สังคม

สิ้นใจ สาววัย 33 ปีป่วยไทรอยด์-โรคอ้วน หนัก 200 กิโลกรัมเสียชีวิตแล้ว

โดย kanyapak_w

27 ต.ค. 2566

1K views

สาวป่วย ไทรอยด์ ป่วยโรคอ้วน หนักกว่า 200 กิโลกรัม ที่เคยสั่งเสียให้ต่อโลงศพขนาดใหญ่ไว้เมื่อตัวเองตาย เสียชีวิตลงแล้ว สามีเศร้าใจอยู่โรงพยาบาลแต่ไม่ทันได้ดูใจการจากลากัน

นางสาวนวรัตน์ หรือ บี อายุ 33 ปีชาวบ้านลานสะเดา ตำบลวังควง อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเคยป่วยโรคอ้วน และป่วยเป็นโรคไทรอยด์ ไม่สามารถรักษาหายได้ เนื่องจากมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 200 กิโลกรัม จึงยากต่อการผ่าตัดรักษา โดยมักจะนอนหลับ แล้วหายใจไม่ออกเสมอ จนบางครั้งหลับลึกไปโดยไม่รู้สึกตัว

ซึ่งเคยตกเป็นข่าว เมื่อเธอได้สั่งให้สามีครอบครัวและญาติรวมทั้งกู้ภัย ช่วยกันต่อโลงศพ ให้ก่อนสิ้นลมเพราะรู้ดีว่าตนสิ้นลมหายใจไปจะไม่มีโลงศพใส่ ตอนนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน เร่งต่อโลงศพไว้ให้ตามคำร้องขอ ก่อนจะนำไปเก็บไว้ยังวัดในละแวกบ้าน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวถูกนำเสนอไปเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2563

กระทั่งวันนี้ 27 ตุลาคม 2566 นางสาวนวรัตน์ ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร ญาติจึงนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านพัก ตำบลวังควง อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร จาการเดินทางไปตรวจสอบ พบชาวบ้านและบรรดาอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน กำลังช่วยกันจัดเตรียมงานศพ โดยที่มี นางสาวรุ่งเจริญ อายุ 56 ปี ผู้เป็นพี่สะใภ้ คอยดูแลความเรียบร้อย

นางสาวรุ่งเจริญ เปิดเผยว่า น้องสะใภ้ป่วยมานาน ระยะหลังเริ่มอาการไม่ดีขึ้นต้องใช้ออกซิเจนตลอดเวลา จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาอาการเริ่มแย่หายใจไม่ออก จึงได้พากันนำส่งโรงพยาบาลพรานกระต่ายเพื่อรักษาตัวและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกำแพงเพชรเพื่อทำการรักษาต่อ โดยรักษาตัวอยู่สามวัน จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันนี้ น้องสะใภ้ก็จากไปอย่างสงบ ซึ่งตนรู้สึกใจหาย แม้จะไม่ใช่พี่น้องจริงๆเป็นน้องสะใภ้ก็รักและห่วงใย เคยดูแลกันมาตลอด รู้สึกคิดถึง

นายกริช อายุ 47 ปี สามีนางสาวนวรัตน์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่คอยดูแลกันมานาน จนกระทั่งป่วยครั้งนี้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตนก็ไปคอยเฝ้าดูแลมาตลอด โดยขณะที่ตนลงมารับประทานข้าว แพทย์พยาบาลได้โทรฯตามให้ตนขึ้นไปบนตึก พร้อมบอกว่าภรรยาตนเสียชีวิตแล้ว ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก รักและผูกพันกันมานาน

ทั้งนี้หลังจากที่นำศพของนางสาวนวรัตน์ กลับมาบำเพ็ญกุศลศพที่บ้าน กู้ภัยได้นำโลงศพที่ผู้เสียชีวิตเคยสั่งให้ต่อไว้ขณะยังมีชีวิตอยู่ เพื่อมาบรรจุร่างของผู้เสียชีวิตและจะนำเข้าไปในโลงเย็น ปรากฎว่า โลงมีขนาดใหญ่ไม่สามารถนำเข้าไปในโลงเย็นได้ จึงต้องนำร่างเข้าไปใส่ในโลงเย็นและนำโลงศพออกมาวางไว้เพื่อรอใส่ตอนจะนำไปฌาปนกิจศพอีกครั้ง โดยจะนำไปฌาปนกิจยังเชิงตะกอนวัดที่อยู่อีกหมู่บ้าน เนื่องจากเมรุวัดในหมู่บ้านไม่สามารถนำโรงเข้าไปฌาปนกิจได้ ซึ่งจะมีพิธีฌาปนกิจขึ้นในเวลา 13.00 น.



คุณอาจสนใจ