สังคม

เผยคลิป รถเมล์สาย 66 ทับยายยุพินดับ ตรวจคนขับไม่เมา-ไม่เสพ จ่อล้อมคอก ติดสัญญาณไฟข้ามถนน

โดย nattachat_c

25 เม.ย. 2566

23 views

จากกรณีเหตุรถประจำทาง ขสมก.สีครีมแดง สาย 66 วิ่งระหว่างสายใต้ใหม่-ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ชนและทับ น.ส.ยุพิน หะยากุล อายุ 83 ปี ขณะเดินข้ามทางม้าลาย บริเวณกลางสี่แยกศรีย่าน แขวงนครชัยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ หลังออกไปซื้อต้มเลือดหมูให้หลานที่ป่วยเป็นมะเร็ง โดยล้อรถทับบริเวณกระดูกเชิงกรานจนแตกละเอียด ขาหัก 1 ข้าง ไขมันที่ต้นขากระจาย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา


โดยกล้องวงจรปิดจุดเกิดเหตุ จับภาพวินาทีที่คุณยายยุพิน วัย 83 ปี กำลังเดินข้ามถนนตรงทางม้าลาย ซึ่งตอนที่คุณยายเดินมาถึงกลางถนน เป็นจังหวะเดียวกับที่รถเมล์สาย 66 กำลังเลี้ยวขวามาพอดี ทำให้ด้านข้างรถเฉี่ยวคุณยายล้มลงตรงกลางถนน แต่เหมือนคนขับรถเมล์ยังไม่รู้ตัว จึงไม่ได้หยุดรถ ทำให้ล้อหลังของรถเมล์ทับช่วงต้นขาของคุณยาย จนขาหักทั้ง 2 ข้าง ก่อนจะหยุดรถ ซึ่งตอนนั้นมีรถจักรยานยนต์อีกคันมาจอดข้างๆ คุณยายยุพินตอนเกิดอุบัติเหตุพอดี ก่อนจะขี่รถออกไป ทำให้หลายคนเข้าใจว่า ถูกรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชน แต่จริงๆ ไม่ใช่

-------------

ต่อมา วานนี้ (24 เม.ย. 66) ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของคุณยายยุพิน อยู่ที่ซอยสามเสน 19 พบกับอาเขยของคุณยายยุพิน บอกว่า คุณยายยุพินจะเดินออกจากบ้านตอน 7 โมงเช้า ทุกวัน เพื่อไปซื้ออาหารเช้าที่ตลาดศรีย่าน มาให้คนในครอบครัวกิน


ในวันเกิดเหตุ คุณยายยุพินออกจากบ้านไปรอบนึงแล้ว ก่อนจะกลับมา และบอกว่าจะออกไปซื้อต้มเลือดหมูให้หลานชายที่ป่วยเป็นมะเร็ง ซึ่งคนที่บ้านก็บอกแล้วว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องไปก็ได้ แต่คุณยายก็ยังยืนยันที่จะเดินออกไป โดยกำแบงค์ร้อยออกไป 1 ใบ แต่ยังไม่ทันจะซื้อ ก็มาเกิดอุบัติเหตุก่อน ซึ่งตอนเกิดเหตุยังกำแบงค์ร้อยใบนั้นไว้ในมือ


ซึ่งภาพจำของคุณยายยุพินที่ทุกคนรู้จักคือ เป็นคนจิตใจดี เป็นมิตรกับทุกคน และชอบอบรมดูแลสั่งสอนลูกหลานในบ้าน แม้คุณยายจะไม่มีสามี ไม่ได้แต่งงาน แต่ก็ดูแลลูกหลานเหมือนเป็นลูกของตัวเอง ซึ่งในวาระสุดท้ายของคุณยายยุพิน ทำเรื่องขอบริจาคร่างกายไว้ แต่เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุ ทางโรงพยาบาลจึงไม่รับร่าง


ต่อมา เมื่อเวลา 14.00 น. ญาติได้นำร่างของ น.ส.ยุพิน หะยากุล อายุ 83 ปี มายังวัดจันทรสโมสร เขตดุสิต โดยทางญาติร่ำไห้ และอยู่ในอาการโศกเศร้า

-------------

ขณะที่ นายอำพน ศรีนาม อายุ 35 ปี คนขับรถเมล์ และ นางสาวชนม์ชนก อุ่นเอม อายุ 30 ปี กระเป๋ารถเมล์ ได้ถือพวงมาลัยคนละพวง มาขอขมานางธัญพร ตันเจริญ อายุ 84 ปี อาของผู้เสียชีวิต


