โจรแสบ! โรยตัวจากบนฝ้าหลังคา ขโมยมือถือกว่า 10 เครื่อง

วันที่ 17 ธันวาคม 66 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านชามิลโมบาย ที่ตั้งอยู่ตลาดปาลัส อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ที่โดนโจรอาศัยในช่วงที่ร้านปิด และไม่มีคนอยู่ขโมยมือถือทั้งที่เป็นเครื่องใหม่ และเครื่องของลูกค้าที่ฝากไว้ กวาดมือถือไปกว่า 10 เครื่อง โดยทิ้งร่องรอยฝ้าเพดานที่เป็นรูขนาดใหญ่ และกระจกตู้โชว์ที่แตกละเอียดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะหลบหนีออกไปทางหลังร้านต่อไป โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเช้าตรู่วันที่ 17 ธันวาคม 2566 เวลา 04.37 น.

ซึ่งจากภาพวงจรปิดของร้านเห็นหน้าคนร้ายชัดเจนเป็นผู้ชายที่มีอายุประมาณ 50-60 ปี สวมเสื้อสีดำ แล้วสวมเสื้อกั๊กสีน้ำเงินทับอีกชั้ย คาดกระเป๋าสีน้ำเงิน และสวมผ้าโสร่ง รองเท้ากีฬาเพื่อคล่องตัวในการก่อเหตุ เดินมาวนเวียนหน้าร้านในช่วงเวลา 04.24 น. ก่อนจะที่โรยตัวลงมาจากฝ้าหลังคาของร้านในเวลา 04.37 น. และทำการปลดกล้องวงจรปิดของร้านไป 2 ตัวด้วยกัน และเริ่มทำการขโมยมือถือในร้านตามจุดโชว์ตู้ภายในร้าน ซึ่งได้มือถือไปกว่า 10 เครื่อง มูลค่ากว่า 3 หมื่นบาท โดยใช้เวลาในการขโมยแค่ประมาณ 4 นาที ก่อนที่จะหลบหนีออกไปทางหลังร้าน ที่เป็นกำแพงติดกับบึงน้ำ

โดยโชคดีที่ร้านมีกล้องที่ติดไว้เกือบ 10 ตัวทั้งหน้าร้านและภายในร้าน ซึ่งคนร้ายอาจไม่ทันสังเกตเห็นกล้องวงจรปิดหมดทุกตัว จึงสามารถจับภาพทุกการเคลื่อนไหวของคนร้ายภายในร้านได้ทั้งหมด รวมไปถึงหน้าตาพฤติกรรมการก่อเหตุได้ชัดเจน

นางสาววารุณี เจ้าของร้านชามิลโมบาย เล่าว่า ปกติจะปิดร้านในเวลา 4 ทุ่ม และจะนอนที่ร้านทุกคืน แต่เมื่อคืนนั้นตนก็ปิดร้าน 4 ทุ่ม และไปธุระที่จังหวัดนราธิวาส ซึ่งกล้องวงจรปิดที่ร้านตนจะตั้งเป็นเสียงเซนเซอร์กันขโมยไว้ แต่เมื่อคืนตนลืมเปิดเสียงไว้จึงไม่รู้ ซึ่งมารู้อีกทีตอนเช้าเมื่อพนักงานร้านติดต่อมาเห็นว่ากระจกตู้โชว์แตก และฝ้าเป็นรูขนาดใหญ่ แต่ตนอาจคิดว่าแมวในร้าน แต่พอสำรวจดูพบว่ากล้องวงจรปิดหายไปด้วย 2 ตัว จึงรีบเปิดภาพดูพบว่าคนร้ายได้ขโมยของในร้านไป จึงให้แฟนไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกำนันในหมู่บ้าน

ซึ่งภาพจากกล้องวงจรตนไม่คิดว่าเป็นคนในพื้นที่เพราะไม่คุ้นหน้า แต่อาจจะเคยมาสังเกตการณ์ที่ร้าน ซึ่งคนร้ายได้ขโมยมือถือไปเกือบ 10 เครื่อง มูลค่าประมาณ 30,000 กว่าบาท และยังได้หลบหนีไปด้านหลังร้านซึ่งมีกำแพงปีนหนีได้

ล่าสุดได้แจ้งกับตำรวจไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็มาพิสูจน์เก็บหลักฐานไปแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องรอแกะรายชื่ออีกครั้ง และจะตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่โดนขโมยมือถือ ครั้งแรกเพิ่งโดนไปต้นปี ซึ่งครั้งแรกก็สามารถจับคนร้ายได้ในวันถัดมาทันที ระแวกนี้มีการขโมยของบ่อยมาก และโดนไปหลายร้านแล้วทั้งร้านมือถือ ร้านข้าว ร้านชำทั่วไปโดนหมด ตนอยากจะฝากกับโจรที่ขโมยในครั้งนี้ว่า แก่แล้ว ไปอยู่กับลูกหลานจะดีกว่า จะไปขโมยของมันไม่ดี