ต้นสังกัดรับเป็นตร.จริง! 11 ชายฉกรรจ์ อ้างเป็นตร. บุกบ้านหนุ่ม รีดเงินเดือนละพัน แลกไม่กลับมาตรวจค้น

จ่าคิงส์ พาผู้เสียหายชาวลำพูน ร้องกองปราบ หลังถูกชายฉกรรจ์ 11 ราย อ้างเป็นตำรวจ นปพ. ภาค 5  บุกค้นบ้านโดยไม่มีหมายค้น พร้อมพยามคุกคาม สุดท้ายไม่พบอะไรก่อนหนีกลับ – ด้านเจ้าของบ้านบุก ภาค 5 รุดถามข้อเท็จจริงผู้บังคับบัญชา สรุปแล้วเป็นตำรวจในสังกัดจริง พยายามขอเจรจาให้ยอมความ แต่สุดท้ายไม่ยอม เหตุรู้สึกไม่ปลอดภัย ก่อนแจ้งความ ม.157

วานนี้ (21 พ.ย. 2567) เวลา 10.00 น. ด้านหน้ากองบังคับการปราบปราม นายธมนันท์ แตงทิม แอดมินเพจ “จ่าคิงส์ สะพานใหม่” อดีต สห.ทอ.พา ผู้เสียหาย คือ นายวงศพัทธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว เดินมาจากจังหวัดลำพูน เข้าร้องต่อตำรวจกองปราบฯ ภายหลังจาดถูกกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 11 คน ที่อ้างตัวเป็น ตร.ชุด นปพ. สืบภาค 5 บุกตรวจค้นบ้าน โดยไม่มีหมายศาล ไม่แสดงบัตรข้าราชการตำรวจ และแสดงตัวตนใดๆ พยามตรวจค้นผู้รับเหมาที่จ้างมาก่อสร้างบ้าน แต่ไม่พบความผิด ก่อนจะขอค่าใช้จ่ายรายคนๆ ละ 1,000 บาท พร้อมกับส่งเลขบัญชีให้ทางไลน์เพื่อให้โอนเงิน แลกกับการจะได้ไม่ถูกตรวจค้นอีก

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 พ.ย 2567 ที่ผ่านมา โดยคลิปวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้

จากคลิปจะเห็นว่า แก๊งชายฉกรรจ์ขับรถกระบะ 2 คัน  เก๋งอีก 1 คัน มาจอดหน้าบ้านของนายวงศพัทธ์ ก่อนจะแห่เข้าไปค้นบ้าน แบบไม่แสดงตัว ไม่มีบัตรใดๆ พร้อมอ้างว่าเป็นตำรวจ นปพ. สืบภาค 5  แต่ไม่มีใครแต่งเครื่องแบบเลย  อีกทั้งไม่มีหมายค้น ก่อนพุ่งปรี่เข้าไปแบบดื้อๆ และตรงไปที่คนงานต่างด้าว 3 ราย ที่จ้างมารับเหมาต่อเติมบ้าน  แต่นายวงศพัทธ์ยืนยันว่าแรงงานต่างด้าวที่ตนจ้างมา มีบัตรและเอกสารถูกต้องตามกฎหมายครบทั้งหมด

จากนั้นแก๊งชายฉกรรจ์ทั้ง 11 คนนี้ ขอค้นบ้านต่อ  แต่ปรากฏว่าไม่มีของผิดกฎหมาย  ก่อนจะพูดทิ้งท้ายเอาไว้ว่า เดี๋ยวให้เลขที่บัญชีไว้ และให้โอนจ่ายรายเดือนให้ทั้ง 11 คน คนละ 1,000 บาทต่อเดือน เพื่อที่จากนี้จะไม่มายุ่งอีก แต่ไม่บอกว่าเป็นค่าอะไร แต่ได้ให้เลขที่บัญชีและไลน์ไว้ ก่อนเดินกลับขึ้นรถ แยกย้ายกลับทันที

