สังคม

กลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจ แสดงหมายค้น ก่อนใช้ปืนปล้นชิงทรัพย์เจ้าของบ้าน

โดย gamonthip_s

20 พ.ย. 2566

1.1K views

วงจรปิดในบ้านของผู้เสียหายจับภาพกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน บุกเข้าไปในบ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านค่ายทะยิง หมู่ 6 ต.วังโรงใหญ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดอ้างว่า ตัวเองเป็นตำรวจ พร้อมแสดงหมายค้น โดยอ้างว่าเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวกระทำผิดกฎหมาย เรื่องฟอกเงิน ก่อนที่หนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ได้ใช้ปืนข่มขู่ และจี้บังคับคนในบ้าน พร้อมทำการรื้อค้นได้ทรัพย์สินไปเป็นเซิฟเวอร์กล้องวงจรปิด โทรศัพท์มือถือ และกุญแจรถมอเตอร์ไซด์



โดยเจ้าของบ้านไหวตัวทัน และได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่มาตรวจสอบ กลุ่มชายฉกรรจ์จึงรีบเดินออกไปทางป่าหลังบ้านหลบหนีไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวานนี้ 19 พ.ย. 66 ซึ่งต่อมาเจ้าของบ้านได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สีคิ้ว เพื่อให้ดำเนินการกับกลุ่มคนร้ายทั้งหมด



นายสมปราชญ์ อายุ 27 ปี เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์เดินเข้ามาในบริเวณบ้าน และได้เรียกตนออกไปคุย โดยทั้งหมดอ้างว่าเป็นตำรวจ พร้อมกับแสดงหมายค้น ซึ่งหมายค้นที่แสดงเป็นรูปภาพอยู่ในโทรศัพท์มือถือ ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินเข้ามาตรวจค้นภายในบ้าน หลังจากนั้นหนึ่งในชายฉกรรจ์ได้ควักปืนออกมาจี้ตน และคนในครอบครัว โดยอ้างว่าพวกตนกระทำผิดกฎหมายในคดีฟอกเงิน ก่อนที่กลุ่มชายฉกรรจ์จะเข้าไปรื้อค้นเซิฟเวอร์กล้องวงจรปิด และยึดโทรศัพท์มือถือของตนไป พวงกุญแจรถมอเตอร์ไซด์อีก 1 พ่วง โชคดีที่ภรรยาตนได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ให้มาตรวจสอบ ซึ่งพอกลุ่มชายฉกรรจ์รู้ตัวว่าตำรวจใกล้มา ทั้งหมดจึงรีบเดินออกไปทางป่าหลังบ้านที่หลบหนีไป ทั้งนี้คาดว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดน่าจะเป็นคนร้าย และหลังเกิดเหตุตนได้ไปแจ้งความที่ สภ.สีคิ้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี



นางสาวจารุวรรณ อายุ 27 ปี ภรรยาเจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้เดินทางไปทำบุญที่จังหวัดปราจีนบุรี และสามีของตนได้โทรศัพท์เข้ามาบอกว่ามีตำรวจเข้ามาตรวจค้นบ้าน โดยอ้างว่าอยากคุยกับตนเอง ตนจึงบอกว่ากำลังกลับบ้านให้ทั้งหมดรอก่อน จากนั้นตนจึงได้เปิดกล้องวงจรปิดดูผ่านโทรศัพท์มือถือก็พบว่า กลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนกำลังใช้อาวุธปืนจี้สามี ตนตกใจมากจึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ



นอกจากนี้ตนยังพบว่ามีการติดเครื่องจีพีเอสติดตามไว้ที่บริเวณใต้ท้องรถที่ตนใช้ คาดว่าคนร้ายน่าจะติดไว้ช่วงที่ตนเดินทางไปทำบุญที่จังหวัดปราจีนบุรี และน่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกันกับที่อ้างตัวเป็นตำรวจแน่นอน



ทั้งนี้ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ครอบครัวตกใจอย่างมาก ซึ่งครอบครัวตนทำธุรกิจเกี่ยวกับรับเหมาก่อสร้าง และไม่เคยไปมีปัญหากับใครมาก่อน

คุณอาจสนใจ

Related News