แค่มีใจบริการ! ตร.เจ้าของชุด แจงคลิป นทท.จีนใส่เครื่องแบบติดดาว ด้าน 'บิ๊กต่อ' สั่งสอบด่วน

วานนี้ (5 ธ.ค.66) เพจ ลุยจีน ได้โพสต์คลิปนักท่องเที่ยวจีนโชว์เท่ใส่ชุดตำรวจไทย ติดดาว ติดป้ายชื่อเต็มยศ พร้อมกับถ่ายคลิป

โดยในคลิปจะเห็นว่า นทท.จีนที่แต่งกายล้อเลียนเป็นตำรวจไทย มีคนขับรถ เปิดรถให้อย่างกับตำรวจระดับสูง

เมื่อ นทท.จีนคนนี้สวมบทบาท มีคนขับรถให้ ปรากฏว่า เมื่อขึ้นไปบนรถแล้ว มีการชู 2 นิ้ว พร้อมกับโชว์หมวกของตำรวจ ที่มีตราสัญลักษณ์ Royal Thai Police หรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นอกจากนี้ ทีมข่าวสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ป้ายประตูทางออก ที่ รถของ นทท. จีนคนนี้ ขับออกมา เขียนระบุสถานที่ชัดเจนว่า 'สโมสรตำรวจ' ซึ่งเพจลุยจีนระบุว่า คลิปนี้ถูกโพสต์เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมา

โดย เพจ ลุยจีน โพสต์คลิปและภาพนี้ พร้อมเขียนข้อความระบุว่า #นักท่องเที่ยวจีนโชว์เท่ห์ใส่ชุดตำรวจไทยถ่ายคลิป Soft Power ไทยสำหรับ นทท.จีน = ชุดตำรวจไทย 5555 เฮ้ย อะไรยังไง ข้างหลังนั่นตำรวจไทยจริงใช่มั้ย? ให้ นทท.จีนยืมเสื้อใส่ถ่ายรูป แถมเปิดประตูให้ นทท.จีน แล้วยังขับรถรับส่งอีก...บนเสื้อมีปักชื่อปักยศมีดาวประดับไหล่อะไรชัด ๆ ด้วย คือไอ่ นทท.มันก็ถ่ายแบบไม่เกรงกลัวใด ๆ (เหมือนทำได้ปกติ) นึกว่าเท่ห์สินะ ที่โพสต์ลงโซเชียลจีนแบบนี้

ประโยคที่เค้าพูดในคลิป

"เฮ้ย พี่น้องครับ คนที่เคยมาเที่ยวเมืองไทยเคยมีใครใส่เสื้อแบบเฮียเลี่ยงแบบนี้มั้ย 555 วันหลังนะ เดี๋ยวเฮียมาทำธุรกิจที่กรุงเทพดีกว่า ให้มันรู้ไปว่าตำรวจที่นี่ก็ใส่ริชาร์ดมิลแบบนี้ได้ เย่!

(ผู้ชายไทยหัวเกรียนเปิดประตูให้ขึ้นรถ)

(ผู้ชายที่อยู่บนรถ โชว์หมวกตำรวจที่ปักลาย Royal Thai Police)

(โชว์เต๊ะท่าสองนิ้ว+นาฬิกา)

...ประเด็นคือทำได้?

ทำไมทำได้??

ทำยังไงให้ทำได้???

ไอ่นี่มันไม่ได้ดูข่าวดรามาปีที่ผ่าน ๆ มาเลยใช่มั้ย เรื่องที่ นทท.จีน ซื้อ VIP Pass ให้ตำรวจขับรถรับส่ง...

คลิปโพสต์เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.นี้เอง อย่าคิดว่าลบแล้วจะจบนะ เซฟเก็บไว้แล้ว

Cr. Weibo - 东瀛小野亮 (ลิงค์คลิปเต็มในคอมเมนต์ เจ้าหน้าที่, นักข่าวโปรดกดเข้าไปดูด้วย)
-------------
เพจ ลุยจีน ยังเขียนข้อความเพิ่มเติมในช่องคอมเมนต์อีกว่า “สรุปว่า...บริการจ่ายตังค์เรียก ตร.มานำขบวน/มาขับรถให้ นทท.จีนก็ยังมีอยู่ววววว”

