เวทนา แม่ลูกอ่อนถูกมิจฉาชีพหลอกล้วงข้อมูล โดนคดีฉ้อโกง-ติดคุก ต้องเลี้ยงลูกคาห้องขัง

สะเทือนใจ แม่ลูกอ่อนถูกมิจฉาชีพ หลอกเอาข้อมูลจนกลายเป็นผู้ต้องหาฉ้อโกง ถูกจับเข้าห้องขังพร้อมลูกน้อยวัย 4 เดือน เวทนา ต้องให้นมคาห้องขัง ร้องเพจสายไหมต้องรอดช่วยเหลือ

ภาพที่เห็นอยู่นี้ ต้องบอกว่าสะเทือนใจกับการที่แม่ลูกอ่อน ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง แล้วไม่มีใครสามารถเลี้ยงลูกได้ เพราะลูกกินนมแม่ ทำให้ต้องเลี้ยงลูกในห้องขัง อุ้มให้นมและหลับในห้องขัง 1 คืน จนกระทั่งเมื่อวานนี้ 25 มกราคม ตำรวจจะนำตัวไปฝากขัง คุณแม่รายนี้จึงร้องขอความช่วยเหลือไปที่เพจสายไหมต้องรอดให้ช่วยเหลือ

ต่อมา นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เข้ามาช่วยเหลือ โดยใช้เงินสดจำนวน 3 หมื่นบาท ยื่นประกันตัวชั่วคราว และพาแม่ลูกอ่อน ออกจากห้องขัง

ทีมข่าวสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เหตุใดนางสาว ชุติกาญจน์ อายุ 22 ปี คุณแม่ลูกอ่อนรายนี้ ถึงถูกจับกุม เธอเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า หลังจากที่คลอดบุตร ก็อยากหารายได้พิเศษ เพื่อนำมาเลี้ยงลูก เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ไปเห็นในเฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เชิญชวนให้เข้ากลุ่มเทรดหุ้น แล้วจะได้รับเงินทันที 300 บาท นางสาวชุติกาญจน์ก็เชื่อใจ ทักแชทไปสมัครเข้าร่วมกลุ่มหวังจะได้เงิน 300 บาท เพื่อเอาไปซื้อแพมเพิส โดยมิจฉาชีพ ก็ให้เปิดแอปพิเคชั่น ส่งภาพบัตรประชาชน หน้า-หลัง และข้อมูลส่วนบุคคล แล้วบอกให้รออย่างเดียว เดี๋ยวโอนเงิน 300 บาทให้

และยังมีการบอกให้นางสาวชุติกาญจน์ไปชวนพี่สาวมาสมัครด้วย  ต่อมานางสาวชุติกาญจน์พยายามสอบถามว่า เมื่อไหร่จะได้รับเงิน ก็ไร้การตอบรับ และ ติดต่อไม่ได้อีกเลย โดยมีหลักฐานแชท ที่นางสาวชุติกาญจน์ สนทนากับมิจฉาชีพดังกล่าวด้วย  นางสาวชุติกาญจน์ บอกอีกว่า ตอนนั้นรู้ตัวแล้วว่าโดนหลอก ก็เครียดเพราะเอาข้อมูลให้เขา แต่คิดว่าคงไม่เกิดอะไร

จนกระทั่งเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดนคดีฉ้อโกง กลายเป็นผู้ต้องหาฉ้อโกง เพราะไปหลอกผู้เสียหายรายหนึ่ง มัดจำกระเป๋าแบรน์เนม โดนที่นางสาวชุติกาญจน์ไม่ได้ทำ แต่มิจฉาชีพนำข้อมูลไปหลอกมัดจำกระเป๋าอีกทอดหนึ่ง จำนวน 90,000 บาท

“ตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร อยากคุยกับผู้เสียหาย อยากบอกเขาว่าหนูไม่ได้ตั้งใจโกงเงิน ไม่ได้หลอกเขา แต่หนูโดนหลอกเค้าหลอกเอาบัญชีเอาข้อมูลไปหลอกเค้าอีกที”

