สังคม

‘เณรแอ’ พลิกลิ้นรับมีสัมพันธ์สวาทสาว 26 อ้างอยู่กินฉันผัวเมีย โอนเงินให้เกือบล้าน สาวอ้างท้อง ร้องขอเงินอีก

โดย petchpawee_k

2 พ.ย. 2566

568 views

ตำรวจบุกสำนักเณรแอ ด้าน "เณรแอ" พลิกลิ้นยอมรับมีสัมพันธ์สวาทกับสาววัย 26 ปี จริง คบหากันฉันสามีภรรยาส่งเสียเลี้ยงดูเช่าบ้าน 2 หลัง ให้อยู่ งัดหลักฐานสลิปโอนเงิน-แชตสนทนา เผยฝ่ายหญิงขอเงินตลอดโอนเงินให้หลายครั้งเกือบ 1 ล้าน อ้างท้อง เรียกร้องเงินอีก 2 แสนพอไม่ยอมจ่ายนำเรื่องไปร้องเรียน ขณะที่ฝ่ายหญิงยันสถานะแค่ลูกศิษย์กับอาจารย์ เคยบอกรักเพราะรู้สึกดี ไม่ได้อ่อยอ้อน


วานนี้ (1 พ.ย.) พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผู้กำกับการ สน.ดอนเมือง พร้อมกำลังตำรวจ สน.ดอนเมือง , เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตดอนเมือง , และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 60 เข้าพบนายหาญ รักษาจิตร์ หรือเณรแอ จอมขมังเวทย์ อายุ 63 ปี ที่บ้านย่านสรงประภา เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร หลังมีหญิงรายหนึ่งเข้าแจ้งความว่าถูกเณรแอกระทำอนาจาร


จากการตรวจสอบพบเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ 150 ตารางวา มีส่วนที่เป็นอาคารชั้นเดียว ขนาด 40 ตารางเมตร เป็นห้องพิธีของเณรแอ มีแท่นบูชาเทวรูป ฤาษี เศียรพ่อแก่ กุมารทอง กุมารี หัวกะโหลกมีเทียนปัก และขี้ผึ้งมหาเสน่ห์ อยู่เต็มห้องหลายพันชิ้น ถัดเข้าไปด้านในแบ่งส่วนเป็นห้องนอน


โดยนายหาญ หรือ เณรแอ จอมขมังเวทย์ กล่าวว่า รู้จักผู้เสียหายเมื่อปี 2564 เริ่มจากมาขอถอนของ 3 ครั้ง หลังถูกสามีทิ้ง มีใบหย่ามายืนยัน ก่อนจะเริ่มพูดคุยชอบพอคบหากันฉันสามีภรรยา มีการร่วมหลับนอน ส่งเสียเลี้ยงดู และเช่าบ้าน 2 หลัง ให้อยู่ โดยหลังล่าสุดเช่าเดือนละ 5,000 บาท หลังสำนักมานานหลายปี โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาฝ่ายหญิงก็มีการมาขอเงินตลอด และได้โอนเงินไปให้หลายครั้ง รวมเกือบ 1 ล้านบาท


ตนเองมีหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงิน ใบเสร็จค่าเช่าบ้านและแชตการสนทนาทั้งหมด แต่ช่วงหลังฝ่ายหญิงได้มาข่มขู่จะเอาเงินและอ้างว่าท้อง แต่ตนเองได้ไปตรวจกับโรงพยาบาลแล้ว ยืนยันว่าเป็นหมัน ไม่สามารถมีลูกได้ จึงรู้ว่าฝ่ายหญิงโกหกและมีชายอื่น จึงได้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ฝ่ายหญิงยังเรียกร้องเงิน 2 แสนบาท แต่ตนเองไม่ยอมจ่ายแล้ว เพราะมองว่าฝ่ายหญิงพฤติกรรมไม่ดี จึงเป็นที่มาที่ฝ่ายหญิงไปร้องเรียนกับสื่อมวลชนและหน่วยงานต่างๆ ซึ่งส่วนหนึ่งตนเองมองว่าฝ่ายหญิงอาจมีปัญหาทางจิต


