพี่ดีกว่า อีกสักพักคงถึง”

นอกจากนี้ ทนายดนุเดช ยังเปิดเผยหลักฐาน อ้างว่า  ภรรยาอธิบดีฯ เดินทางไปที่บ้าน นาย ศ  เพื่อมอบเงินให้ นาย ศ. จำนวน 1 แสนบาท โดยทนาย ยืนยันว่า มีการบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน และเห็นชัดว่า บุคคลในภาพ คือ นาย ศ.  (วันที่ 6 มกราคม 2567)

ทั้งนี้ ทนายดนุเดช ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า ก่อนที่นายศรีสุวรรณ จะแถลงข่าว เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 นั้น ภรรยาอธิบดีฯ ได้เดินทางไปพบ นาย ศ ที่บ้าน เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566  โดยทนายความอ้างว่า ในวันนั้น  ภรรยาอธิบดีฯ ได้จ่ายเงินหลักแสน ให้ นาย ศ เพื่อให้ตายใจ

---------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/9MBpxMS69QU