สังคม

ผู้ปกครองร้องสายไหมต้องรอด เด็กนักเรียนวัย 11 ปี ถูกครูตี 70 ครั้ง

โดย gamonthip_s

1 ธ.ค. 2566

1.4K views

วันที่ 1 ธ.ค.66 เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ประสานงานเพจสายไหมต้องรอด เขตสายไหม ผู้ปกครองจะพา น้องเอ (นามสมมุติ) ด.ช.อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 มาร้องขอความช่วยเหลือ กับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังเด็กถูกครูตี จำนวน 70 ครั้ง โดยอ้างว่าเด็กทำการบ้านไม่เสร็จ 70 ข้อ จึงถูกตี 70 ที



ต่อมานายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ผู้ปกครองน้องเอ (นามสมมุติ) ด.ช.อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป. 5 เดินทางมาร้องเนื่องจากช่วงปิดเทอม คุณครูภาษาไทยโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จ.บุรีรัมย์ ได้สั่งให้ทำการบ้านทั้งหมด 107 หน้า ซึ่งต้องทำให้เสร็จก่อนเปิดเทอม น้องทำไปได้ 37 หน้า เหลืออีก 70 หน้า แต่น้องทำไม่เป็นประกอบกับที่คุณแม่ไม่รู้หนังสือ คุณแม่จึงรอให้น้องมาถึงโรงเรียนเพื่อที่จะให้คุณครูสอน



หลังจากเปิดเทอม น้องมาโรงเรียนตามปกติ น้องได้เจอคุณครู คุณครูจึงได้คุยกับน้องว่าขยายเวลาให้อีก 5 วัน หากทำไม่เสร็จจะถูกทำโทษ แต่ยืนยันว่าน้องก็ทำไม่เป็น ก็จึงถูกทำโทษโดยการใช้ไม้ไผ่ตี 70 ครั้ง หลังจากน้องถูกตีน้องถึงขั้นเป็นไข้ ต้องนอนพักรักษาตัว



ซึ่งตนเองมองว่าการใช้ความรุนแรงกับเด็กคือการทำร้ายร่างกาย อยากบอกกับคุณครูว่าสิ่งที่คุณครูใช้ความรุนแรงกับเด็กไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ซ้ำการทำโทษเด็ก โดยใช้ความรุนแรงทำให้เด็กเรียนรู้พฤติกรรม การใช้ความรุนแรงไปจนโต เหมือนกับที่คุณครูใช้ความรุนแรงกับเขาในวัยเด็ก



การอธิบายการสอนเด็กเป็นสิ่งที่ดีที่สุด และคุณครูต้องถามตัวเองว่าทำไมน้องถึงทำการบ้านไม่ได้ ให้คุณครูมองตัวว่าอยู่ที่คุณครูด้วยหรือเปล่า ที่น้องทำไม่ได้



เบื้องต้นประสานกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อที่เข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ รวมถึงประสานทางท่านผู้กำกับในพื้นที่บุรีรัมย์ เพื่อให้ความช่วยเหลือและดำเนินคดีกับคุณครูคนดังกล่าว



ต่อมาน.ส.อรวรรณ อายุ 37 ปี (พี่สาว) เล่าว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมานางเภา อายุ 52 ปี (แม่) ได้โทรศัพท์ติดต่อมาบอกตนว่า น้องชายถูกครูวิชาภาษาไทยโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ทำโทษ ตี 70 ที จนเกิดเป็นรอยช้ำบริเวณบั้นท้าย เนื่องจากทำการบ้านไม่ครบตามที่ครูสั่ง หลังถูกทำโทษน้องชายมีไข้ขึ้นสูง และบอกว่าไม่อยากกลับไปเรียนที่โรงเรียนนี้อีกแล้ว



นอกจากนี้ แม่ยังบอกอีกว่า คุณครูได้พาน้องชายไปคลินิกแห่งหนึ่ง และบังคับให้น้องชายบอกกับหมอว่าหกล้มเอง ซึ่งการกระทำนี้เป็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้ ซึ่งตอนนี้สภาพจิตใจของน้องย่ำแย่เป็นอย่างมาก น้องมีอาการซึม และกลัวไม่กล้าไปโรงเรียน