โดยแชตไลต์บางท่อนบางตอนฝ่ายหญิงทักมาว่า “หนูรักอาจารย์” “หนูอยู่ตัวคนเดียวหนูไม่มีใคร หนูอยากให้อาจารย์อยู่กับหนู หนูอยากอยู่ใกล้ๆ หนูรักอาจาร์”


เมื่อ 18 มี.ค. ฝ่ายหญิงทักมาว่า “เงินหนูหมดทำไงค่ะ”  “โอนให้หนู 20,000” “เงินหนูหมดจะเอาอะไรใช้กินเห็นใจหนูด้วย” “ถึงแล้วหนูขอ 60,000 ก่อนสุดท้าย” “หนูจะไปปวีณา” “พี่ทำหนูท้องไม่รับผิดชอบ รับปากกับผู้กองสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วว่ารับ ก็เอาเงินให้หนูไม่ให้มีเรื่อง หนูขอเงิน หนูไม่ไหวเองเหมือนกับพี่ชไมพร หนูขอจบ 200,000”  กลางดึก 19 มี.ค. มีแชตไลน์ที่ฝ่ายหญิงส่งเลขบัญชีธนาคารให้เณรแอ พร้อมบอกว่า “ไม่เข้าไปบ้านอีกแม้แต่โทร” “หนูจะย้ายออกวันที่พี่กลับมา”


เณรแอ ระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้ที่ตนเองปฏิเสธว่าไม่รู้จักหญิงคนดังกล่าว โดยบอกว่าจำไม่ได้นั้น เนื่องจากตอนแรกฝ่ายหญิงปิดบังใบหน้า ตนเองจึงจำไม่ได้ เพราะมีลูกศิษย์จำนวนมากเข้ามาหาตนเอง แต่เมื่อตนเองเห็นแชตสนทนาที่หลุดออกมา จึงรู้ได้ว่าเป็นอดีตภรรยารายนี้ เพราะส่งเสียลูกศิษย์สาวลักษณะนี้เพียงคนเดียว คบหาจากความรักและสงสาร ไม่ใช่การถอนของเพื่อมีเพศสัมพันธ์ใดๆ ทุกวันนี้ก็ยังคิดถึงอยู่ อยากเจออยากพูดคุยและถามว่าทำไปเพราะเหตุใด ทั้งนี้ตนเองบริสุทธิ์ใจ ยินดีเข้าให้ปากคำกับตำรวจทุกอย่างโดยได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นไปบ้างแล้ว


ลูกศิษย์คนสนิทของเณรแอ เปิดเผยว่า หลังมีข่าวการล่วงละเมิดทางเพศหญิงดังกล่าว สร้างความเสื่อมเสียให้กับอาจารย์อย่างมาก ซึ่งส่วนตัวรู้จักกับผู้หญิงคนนี้ เพราะเณรแอคบหาแบบเปิดเผย ลูกศิษย์ทุกคนรู้จักหมด แต่ระยะหลังมาเห็นชอบเข้ามาขอเงิน โดยช่วยเณรแอ เตรียมหลักฐานการโอนเงิน หลักฐานการพูดคุยในไลน์ เพื่อส่งมอบให้กับทนายความดำเนินการทางกฎหมายแล้ว


 พ.ต.อ. อดิเรก เปิดเผยว่า การเข้าตรวจสอบเป็นการขอความร่วมมือตามความสมัครของเณรแอ ที่ต้องการพิสูจน์ข้อเท็จจริงหลังถูกกล่าวหา ซึ่งก็ได้เก็บหลักฐานบางส่วนไว้ตรวจสอบ หลังจากนี้ตำรวจจะออกหมายเรียกเณรแอ มาให้ปากคำเกี่ยวกับรายละเอียดทั้งหมด เพื่อรับฟังข้อเท็จจริงจากทั้ง 2 ฝ่าย โดยที่ผู้เสียหายกล่าวหา ตำรวจก็จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการตรวจร่างกายและพยานแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ ก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นความสมัครใจ หรือล่อลวง หรือบังคับข่มเหง ซึ่งตำรวจยังไม่ได้มีการตั้งข้อกล่าวหาเณรแอ แต่อย่างใด