เมื่อถามความรู้สึกตอนอยู่ห้องขัง นางสาวชุติกาญจน์ ถึงกับปล่อยโฮ ร้องไห้ออกมา บอกว่า ตอนที่อยู่ในห้องขังกับลูก มันท้อโดนขังข้ามคืน ตอนนั้นไม่รู้ว่า ถ้าติดคุกจริงๆ ลูกจะอยู่อย่างไร แล้วลูกก็ติดแม่มาก ไม่ยอมไปอยู่กับพ่อ เพราะต้องกินนมแม่ ลองเอานมผงให้กินก็ไม่เอา ได้แต่ร้อง แต่พออยู่กับแม่จะเงียบ เลยต้องอยู่กับแม่ในห้องขัง ไม่รู้จะทำอย่างไร จนกระทั่งเพื่อนบอกให้ขอความช่วยเหลือที่เพจสายไหมต้องรอด ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะมีคนมาช่วย พอพวกพี่เค้ามาช่วยก็ดีใจมาก ความรู้สึกตอนอยู่ในห้องขังมันแย่มากๆ ต้องนั่งร้องไห้ไป ให้นมลูกไป

“อยากฝากถึงคนที่หลอกเอาข้อมูลไปว่า อย่าหากินแบบนี้ คนอื่นที่เขาไม่มีกินจริงๆก็มี อย่าทำแบบนี้กับคนอื่นอีกเลย”

ทางด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ์  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า ตอนแรก ก็ใม่เชื่อว่าน้องจะต้องให้นมลูกในห้องขังแบบนั้น แต่พอน้องส่งภาพและคลิปมา ก็รีบเข้ามาช่วยก่อนตำรวจจะนำไปฝากขัง มิจฉาชีพที่ทำกับน้องถือว่าเลวมาก น้องเขาเป็นแม่ลูกอ่อน พึ่งคลอดลูก และยากจนไม่มีเงินซื้อแพมเพิสพอไปเจอใน Facebook ลงทะเบียนเทรดหุ้นจะได้เงิน 300 ฟรีเขาก็ก็เลยยอมลงทะเบียนและไปคุยกับมิจฉาชีพและคุยขอข้อมูลและเข้าใจว่าจะเอาข้อมูลไปลงเทรดหุ้น เพื่อแลกกับเงิน 300 บาทและมีหลักฐานคุยทั้งหมดจากนั้นได้ข้อมูลแล้วก็หายเลยไม่ได้ให้

น้องคิดว่าคงโดนหลอก แต่ไม่คิดว่าจะชั่วขนาดนำข้อมูลไปเปิดบัญชีกับธนาคารเกียรตินาคินนำไปหลอกคนอีกทอด ตอนแรกตำรวจติดต่อไปน้องเข้าใจว่าเป็นตำรวจปลอม จนกระทั่งตำรวจ สน.ทองหล่อ ติดต่อไปที่พื้นที่ ที่อาศัยอยู่เขาจึงได้เชื่อ แต่ตอนพนักงานสอบสวนส่งหมายเรียกก็ส่งไปที่ภูมิลำเนาจังหวัดลำพูน ทำให้ไม่ได้มาพบพนักงานสอบสวน จนกระทั่งมีหมายจับและถูกจับกุม

ซึ่งเมื่อวานนี้ 25 มกราคม ตำรวจจะนำตัวไปฝากขัง ตนจึงคิดว่าสภาพของแม่ลูกอ่อนที่ยังต้องให้ให้นมลูกเมื่อถูกไปฝากขังจะเป็นแบบใดจึงโทรหาผู้กำกับ สน.ทองหล่อ ขอประกันตัวน้องออกมา และจากนี้จะพาไปกระทรวงยุติธรรมในการช่วยเหลือเรื่องคดีความด้วย เพราะหลักฐานชัดเจนว่าถูกหลอกจริง และอยากขอร้องเจ้าของที่โอนเงินมัดจำกระเป๋ากับมิจฉาชีพอยากบอกว่า บัญชี ที่โอนเข้าไปนั้นเป็นบัญชีของน้อง ที่โดนหลอกจากมิจฉาชีพ หากเห็นใจจะเอาบุญก็อยากขอให้ถอนคำร้องทุกข์ หรือหากจะรับเป็นเงินก็ขอให้น้องได้ทำงานก่อนแล้วจะผ่อนชำระให้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/aB8pdb54i2w