สังคม

แจ้ง 3 ข้อหา "เพจอ้วนผอม จอมเที่ยว" ตุ๋นเหยื่อซื้อทัวร์ทิพย์กว่า 400 คน

โดย gamonthip_s

4 ธ.ค. 2566

384 views

ตำรวจสอบสวนกลาง รวบยกแก๊ง "เพจอ้วนผอม จอมเที่ยว" ตุ๋นเหยื่อซื้อทัวร์ทิพย์กว่า 400 คน ความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท แจ้ง 3 ข้อหา ด้านผู้เสียหาย เบื้องต้น สอบปากคำไปแล้ว 60 ปาก ขณะที่ผู้เสียหาย ทยอยเข้าแจ้งความต่อเนื่อง



เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เข้าจับกุมนายอัจฉริยะ หรือ นายอ้วน อายุ 39 ปี เจ้าของบริษัทอ้วน ผอม อะราว เดอะเวิลด์ และเป็นเจ้าของเพจ อ้วนผอมจอมเที่ยว โดยจับกุมได้ที่หน้าประตูเรือนจำจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา



เช่นเดียวกับ นางสาวศศิประภา อายุ 38 ปี แฟนสาวของนายอ้วน ซึ่งเป็นหุ้นส่วนบริษัทและมีหน้าที่เป็นผู้จัดการทริปทัวร์ต่าง ๆ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ ปคบ.จับกุมได้ที่ ที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ย่านถนนรัตนาธิเบศร์ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา


พลตำรวจตรี วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยถึงผลการดำเนินการจับกุมว่า เป็นการจับกุม หลังมีผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์ ซึ่งมีผู้เสียหาย 400 ราย มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท จึงขอศาลออกหมายจับ ใน 3 ข้อหา คือ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ, ความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค



โดยพนักงานสอบสวนได้นำตัว นางสาวศศิประภา ฝากขังศาลอาญารัชดา เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ศาลได้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว วงเงินประกัน 1 แสนบาท ส่วนนายอัจฉริยะ ได้นำตัวฝากขังเมื่อช่วงเช้าวันนี้



พฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสอบสวนทราบว่ามีความสัมพันธ์เป็นคู่รักกัน มีการเปิดเป็นเพจ โดยนายอัจฉริยะ เป็นเจ้าของเพจ ส่วนนางสาวศศิประภาทำหน้าที่เป็นแอดมิน โพสต์หลอกขายแพคเก็จทัวร์ โดยใช้วิธีจูงใจด้วยโปรโมชั่นต่าง ๆ ทั้งโปรโมชั่นซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง โปรโมชั่นขายทัวร์ข้ามปี และใช้วิธีตั้งเงื่อนไขเวลา เพื่อเป็นอุบายให้ลูกค้ารีบซื้อในทันที แต่เมื่อถึงกำหนดวันเดินทาง กลับไม่ได้เดินทาง โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากทัวร์ล่ม หรือบางรายเดินทางไปแล้ว แต่กลับไม่มีโปรแกรมทัวร์ตามตารางที่แจ้งไว้ ขณะเดียวกันผู้เสียหายบางส่วนที่จองทัวร์ล่วงหน้าแต่ไม่สามารถขอเงินคืนได้



โดยในชั้นการสอบสวน เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 รายยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าไม่ได้หลอกลวงผู้เสียหาย เบื้องต้นทั้งคู่ให้ถ้อยคำอ้างว่า ประสบปัญหาโควิด มีการจองทัวร์ต่างประเทศ แต่มีข้อผิดพลาดเรื่องวันเวลา ทำให้โดนยึดค่ามัดจำไป แต่พนักงานสอบสวนมีหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งสอง



ในส่วนของผู้เสียหาย พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนไปแล้ว 60 ราย



เมื่อสอบถามว่า รูปแบบของเพจ เข้าข่ายหรือมีลักษณะคล้ายกับแชร์ลูกโซ่หรือไม่ พลตำรวจตรี วิทยา ระบุว่บ รูปแบบนี้ ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น เป็นรูปแบบแชร์ลูกโซ่รูปแบบหนึ่ง มีการนำเงินอนาคต ของการซื้อทัวร์ล่วงหน้า มาใช้กับทัวร์ที่กำลังดำเนินอยู่ โดยบริษัทนี้ จะมีการจดทะเบียนนำเที่ยวถูกต้อง รูปแบบน่าเชื่อถือ และมีการขายทัวร์ข้ามปี โดยเป็นโปรโมชั่นราคาถูก เป็นการระดมเงิน



สำหรับการติดตามทรัพย์มาคืนให้ผู้เสียหาย อยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และร่องรอยบัญชีย้อนหลัง และหากมีบุคคลใดเกี่ยวข้อง นำเงินที่ใช้กระทำความผิด ไปซื้อทรัพย์สินก็จะถูกดำเนินคดี




เบื้องต้น ตอนนี้อยู่ขั้นตอนสืบทรัพย์ พบว่าทั้งสอง มีบ้าน 2 หลัง แต่ต้องสืบทรัพย์ ส่งข้อมูลให้ ปปง ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ว่าทรัพย์เหล่านี้ เข้าข่ายการกระทำความผิดหนือไม่ หากเข้าข่าย ปปง. จะยึด และอายัด เพื่อเฉลี่ยคืนให้ ผสห ต่อไป



สำหรับผู้เสียหาย ทาง ปคบ.มีแนวทางให้สามารถแจ้งความได้ 3 แนวทาง คือ ที่สถานีตำรวจทุกสถานี ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ เพจ thaipolice online.co.th ซึ่งหลังจากพนักงานสอบสวนรับแจ้งความแล้วจะส่งเอกสารทั้งหมดมาให้ที่ ปคบ.เพื่อให้รวมเป็นคดีเดียว


เมื่อสอบถามว่า รูปแบบของเพจ เข้าข่ายหรือมีลักษณะคล้ายกับแชร์ลูกโซ่หรือไม่ พลตำรวจตรี วิทยา ระบุว่ารูปแบบนี้ ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น เป็นรูปแบบแชร์ลูกโซ่รูปแบบหนึ่ง มีการนำเงินอนาคต ของการซื้อทัวร์ล่วงหน้า มาใช้กับทัวร์ที่กำลังดำเนินอยู่ โดยบริษัทนี้ จะมีการจดทะเบียนนำเที่ยวถูกต้อง รูปแบบน่าเชื่อถือ และมีการขายทัวร์ข้ามปี โดยเป็นโปรโมชั่นราคาถูก เป็นการระดมเงิน

คุณอาจสนใจ

Related News