จากการเข้าตรวจสอบบ้านพักเณรแอ ซึ่งมีการสร้างต่อเติมเป็นสำนักหรือตำหนักใช้ทำพิธีทางไสยศาสตร์ ด้านในมีเครื่องรางของขลังในการทำพิธีจำนวนมาก และห้องติดกันคือห้องนอนของเณรแอ ตลอดจนสำนักงานเขตดอนเมืองสั่งห้ามสักยันต์ เนื่องจากต้องขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งตำหนักเณรแอ ไม่ได้ขออนุญาต /เบื้องต้นตำรวจขอเณรแอ นำวัตถุของขลังที่อยู่ในตำหนักทำพิธีไปตรวจสอบ เช่น สีผึ้งทาปาก, น้ำมันพราย, นำน้ำมันว่าน มหาเสน่ห์ ,ผงมวลสารทำพระไปตรวจสอบ ส่งตรวจว่ามีสารอันตรายใดหรือไม่

ขณะที่หญิงสาววัย 26 ปี เผยว่า ที่ผ่านมาตนให้สถานะกับเณรแอ แค่ลูกศิษย์กับอาจารย์ ลูกศิษย์รักอาจารย์ อาจารย์รักลูกศิษย์มากกว่า เป็นความรักที่หวังดีช่วยเหลือกัน ไม่ใช่เชิงสามีภรรยา แต่เคยไปบ้านเณรแอที่จังหวัดสระบุรีจริง ยืนยันไม่ได้ดิสเครดิต


ที่ผ่านมาตนเป็นลูกศิษย์ ซื้อกับข้าวไปให้ที่สำนัก พูดคุยกันเรื่องคุณไสยและการแก้ของ ไม่ได้คบหากันฉันสามีภรรยา ถ้าเป็นคบหากันจริงเณรแอ ก็คงเอาตนไปออกงานหรือออกสื่อแล้ว ส่วนแชตไลน์อาจเป็นแชตที่สร้างขึ้นเองหรือไม่ แต่ยอมรับว่าเคยบอกรักเณรแอ เป็นเรื่องปกติที่ลูกศิษย์บอกรักอาจารย์ ไม่ได้อ่อยอ้อน รู้สึกดีก็บอกว่ารัก


ประเด็นเรื่องขอเงิน ช่วงหนึ่งพูดคุยกัน รักกันเหมือนผู้ใหญ่รักเด็กสงสารเอ็นดู ตนไปหาเณรแอที่สำนักเขาก็ถามว่าเป็นยังไงบ้างและโอนเงินให้ไปใช้จ่าย ทุกครั้งที่ตนขอเงินเณรแอก็จะโอนให้หลายครั้ง ตั้งแต่มี 2564 ครั้งละหลักพันบาท แต่ไม่ได้โอนให้ทุกเดือน มีเฉพาะจ่ายค่ามัดจำห้องเช่าหลักหมื่นบาท เวลาตนจะซื้อของก็ของเงินจากเณรแอ ขอแบบเล่นๆ เณรแอก็โอนให้


หญิงสาวคนดังกล่าว ระบุอีกว่า การที่ตนออกมาร้องเรียนไม่ใช่เพราะไม่ได้เงินจากเณรแอ ตนไม่ได้เห็นเณรแอเป็นธนาคาร เงินตนเองตั้งใจขอจริง เณรแอพูดว่ามีอะไรขาดเหลือก็บอกจะช่วยเหลือ ตนไม่ได้อยากเรียกร้องอะไร แค่อยากให้เณรแอรแก้ของวิชาไสยศาสตร์ให้หาย ที่ผ่านมาตนจำใจลงเสน่ห์ไม่ได้สมัครใจ ส่วนที่ตนร่วมหลับนอนด้วยนั้นเพราะคุณไสยยังไม่หายจึงจำใจไปหลับนอนด้วย ซึ่งเณรแอ อ้างว่าต้องมาลงเสน่ห์นะจะได้หาย เป็นมากเป็นน้อยต้องมาลงเสน่ห์


