"โอ๊ตมีล" ร้องขอความเป็นธรรม ร้านตัดผมตัดโดนหูไร้เยียวยา ด้านช่างตัดผมออกมาโต้กลับ ไม่เคยปฏิเสธเยียวยา

นายณัฐพงษ์ คัดทะจันทร์ หรือโอ๊ตมีล นักแสดง ออกมาร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน เนื่องจากไปตัดผมที่ร้านแห่งหนึ่งแถวเอกมัย แล้วเกิดอุบัติเหตุตัดเข้าที่ใบหูจนเป็นแผลเป็น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการรับงานในวงการบันเทิงและทำให้เสียสุขภาพจิต



โดยโอ๊ตมีลระบุว่า เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ตนไปตัดผมที่ร้านตัดผมชื่อดังแห่งหนึ่งแถวเอกมัย ปรากฎว่าเกิดอุบัติเหตุช่างตัดผมตัดเข้าที่ใบหูข้างขวา ต้องเย็บรักษาไป 7 เข็ม โดยเบื้องต้นได้รับผิดชอบจ่ายค่ารักษาพยาบาลเย็บแผลไปแล้วจำนวน 15,375 บาท



ปรากฎว่าหลังจากนั้น ตนได้มีการเจรจากับช่างตัดผมเพื่อให้ช่างตัดผมรับผิดชอบค่าสินไหมทดแทนอื่น ๆ เพิ่มเติม ในส่วนของค่าตัดไหมและค่าดูแลแผลเป็น ซึ่งตอนแรก ทางร้านรับปากว่าจะดูแลตรงนี้ให้ ปรากฏว่าผ่านไปประมาณ 3 สัปดาห์ ทางร้านตัดผมกลับนิ่งเฉยและเลยกำหนดที่ตนจะต้องตัดใหม่แล้วตนจึงต้องตัดสินใจออกค่าตัดไหมด้วยตนเองและไปเจรจาเรียกร้องให้ร้านตัดผมชดใช้ แต่ร้านตัดผมกับปฏิเสธ โดยอ้างว่าค่ารักษาพยาบาลตอนแรกที่จ่ายไปถือว่าเพียงพอแล้ว ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่พอใจ แต่ก็ตัดสินใจที่จะถอยออกมา เพราะก็ไม่อยากมีปัญหาอะไรเพิ่ม



เมื่อทางค่ายทราบเรื่อง ทางค่ายจึงได้เข้าไปเจรจากับร้านตัดผมเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งรอบนี้ทางร้านรับปากว่าจะทำ ATM พ่วงประกันอุบัติเหตุให้ มูลค่า 1,599 บาท แต่ปรากฏว่าพอถึงกำหนดทำประกันเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมาปรากฏว่าร้านตัดผมกลับนิ่งเฉย พอต้นสังกัดของตนทักไปถามเรื่องความคืบหน้าการชดใช้เยียวยาก็ไม่มีการรับผิดชอบใด ๆ เพิ่มเติมอีกเลย



ทำให้ตอนนี้แผลที่บริเวณใบหูด้านขวากลายเป็นแผลเป็นและเสี่ยงที่จะรักษายากขึ้น ส่งผลกระทบอย่างมากต่ออาชีพนักแสดงของตน ทำให้เวลาไปแคสงานแสดงก็จะถูกปฏิเสธ เนื่องจากมีรอยตำหนิแผลเป็นที่บริเวณใบหูขวา ตอนนี้ก็ขาดรายได้จากงานแสดงอันเป็นอาชีพหลัก อีกทั้งทำให้ตนเสียสุขภาพจิตใจอย่างมาก เนื่องจากตนต้องแบกรับภาระปัญหาเรื่องนี้มาอย่างยาวนานจนทำให้เสียการเสียงาน ยิ่งไปกว่านั้น กลายเป็นว่าทำให้คุณยายวัย 80 กว่าปีที่อยู่ต่างจังหวัด ต้องคอยโทรมาเป็นห่วงเป็นใยตน ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนรู้สึก sensitive อย่างมาก และทำให้ตนมีอาการแพนิคหวาดกลัวกรรไกรไปเลย แค่ได้ยินเสียงกรรไกรต้นก็รู้สึกแพนิคกลัวแล้ว



