เลือกตั้งและการเมือง
'เศรษฐา' คิกออฟ 'น่าน' เป็นจังหวัดสีขาวภายใน ก.ย. - เล็งใช้ 'ท่าวังผาโมเดล' ทั่วไทย คืนผู้เสพสู่ครอบครัว
โดย nattachat_c
28 มิ.ย. 2567
142 views
วานนี้ (27 มิ.ย. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมประชุมรับฟังการรายงาน ผลการระดมปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศ ผ่านระบบทางไกล (zoom meeting) โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. เป็นผู้รายงาน
โดยมีรองผู้บัญชาการ และรองผู้บังคับการที่รับผิดชอบงานยาเสพติด ในสังกัด บช.น./ภ.1-9 และ บช.ปส. รวมทั้งหัวหน้าสถานีตำรวจทุกสถานีทั่วประเทศ เข้าร่วมประชุม
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้รายงานว่า ในการระดมปิดล้อมตรวจค้นในครั้งนี้ มีเป้าหมายจุดตรวจค้นทั่วประเทศรวม 2,523 เป้าหมาย เป็นเป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จำนวน 846 เครือข่าย ผลการปิดล้อมตรวจค้นทั่วประเทศ สรุปรายละเอียดได้ ดังนี้
- ผู้ต้องหา 131 คน
- จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด 1,617 หมายจับ
- ยึดยาบ้า 4,784,018 เม็ด
- ยึดยาไอซ์ 590.83 กก.
- ยึดคีตามีน 1.22 กก.
- ยึดเฮโรอีน 73.43 กก.
- ยึดยาอี 45,439 เม็ด
- ยึดอาวุธปืน 196 กระบอก
- ตรวจยึด/อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง รวมมูลค่า 327,785,225 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากสถิติการจับกุมคดียาเสพติด ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในห้วง 9 เดือน (เดือนตุลาคม 2566 ถึงปัจจุบัน)
จับกุมผู้ค้ารายย่อยได้ถึง 81,455 คดี เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 23,949 คดี หรือเพิ่มขึ้น 41%
สกัดกั้นจับกุมเครือข่ายรายกลาง (ยาบ้าจำนวน 100,000 เม็ด ถึง 500,000 เม็ด) จำนวน 208 คดี เพิ่มขึ้น 60 คดี หรือเพิ่มขึ้น 40%
จับกุมเครือข่ายรายใหญ่ ยาบ้าจำนวน 1,000,000 เม็ดขึ้นไป จำนวน 171 คดี เพิ่มขึ้น 67 คดี หรือเพิ่มขึ้น 64%
ขยายผลจับกุมเครือข่ายผู้สั่งการหรือสนับสนุน จำนวน 1,337 คดี เพิ่มขึ้น 550 คดี หรือเพิ่มขึ้น 70%
จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่หลบหนี จำนวน 3,050 หมายจับ เพิ่มขึ้น 980 หมายจับ หรือ 47%
ตรวจยึดยาบ้าได้จำนวน 738.5 ล้านเม็ด เพิ่มขึ้นถึง 392.8 ล้านเม็ด หรือเพิ่มขึ้น 113%
ตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสิ้น 8,648 ล้านบาท
---------------
ภายหลังการรายงานผลปฏิบัติการ นายเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้ ตนจะลงไปติดตามปัญหายาเสพติดที่ จ.น่าน และได้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของเจ้าที่ทุกคน ที่พยายามทำงานเร่งด่วน ไม่เฉพาะแค่รัฐบาล แต่เป็นปัญหาของทุกหน่วยงาน ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ต้องขอบคุณ และเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกนาย
และจากการนำเสนอรายงาน รู้สึกตกใจว่า ยังมีเรื่องของการใช้อาวุธหนัก ดังนั้น ในระหว่างการกวาดล้าง ให้เจ้าหน้าที่ทุกคนระวังความปลอดภัยด้วย
นายเศรษฐา ยังกล่าวอีกว่า แม้ว่า วันนี้ เราจับกุมได้มาก และทุกคนทำงานหนัก แต่ปัญหานี้ต้องยอมรับว่า ยังไม่หมดสิ้นไป ยาบ้าราคายังไม่ขึ้น และมีความต้องการที่สูงอยู่ จึงขอให้มุ่งมั่นในการทำงานต่อไป เมื่อมีเป้าแล้ว ขอให้ยกเป้าหมายให้สูงอีก เพื่อให้เกิดความท้าทาย ขอให้ทำงานทุกวัน เน้นย้ำตามตะเข็บชายแดนซึ่งเป็นจุดที่รั่วไหลของยาเข้ามาเยอะมาก
ขอให้บูรณาการ ทำงานทั้งฝ่ายปกครอง ทหารตำรวจ ให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ อย่าต่างคนต่างทำ ให้แชร์ข้อมูลกันสม่ำเสมอ และเข้ามาประชุม นำปัญหามาพูดคุยกัน หากขาดแคลนอุปกรณ์ และกำลังคน หรือในเรื่องไหน ให้บอกมา รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเต็มที่
นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้ทหาร ปกครอง สาธารณสุข ทำงานอย่างจริงจัง และมุ่งมั่น จะทำให้ปัญหานี้สำเร็จให้ได้ เพราะเป็นปัญหาใหญ่ ตั้งแต่สมัยที่ตนหาเสียง จนมาเป็นนายกฯ ไม่ว่าจะลงไปจังหวัดไหนในภาคอีสาน นอกจากปัญหารายได้แล้ว ปัญหายาเสพติดยังเป็นปัญหาใหญ่ เพราะหลายคนน้ำตานองหน้า เพราะลูกหลานยังติดยาเสพติดจำนวนมาก เราต้องทำงานให้หนักตั้งเป้าให้ท้าทายมากกว่านี้
-------------