แชตข้อความที่ลูกศิษย์เณรแอ ปล่อยออกมา โดยมีข้อความทำนองว่ามีการคบหาบอกรักกัน และมีการขอเงิน ยอด 60,000 บาท และ 200,000 บาท ลักษาณะข่มขู่ว่าจะไปทำแท้งลูกในท้อง หากไม่ยอมจ่ายจะไปร้องมูลนิธิปวีณาฯ ขอยืนยันว่าแชทดังกล่าวเป็นของปลอม ตนเองไม่เคยส่งข้อความลักษณะนี้ไปหาเณรแอ แต่ยอมรับว่าหมายเลขบัญชีธนาคารที่ปรากฎในแชท เป็นของตนเองจริง แต่ไม่เคยมียอดเงินโอนสูงถึงหลักแสนบาทเหมือนที่เณรแอ กล่าวอ้าง และตนเองก็ไม่ได้ท้อง รวมถึงไม่เคยบอกเณรแอว่าท้อง เนื่องจากทราบว่าเณรแอเป็นหมันตั้งแต่ครั้งแรกที่ร่วมหลับนอนกัน


 ส่วนที่บอกว่าจะไปร้องมูลนิธิปวีณาฯ ก็ไม่ใช่เรื่องท้อง แต่เป็นเรื่องถูกหลอกให้ร่วมหลับนอนด้วยการทำเสน่ห์ถอนของแก้เคล็ด โดยไม่สมัครใจ นอกจากนี้เณรแอยังเคยกล่าวอ้างว่าได้ร่วมหลับนอนกับบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคนด้วย ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์จริง แต่ตนเองไม่ได้ยินยอม ทั้งนี้ตนเองยังเคยเห็นว่าเณรแอรับประทานยาเกี่ยวกับโรคประสาท จึงเชื่อว่าฝ่ายเณรแอต่างหากที่มีอาการทางประสาท ไม่ใช่ตนเอง เพราะที่ผ่านมาตนเองไม่เคยรับประทานยา หรือต้องรักษาแต่อย่างใด


ด้านทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เปิดเผยว่า ในส่วนของข้อกฎหมาย ทราบว่าผู้เสียหายได้ไปแจ้งความดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศแล้ว ดังนั้นพนักงานสอบสวนก็จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด แต่เบื้องต้นทั้งสองฝ่ายยอมรับว่ามีความสัมพันธ์กันจริง จึงไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ประเด็นนี้ แต่ผู้เสียหายจะต้องยืนยันว่าไม่ได้สมยอมมีเพศสัมพันธ์ จึงจะสามารถดำเนินคดีกับเณรแอได้ แต่หากเป็นการสมยอมและมาแจ้งความก็จะเข้าข่ายแจ้งความเท็จ มีอัตราโทษจำคุก 5 ปี


อย่างไรก็ตาม กรณีที่เณรแอ ปล่อยแชตความสัมพันธ์และอ้างว่าถูกกรรโชกทรัพย์ ก็ต้องพิสูจน์ว่าเป็นแชทจริงหรือไม่ มีการตัดต่อ หรือนำเสนอเฉพาะบางส่วน หรือคนละช่วงเวลาเพื่อบิดเบือนหรือไม่ หากเป็นแชตจริง ฝ่ายหญิงก็จะเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ ซึ่งก็จะทำให้เณรแอสามารถดำเนินคดีฝ่ายหญิงในอีกความผิดได้



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/e3umTp4Ctyc

คุณอาจสนใจ

Related News