วันนี้จึงอยากเดินทางเข้าร้องกับเพจสายไหมต้องรอด เพราะต้องการให้คุณครูรายดังกล่าวออกมารับผิดชอบกับการกระทำ และกลัวว่าหลังจากนี้น้องชายจะไม่ได้เข้าโรงเรียน เพราะช่วงนี้เป็นช่วงกลางเทอมพอดี



ต่อมาทางโรงเรียนได้ติดต่อหาผู้ปกครอง เพื่อขอเจรจาไกล่เกลี่ย โดยคุณครูวิชาภาษาไทย ได้ให้เหตุผลว่า ครูได้ให้การบ้านเด็กนักเรียน ทำล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนปิดภาคเรียน ประมาณวันที่ 4 กันยายน 66 โดยกำหนดส่งวันที่ 1 พ.ย.66 เพราะภาคเรียนที่ 2 ทางโรงเรียนมีกิจกรรมมากกว่าการสอน กลัวคุณครูสอนไม่ทัน และที่ให้การบ้านไปนั้นนักเรียนสามารถค้นคว้าหาคำตอบได้ในอินเทอร์เน็ต อย่างน้อยเพื่อลดการเล่นเกมของเด็กนักเรียน เด็กจะได้มีโอกาส ค้นหาเนื้อหาในการเรียนแทนที่จะเอาเวลาไปเล่นเกม
อย่างน้อยทำการบ้านวันละนิดก็ยังดี แต่พอเปิดภาคเรียนมาก็มีนักเรียนบางคนที่ทำเสร็จ ส่วนน้อยที่ทำไม่เสร็จ ก็ทำข้อตกลงกัน เรื่องการทำโทษก็ได้ตกลงกับนักเรียนว่าจะทำโทษ โดยการตีหน้าละ 1 ครั้ง
ซึ่งครูก็ผลัดมาเรื่อยๆ แล้วครูก็เตือนตลอด และคอยบอกว่าหากนักเรียนไม่เข้าใจหน้าไหนให้มาถาม
จนสิ้นสุดครูบอกตอนวันศุกร์อีกครั้ง ว่าคนที่ไม่เสร็จให้เร่ง เนื่องจากวันอังคารเป็นสุดท้าย พอวันอังคาร เด็กนักเรียนก็ทำไม่เสร็จ จึงนำมาซึ่งการลงโทษในวันนี้ แต่ละคนก็โดนโทษไม่เท่ากันแล้วแต่ความรับผิดชอบแต่ละคนว่าคนไหนไม่เสร็จกี่หน้า



ซึ่งจากคำอธิบายของคุณครูทำให้ตนเองรู้สึกว่าอย่างไรก็ตามไม่ควรที่จะทำร้ายร่างกายเด็กควรที่จะใช้วิธีการลงโทษในแบบอื่น หรือหากเด็กนักเรียนไม่เชื่อฟังจริง ๆ ควรเชิญผู้ปกครองเข้าไปพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นดีกว่าการใช้ความรุนแรง



หลังจากนี้ตนเองคงไม่ให้น้องชายกลับไปเรียนที่เดิมอีก เนื่องจากทนไม่ได้กับพฤติกรรมของคุณครู ซึ่งมีเด็กอีกหลายคนที่ถูกทำโทษแต่ไม่ออกมาตนเองขอเป็นกระบอกเสียงและจะกลับไปดำเนินคดีกับคุณครูที่จังหวัดบุรีรัมย์


ล่าสุดทีมข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปหา ผู้อำนวยการ โรงเรียนดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นทางโรงเรียนยังไม่พร้อมออกมาชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยบอกว่าขอปรึกษากับทางต้นสังกัดก่อน แต่ที่ผ่านมาหลังจากเกิดเหตุทางโรงเรียนได้ติดต่อหาฝั่งผู้ปกครองตลอด และได้มีการตั้งกรรมการสอบวินัยคุณครูรายดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นคุณครูให้การยอมรับว่า ได้ทำโทษเด็กจริง ซึ่งไม่ได้มีเจตนาที่คิดทำร้ายแต่อย่างใด ทุกอย่างมาจากอยากให้เด็กได้ดี ทั้งนี้ทางโรงเรียนอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น และส่งเรื่องไปยังต้นสังกัดต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News