วานนี้ (27 มิ.ย. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะ ออกเดินทางไป จ.น่าน เพื่อรับฟังปัญหาเรื่องยาเสพติด และให้กำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจผู้บฏิบัติหน้าที่ ณ มณฑลทหารบกที่ 38 ค่ายสุริยพงษ์ และศึกษาต้นแบบการบูรณาการจัดการปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ณ วัดสุทธาราม อ.ท่าวังผา จ.น่าน โดยนายกฯ เดินทางถึงท่าอากาศยานน่าน เวลา11.45 น. มี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รอให้การต้อนรับ
โดย นายเศรษฐา ใช้รถยนต์ โตโยต้า อัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน กค 8888 น่าน ในการปฏิบัติภารกิจที่ จ.น่าน
โดยจุดแรก นายกฯ เดินทางไปยังมณฑลทหารบกที่ 38 เพื่อติดตามตรวจเยี่ยมการบำบัดรักษาฟื้นผู้ติดยาเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่รายงานนายกฯ เกี่ยวกับการบำบัดยาเสพติด
สถานที่บำบัดแห่งนี้ ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2549 บำบัดไปแล้วกว่า 4,168 และตั้งแต่เดือน พ.ค. ถึงปัจจุบัน มีผู้เต็มใจเข้าบำบัดจำนวน 37 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากความสมัครใจ และอีกส่วนมาตามกระบวนการที่เจ้าหน้าที่นำส่งมา
โดยวิธีการบำบัด จะใช้เวลา 120 วัน ให้ผู้บำบัดเลิกยาเสพติด และฝึกอาชีพ เพื่อให้เขาได้กลับเข้าสู่สังคม
และเมื่อบำบัดเสร็จแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามไปเก็บข้อมูล โดยนายกฯ ได้สอบถามว่า บุคลากร และงบประมาณ มีเพียงพอ ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ และจากการรับฟังแผนดูดีมาก น่าจะขยายไปทำที่อื่นอีก
------------------
เวลา 13.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อมายัง ณ วัดสุทธาราม อ.ท่าวังผา จ.น่าน เพื่อศึกษาต้นแบบการบูรณาการจัดการปัญหายาเสพติดในพื้นที่
โดย นายกฯรับฟังการบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่ และได้เข้าให้กำลังใจผู้เข้าบำบัดยาเสพติด ที่วัดสุทธาราม ก่อนที่นายเศรษฐา จะสอบถามผู้เข้าบำบัดบางรายว่าอยู่มานานเท่าไหร่ ขอให้สู้นะ ก่อนถามว่า เมื่อบำบัดเสร็จสิ้นแล้วจะไปทำอะไรต่อ ความตั้งใจคงไม่อยากกลับไปเสพใหม่ใช่หรือไม่ เพราะมันไม่ได้อะไรเลย
ซึ่งผู้เข้าบำบัด ระบุว่า ขอให้กำลังใจท่านนายกฯ นายเศรษฐาจึงตอบกลับไปว่า ขอเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวดีกว่า เพราะครอบครัวอยากได้รับการกลับสู่สภาพเดิม เป็นคนที่มีคุณค่ากับสังคมต่อไป เข้าใจว่าแต่ละคนตัดสินใจพลาดไป รัฐบาลพร้อมให้การช่วยเหลือ ทั้งกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีความตั้งใจจริงให้กลับมาเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ และบ้านเมือง พร้อมย้ำกับผู้บำบัดว่า ขอให้ทำเพื่อตัวเอง และครอบครัวด้วย
จากนั้น นายเศรษฐา กล่าวกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครหมู่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ประชาชน และข้าราชการในพื้นที่ ที่มาให้การต้อนรับว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่มาก ไม่ใช่แค่ที่น่าน แต่มีทุกประเทศ
วันนี้ คิกออฟให้ จ.น่าน เป็นจังหวัดสีขาว ในสิ้นเดือน ก.ย. นี้ โดยใช้จังหวัดน่านเป็นจังหวัดนำร่อง วันนี้ ได้คุยกับหลายหน่วยงาน ขอชื่นชมเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำงานหนัก
การแก้ปัญหายาเสพติด ไม่ใช่แค่จับกุมผู้จับยาอย่างเดียว แต่การบำบัด การยึดทรัพย์ การคืนประชาชน ส่งคืนผู้ที่เป็นผู้เสพกลับสู่อ้อมกอดครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อไม่ให้กลับมาเสพอีก และเป็นหน้าที่ทุกคนที่จะขับเคลื่อนให้ยาเสพติดออกไปจากสังคมไทย
ที่สำคัญ หัวใจของการทำงานต้องประสานทุกหน่วยงาน ทั้งปกครอง มั่นคง สาธารณสุข ท้องถิ่น ทุกคนต้องมาช่วยกัน ถือเป็นสัญลักษณ์ที่ดี เพราะทุกคนจะร่วมใจกันเนื่องจากปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่กัดกร่อนเซาะคนไทยมายาวนาน ขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจให้ปัญหานี้หมดจากสังคม
สำหรับ โครงการท่าวังผาโมเดล เป็นโครงการที่ครอบคลุมในเรื่องของการแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งระบบเริ่มตั้งแต่การปราบปราม การฟื้นฟู และการบำบัด รวมถึงการนำผู้เสพ กลับมาฟื้นฟูคืนสู่สังคม สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งรัฐบาลเล็งเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี และเหมาะสม โดยจะนำโครงการดังกล่าวขยายผลสำเร็จนำไปใช้ในพื้นที่อื่นต่อไป สำหรับเป้าหมายของโครงการฯ คือมุ่งสู่ความยั่งยืนโดยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมถึงครอบครัว
------------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/uMGp0-8qebc