ขณะที่นายวงศพัทธ์ เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวบอกว่าที่เป็นไปตามพฤติการณ์จากวงจรปิด  ก่อนเล่าเสริมว่า ตอนที่ชายฉกรรจ์มาค้นบ้าน  ตนได้สอบถามไปว่ามาจากหน่วยงานใด เขาบอกว่ามาจาก นปพ.สืบฯ ภาค 5 และตนได้เอ่ยชื่อบุคคลหนึ่ง ที่เป็นเจ้าหน้าที่อยู่ในตำรวจภูธรภาค 5 ว่ารู้จักหรือไม่ เขาก็ตอบว่าไม่รู้จัก และทางผู้รับเหมาที่ตนจ้างมาก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดกฏหมายอะไร

กระทั่งวันที่ 19 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา นายวงศพัทธ์ได้เดินทางไปที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำภาพจากวงจรปิดไปสอบถาม รอง ผกก. นปพ.สืบภาค 5 ยอมรับว่า ทั้งหมดเป็นตำรวจลูกน้องเขาจริง ก่อนจะขอเจรจาไกล่เกลี่ย กับตนว่าขอจบเรื่องนี้

โดยวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ช่วงที่นายวงศพัทธ์ พูดคุยกับผู้บังคับบัญชา ของทั้ง 11  ชายฉกรรจ์ บางช่วงบางตอนของวงจรปิด นายวงศพัทธ์ พยายามบอกว่า จะเอาเรื่อง ต้องทำเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง  น้อยคนที่กล้าที่จะเปิดหน้าชนกับตำรวจ ทั้ง 11 คน

ด้านตำรวจในคลิปพูดว่า “ทางพวกผมผิด มันผิดที่ขั้นตอนปฏิบัติ ผมเลยต้องเข้ามาขอภัย และให้ให้อภัย และถามว่ามีทางไหนที่จะพอเยียวยาหรือว่าขอโทษเพื่อให้รู้สึกดีหรือว่าสบายใจ พวกผมพร้อมนะครับ เพราะทุกคนไม่ได้มีปัญหาอะไรกับพี่จริงๆ”

หลังจากไกล่เกลี่ยตามบทสนาทนาเมื่อดังกล่าว ปรากฏว่านายวงศพัทธ์ ไม่ยอมความ ก่อนขับรถออกจาก นปพ.สืบภาค 5  และพบว่าระหว่างขับรถออกมานั้น มีชายกลุ่มหนึ่งหยิบโทรศัทพ์มือถือขึ้นมาถ่ายรถและป้ายทะเบียน นายวงศพัทธ์  ก่อนที่เจ้าตัวจะถามตรงๆ ว่าถ่ายทำไม ปรากฏว่าคนที่ถ่ายบอกว่า “เขาให้ถ่าย พี่ธุรการเข้าให้ถ่าย ไม่รู้เหมือนกัน”

กระทั่งวานนี้ (21 พ.ย.67) จ่าคิงส์ พานายวงศพัทธ์ มาร้องที่กองปราบ โดยนายวงศพัทธ์ บอกว่า ตัวเองรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย จึงขอแจ้งความเพื่อเอาผิดดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 11 นาย ฐานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบตรวจค้นโดยไม่มีหมายค้นไม่แสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหา ม.157 เจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และข้อหาบุกรุก

ด้าน จ่าคิงส์ กล่าวว่า ฝากไปถึง กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ให้ตรวจสอบคดีนี้ด้วย เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรม และฝากเช็กชาย 11 คน ที่บุกไปบ้านผู้เสียหายด้วยเนื่องจากไม่มีหมายค้น แต่บุกไปที่บ้านได้อย่างไร

เบื้องต้นในวันนี้ตนจะพาผู้เสียหายไปพบพนักงานสอบสวน ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อหาทางออกเรื่องนี้ และประสานไปยัง ผบช.ภ. 5 ต่อไป เบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ปปป. สอบปากคำผู้เสียหาย และดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/VbebOoT_Dpg