โดย นางธัญพรก็ได้พูดปลอบทั้งคู่ว่า “ไม่ถือโทษโกรธใคร และขออโหสิกรรมให้ทั้งคู่ หลังจากนี้ก็ให้กลับไปทำงาน และจงมีสติกับทุกอย่าง”


ซึ่งนายอำพนยกมือไหว้นางธัญพร ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ก่อนบอกว่า “ขอโทษจริงๆ ยอมรับว่ามองไม่เห็นผู้เสียชีวิต และมองไม่เห็นรถคันอื่น โดยตนขับมาปกติ และเลี้ยวตามสัญญาณไฟเขียว เพราะเป็นรถคันแรกที่เลี้ยว ไม่ได้ขับด้วยความเร็วอย่างแน่นอน ตอนนี้ทุกข์ใจมาก ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งตนได้ช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตเป็นอย่างดี และมีกฎระเบียบของต้นสังกัดที่จะช่วยเหลือเยียวยา ส่วนเส้นทางถนนจุดนี้ ตนขับคุ้นทางดี และเพิ่งเปลี่ยนเส้นทางมาใช้เส้นทางนี้ได้ไม่ถึงปี”


ขณะที่นางสาวชนม์ชนก ร่ำไห้ทั้งน้ำตา ก่อนบอกว่า ขอโทษ ตนไม่รู้เรื่อง เพราะเก็บเงินค่าโดยสารอยู่ด้านหลังรถ และตนไม่ได้อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่พอเกิดเหตุก็รีบวิ่งลงไปดูผู้เสียชีวิตทันที ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


ด้านนางธัญพร ก็บอกว่า อโหสิกรรมให้กับทั้งคู่ตั้งแต่ตอนแรก และไม่ติดใจอะไร ไม่โกรธแค้น เพราะเชื่อว่าเป็นเวรกรรมของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่ในใจก็ยังทำใจไม่ได้ ใจจะขาด เพราะอยู่ด้วยกันตั้งแต่เล็ก กินข้าวและนอนด้วยกันตลอด ทาง ขสมก.ก็ยืนยันว่า จะดูแลตามระเบียบขั้นตอน


ส่วนของคดีความ ทางญาติบอกว่า ตอนนี้ไม่ติดใจ และไม่คาใจเรื่องกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุแล้ว เพราะว่าทางตนได้ไปดูกล้องวงจรปิด พบว่า ยายยุพินเดินข้ามถนนซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่รถเมล์เลี้ยว ตนคิดว่าเป็นอุบัติเหตุ และไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น


ส่วนที่คนขับรถเมล์จะบวชหน้าไฟให้ ทางเจ้าตัวได้เดินมาบอก ตนก็รู้สึกดี ไม่คิดว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายมากขนาดนี้ ตอนนี้ตนยังทำใจไม่ได้ ใจจะขาด ยังไม่รู้ว่าหลังจากนี้ จะใช้ชีวิตยังไง เพราะว่าที่ผ่านมาตนกับผู้เสียชีวิต ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอด

-------------

ด้านนายสมหมาย ชูเลิศ หัวหน้ากลุ่มงานปฎิบัติการรถ กอง 3 เขต 7 ขสมก. กล่าวว่า ต้องพักงานของทั้งคู่ไปก่อน เพื่อให้ไปเคลียร์เรื่องของคดีความกันก่อน


ส่วนการดำเนินคดี พ.ต.อ.นิพนธ์ นิธิการุณย์เลิศ ผกก.สน.สามเสน เปิดเผยว่า

เบื้องต้น แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย โดยจะเรียกคนขับรถเมล์เข้ามาสอบปากคำพร้อมแจ้งข้อหา ใน 1-2 วันนี้  


ทั้งนี้ จากการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด และสารเสพติดของคนขับรถเมล์ ไม่พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด หรือมีสารเสพติดในร่างกายของคนขับรถเมล์แต่อย่างใด


ทั้งนี้ทาง ผกก.ยอมรับว่า บริเวณแยกศรีย่านและการจราจรโดยรอบย่านสามเสนนั้น ไม่มีสัญญาณไฟข้ามถนน ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณชุมชนที่มีคนสัญจรข้ามถนนไปมา โดยเฉพาะช่วงเช้าและช่วงเย็น


หลังจากนี้ ได้เตรียมที่จะหารือกับหน่วยงานทางจราจรที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องขอป้ายสัญญาณเตือนข้ามถนน และสัญญาณไฟข้ามถนนบริเวณแยกศรีย่านและโดยรอบ อีกทั้งในเรื่องการจัดระเบียบรถ และการจราจรในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้อีก

-------------

คุณอาจสนใจ

Related News