สังคม

รวบคาสำนักงานเขต! จนท.เทศกิจเขตดุสิต เรียกรับเงินผู้รับเหมา แลกไม่ตรวจไซต์งานก่อสร้าง

โดย petchpawee_k

11 ต.ค. 2566

698 views

ปปป.บุกจับ เทศกิจวัย 59 เรียกรับเงินผู้รับเหมา คาลานจอดรถสำนักงานเขตดุสิต พร้อมของกลาง 6 พันบาท หลังผู้เสียหายร้องถูกเรียกเงินรายเดือน แลกกับการไม่ตรวจไซต์งานก่อสร้าง ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาหนักเร่งขยายผล ด้านตัวแทนเขตเร่งตั้งกรรมการสอบทันควัน ให้ออกจากราชการไว้ก่อน

วานนี้ (10 ต.ค.) ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบหรือ ปปป. เข้าจับกุมเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตดุสิตนายหนึ่ง หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนว่าใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เรียกรับเงินจากนายสมพงษ์ ผู้รับเหมาก่อสร้าง  


โดยวางแผนกับผู้เสียหายให้เข้าไปเจรจาตามที่ตกลงกับเทศกิจรายนี้ แล้วนำเงินจำนวน 6000 บาทมอบให้ตามที่ตกลง จากนั้นเทศกิจรายนี้ก็นำเงินสดจำนวน 6000 บาท เก็บในกระเป๋าเสื้อ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม และพบของกลางจึงนำมาตรวจสอบกับเอกสารที่ถ่ายสำเนาไว้ก็พบว่าตรงกันจึงเชิญตัวมาสอบสวน


พฤติการณ์คือ เทศกิจรายนี้ได้นัดหมายผู้เสียหายให้เข้าไปพบที่สำนักงานเขตดุสิต ฝ่ายเทศกิจ เมื่อ 22 กันยายน และ 6 ตุลาคม เพื่อเจรจาจ่ายเงินค่าคุ้มครอง แลกกับการไม่เข้าไปตรวจที่ไซด์งาน โดยอ้างว่าการก่อสร้างนั้นมีปัญหาเรื่อง พรบ.ความสะอาดจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเรื่องความสะอาด แต่ถ้าไม่อยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลก็ขอให้จ่ายเงินกับเทศกิจรายนี้ โดยคิดเป็นรายเดือน เดือนละ 3000 บาท แต่มีการตกลงกันได้ข้อสรุปจ่ายเป็นรายปี เป็นเงิน 6,000 บาท  


โดยอ้างว่าเดือนนี้จะนำไปชำระค่าปรับเกี่ยวกับพรบ.ความสะอาด แต่ในทางกลับกัน ค่าปรับเรื่อง พรบ.ความสะอาด จะเสียค่าปรับอยู่ที่ 500 บาทเท่านั้น เป็นเหตุให้ผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับทางปปป. จนนำไปสู่การวางแผนเข้าจับกุม


พันตำรวจเอกประสงค์ เฉลิมพันธ์  รักษาราชการแทน ผู้บังคับการ ปปป. เปิดเผยว่า ก่อนการเข้าจับกุมผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์และปรึกษากับทาง ปปท. มาก่อนแล้ว พร้อมระบุคำร้องว่า มีเจ้าหน้าที่เทศกิจ จากสำนักงานเขตดุสิต เข้าตรวจงานก่อสร้างที่ไซต์งานตามปกติ แต่ว่ามีการอ้างกับผู้รับเหมาว่า งานก่อสร้างทำผิด พ.ร.บ. ความสะอาดฯ และจะต้องจ่ายค่าปรับเป็นรายวันจนกว่าจะมีการแก้ไขให้ถูกต้อง 


จากนั้นนัดให้เข้าไปเจรจาที่สำนักงานเขต ก่อนจะพูดคุยในลักษณะข่มขู่ให้ยินยอมจ่ายค่าคุ้มครองเป็นรายเดือน ส่วนการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุสารภาพ และอ้างว่า รับผลประโยชน์แต่เพียงผู้เดียว


เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ ตามมาตรา 149  เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดฯ ตามมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ  เป็นเจ้าพนักงานของรัฐเรียกรับหรือยอมที่จะรับหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ


ขณะเดียวกัน พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ ปปป. ระบุว่า ในภาพรวมทั่วประเทศกรณี เจ้าหน้าที่รัฐ เรียกรับสินบนในแต่ละปี มีมูลค่าสูงถึง 1,000 ล้านบาท ซึ่ง บางรายก็เรียกรับสินบนน้อยบ้าง มากบ้าง แต่เราไม่ได้มองที่มูลค่าแต่มองที่เจตนา เจ้าหน้าที่เหล่านี้อาศัยช่องว่างและอำนาจที่ในการข่มขืนใจเรียกรับเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง 


ด้านนายภูมิวิศาล เกษมสุข  เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า การจับกลุ่มนี้ แม้จะเป็นเงินจำนวนเพียง 6000 บาทแต่อยากให้มองที่เจตนาของการทุจริตในอำนาจหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงินกี่บาทก็จะไม่ได้รับการละเว้น ปล่อยไปไม่ได้ เพราะอาจจะกลายเป็นเยี่ยงอย่างแก่ เจ้าหน้าที่คนอื่นได้  


ทาวด้าน นางสาวชิยา ศิริรักษ์  ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 4 เปิดเผยว่า ปัญหาการร้องเรียนเรื่องเจ้าหน้าที่รับสินบนนั้น จากข้อมูลประมาณ 7-8 เดือน พบว่า ประชาชนยื่นเรื่องร้องเรียนเจ้าหน้าที่รัฐ เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบเข้ามาแล้ว 250 เรื่อง ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ก็มีบางเรื่องที่ตรวจสอบแล้วพบว่ามีมูลก็จะเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวน ส่วนบางเรื่องไม่มีมูลก็จะติดต่อกลับผู้ที่ร้องเรียนให้ทราบผลการตรวจสอบ


ขณะที่เจ้าหน้าที่เทศกิจ ผู้ก่อเหตุนั้น พบว่า มีภรรยาเตรียมหลักทรัพย์จำนวน 400,000 บาทมาขอยื่นประกันตัว โดยพบว่าระหว่างที่สื่อมวลชนได้ถ่ายภาพเจ้าหน้าที่เทศกิจ รายนี้ได้นำกระดาษขึ้นมาปิดบังใบหน้าและหันหลังให้กับสื่อมวลชน


ทั้งนี้ เมื่อสอบถามไปยังบุคคลใกล้ชิดเทศกิจรายนี้ว่าต้องการขอความเป็นธรรมหรือ ชี้แจงอะไรหรือไม่ก็ได้รับคำตอบว่าไม่ต้องการชี้แจงใดใดทั้งสิ้น



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/8NvKWsNrwvM

คุณอาจสนใจ

Related News