“ถ้าใครฟังสำเนียงไอ่ นทท. คนนี้ออก จะรู้ว่าโคตรหยามเลย แบบเหมือนที่นี่ อั๊วะมีเงิน อั๊วะจะทำอะไรก็ได้งี้ แล้วไอ่พวกดาวโต่วอินในไทยเยอะมากที่มีความคิดแบบนี้ 555”
-------------
จากกรณี เพจ ลุยจีน โพสต์ตลิป นทท.จีน มาเที่ยวไทย พร้อมอัดคลิปทำเท่ ใส่เครื่องแบบตำรวจ แถมมีตำรวจรับ-ส่ง เปิด-ปิด ประตู วานนี้ (5 ธ.ค. 66) ทีมข่าวอาชญากรรมเจอตำรวจที่อยู่ในคลิปแล้ว เป็นรองสารวัตร สังกัดกองบัญชาการศึกษา บอกเป็นเรื่องเข้าใจผิด

โดยในคลิปจะเห็นว่า เครื่องแบบที่ตำรวจที่นักท่องเที่ยวคนนี้ใส่ เป็นชุดเครื่องแบบของตำรวจยศ 'ร้อยตำรวจเอก' หรือ ผู้กอง ตำแหน่ง 'รองสารวัตร' และผ่านหลักสูตรการอบรมนายตำรวจสัญญาบัตรแล้ว เตรียมขึ้นยศเป็น 'พันตำรวจตรี' และนั่งในตำแหน่ง 'สารวัตร'

ทีมข่าวอาชญากรรม แกะรอยจากป้ายชื่อจนทราบว่า ตำรวจเจ้าของเครื่องแบบนี้ คือ ร้อยตำรวจเอก จำรูญ ไชยศรี ตำแหน่งรองสารวัตรฝ่ายควบคุมการฝึก ศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจกลาง กองบัญชาการศึกษา ซึ่งได้เปิดใจกับทีมข่าวทางโทรศัพท์ ว่า

เหตุการณ์นี้ เกิดช่วงเย็น วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชายชาวจีน 2 คน มายิงปืนที่สนามด้านหลังกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด

แต่พอยิงเสร็จราว 17.00 น. สนามยิงปืนปิด ทั้ง 2 คน ไม่มีรถกลับออกมา อาจจะต้องเดินไกลกว่า 1 กิโลเมตร จึงตัดสินใจให้ขึ้นรถส่วนตัวติดออกมา เรียกแท็กซี่ด้านหน้าสโมสรตำรวจ

แต่ปรากฎว่า ในรถมีเสื้อเครื่องแบบของเขาแขวนอยู่ แล้วนักท่องเที่ยวจีนก็หยิบมาใส่เอง อ้างว่าอยากถ่ายเป็นที่ระลึก และเขาก็ไม่รู้ว่า นักท่องเที่ยวคนนี้ไปโพสต์อะไร ทำไมถึงเกิดความเข้าใจผิดกันได้ ยืนยันไม่ได้มีเจตนาไม่ดี หรือไปรับเงินอะไร แค่เป็นเซอร์วิสมาย

ด้าน พล.ต.ต.สมพร สัจพจน์ รองผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะโฆษกกองบัญชาการศึกษา เปิดเผยว่า

ตามที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งตรวจสอบด่วน กรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้เผยแพร่ข้อความ และภาพนักท่องเที่ยวชาวจีนใส่เสื้อเครื่องแบบตำรวจของไทย มีชายตัดผมสั้นยืนอยู่ถัดไป มีการโชว์หมวกแก๊ปสีดำปักตราแผ่นดิน และข้อความ Royal Thai Police นั้น

กองบัญชาการศึกษาได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว พบว่า ชายตัดผมสั้นที่ปรากฎอยู่ในภาพ คือข้าราชการตำรวจ ศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจกลาง จึงได้เรียกตัวมาพบเพื่อทำการสอบสวน

เบื้องต้น เจ้าตัวยอมรับว่า ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นภาพของตนกับเพื่อนนักท่องเที่ยวชาวจีนจริง  โดยระบุว่า เพื่อนชาวต่างชาติได้หยิบเสื้อเครื่องแบบของตนที่อยู่ในรถมาใส่

กองบัญชาการศึกษาจึงได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว หากการกระทำของข้าราชการตำรวจนายดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญา หรือทางวินัยสถานใด กองบัญชาการศึกษาจะได้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย

พร้อมได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจในสังกัด ระมัดระวังและเคร่งครัดในการปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของข้าราชการตำรวจ  มิให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก

-------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/InY63a_Eq-o