ตนจึงอยากร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนผ่านไปยังร้านตัดผมคู่กรณี เพื่อให้รับผิดชอบต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น อันทำให้ตนเสียโอกาสรับงานในวงการบันเทิงและเยียวยาทั้งแผลเป็นที่ใบหูขวากับสุขภาพจิตใจของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชดใช้เยียวยาในสิ่งที่ทำร้านได้รับปากไปแล้ว ขอให้รับผิดชอบในส่วนตรงนี้ด้วย รวมทั้งอยากฝากไปอุทาหรณ์ให้แก่ประชาชนและช่างตัดผมว่าอาชีพนี้ไม่ควรจะเป็นอาชีพที่เกิดข้อผิดพลาดอุบัติเหตุเช่นนี้ เพราะอาจจะทำให้ผู้ได้รับกระทบสูญเสียอนาคตและโอกาสได้

ทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ได้ไปสอบถามข้อเท็จจริงกับคุณคณพศ หรือช่างก้อง ช่างตัดผมที่เป็นคู่กรณี ชี้แจงว่า ปกติตนจะเป็นคนระมัดระวังเสมอเวลาตัดซอยผมที่อยู่ใกล้บริเวณใบหู แต่ในวันนั้นได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นที่ใบหูของโอ๊ตมีล เนื่องจากตอนนั้นน้องหันคุยไปคุยมากับเพื่อนจนตนต้องเตือนหลายครั้ง สุดท้ายก็เกิดพลาดไปโดนเข้าที่หูน้องจนได้ ทางฝั่งตนก็ได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการให้น้องในร้านพาโอ๊ตมีลไปเย็บรักษาพยาบาล รีบหาเงินมาจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลไปเป็นที่เรียบร้อยตามจำนวน 15,375 บาทตามที่เป็นข่าว



ปรากฎว่าหลังจากนั้น ทางฝั่งน้องโอ๊ตมีล และค่ายก็ได้มาพูดคุยเจรจาเรื่องการเยียวยาอื่น ๆ ซึ่งตนก็ให้การยืนยันกับอีกฝั่งว่า ยินดีที่จะรับผิดชอบและชดใช้เยียวยาทุก ๆ อย่างรวมทั้งค่าการรักษาแผลตัดไหมและบำรุงดูแลแผลหลังจากนี้ ซึ่งตนก็เข้าใจว่าน้องต้องใช้หน้าตาทำมาหากินในฐานะเป็นนักแสดงไม่เคยพูดปฏิเสธว่าจะไม่ดูแลเยียวยาค่าสินไหนทดแทนใด ๆ แก่น้อง โดยเฉพาะค่าตัดไหมและดูแลแผล ตนก็ไม่เคยปฏิเสธ



ส่วนประเด็นเรื่องค่าประกันอุบัติเหตุ 1,599 บาทนั้น เป็นค่าใช้จ่ายที่ทางค่ายเป็นคนเสนอให้ตนด้วยซ้ำว่าสามารถทำได้ ซึ่งตนก็ไม่ปฏิเสธ เพียงแต่ตนมีภาระทางธุรกิจที่ต้องคุยกับอีกหลายบริษัท เลยทำให้แชตการพูดคุยกับทางค่ายถูกเลื่อนจมหายไป และตนก็เลยลืม ซึ่งตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางฝั่งค่าย และน้องโอ๊ตมีลก็ไม่เคยติดต่อตนมาอีกเลย กระทั่งเกิดเหตุการณ์ลงคลิปให้ข่าวโจมตีตนจนเป็นข่าวใหญ่โต



ช่างก้องได้กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนไม่เข้าใจในสิ่งที่น้องออกมาเป็นข่าว ไม่เข้าใจว่าน้องต้องการอะไร ทำไมถึงไม่มีการพูดคุยหรือติดต่อเข้ามาก่อน ซึ่งตนก็ยินดีที่จะพูดคุยกับน้องตลอด หากน้องต้องการอะไรก็ควรจะต้องเข้ามาคุยกันก่อน โดยเฉพาะเรื่องเงินค่าทำประกัน 1,599 บาท ถ้าตนไม่ได้จ่ายก็ทวงได้ ช่องทางติดต่อฝั่งของตนน้องก็มี ทำไมถึงต้องลงคลิปออกไปให้ข่าวจนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนทำให้ตนถูกสังคมโจมตีได้รับความเสียหาย กว่าตนจะสร้างชื่อเสียงมาได้ 15 ปีในวงการต้องใช้เวลา กลับต้องมาพังทลายเพราะเหตุการณ์แบบนี้ ที่ผ่านมาก็มีลูกค้ามารับประกัน และไว้วางใจฝีมือของตน จึงอยากให้น้องต้องการอะไรก็เข้ามาพูดคุยกัน และตนยืนยันว่าจะรับผิดชอบในทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เคยปฏิเสธใด ๆ ทั้งสิ้น