หนุ่มฉุนลุงขี่จยย.เฉี่ยว รัวหมัดจนล้มก่อนกระทืบซ้ำ อ้างอารมณ์พาไป ขอสู้ในศาล เหตุลุงเรียกเงินแสน

ปัญหาทะเลาะวิวาทจากการขับขี่ จะเห็นเป็นประจำ อย่างกรณีนี้ ก็ต้องเรียกว่าอาการหัวร้อน

วานนี้ (4 ก.ย. 66) เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ v6 ได้โพสต์คลิปวงจรปิด มีชายวัยกลางคน ขับ จยย.มาตามทาง ในซอยเพชรเกษม 54 และมี จยย.ของชายอีกคนสวนทางกัน จากนั้นพบว่า จยย.ของชายวัยกลางคนจอด และชายหนุ่มก็เข้าไปกระชากคอเสื้อ ก่อนจะ  ตบ ต่อย ผลัก ถีบ และกระทืบ

ทีมข่าวลงพื้นที่ สอบถาม นายชราวุฒ อุตะมะ อายุ 49 ปี ชายในคลิป ที่ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อ 6 สิงหาคม เกือบ 1 เดือนแล้ว แต่สภาพร่องรอยบาดแผลยังอยู่

นายชนาวุฒิ บอกว่า วันเกิดเหตุ 6 ส.ค. 66 ขี่รถจะไปซื้อกับข้าว แล้วช่วงจังหวะเลี้ยวออกจากซอยออกมา ก็ขับมาในทางตรง อยู่ในช่องทางของตนเอง  

จากนั้นคู่กรณี ชื่อนายโอ๊ต ก็ขับสวนมา และตะโกนว่า ตนขับรถเฉี่ยว ตนก็จอดรถ และถามเขาว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า แต่นายโอ้ตไม่ฟัง ชี้หน้าเดินเข้ามา กระชากคอเสื้อ ถามมึงเก๋าหรอ แล้วก็ตบ 1 ที ตอนนั้นตนไม่สามารถสู้แรงได้เพราะขาบวม ยืนยังไม่ถนัด จึงยกมือไหว้ แล้วบอกว่าขอโทษครับ แต่ไม่จบ นายโอ๊ตล้วงกระเป๋ากางเกงเหมือนมีอาวุธ แล้วก็ต่อยที่ใบหน้า เข้าโหนกแก้ม ใต้ตา และศีรษะแตก จากนั้น ก็ผลักจนล้มลงกับพื้น

นายโอ้ตยังไม่หยุด เข้ามาเตะที่หน้าซ้ำอีก จนมีชาวบ้านแถวนั้นเห็นเหตุการณ์เข้าและมาช่วย นายโอ๊ตก็บอกว่า “มึงเก่งใช่ไหม สน.ภาษีเจริญ ไม่มีใครกล้าทำอะไรกูหรอก” จากนั้น พลเมืองดีก็นำส่ง รพ.ก็พบว่า หัวแตก โหนกแก้มและใต้ตาแตก ต้องเย็บรวมแล้ว 9 เข็ม  

หลังจากนั้น นายโอ๊ตก็ไม่เคยมารับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ ตำรวจก็ไม่ได้หาหลักฐาน ครอบครัวตนต้องไปหากล้องวงจรปิด จากบ้านชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุเอง

และนายโอ๊ตยังโพสต์ข้อความเชิงข่มขู่ ทำให้ตอนนี้ ครอบครัวกังวลความปลอดภัย เพราะเมื่อวาน ตร.เรียกไปเซ็นเอกสาร แต่ไม่ได้บอกอะไร และไม่พบนายโอ๊ตคนก่อเหตุมาที่ สน.เพื่อเจรจา แต่นายโอ๊ต โพสต์ Facebook และเช็กอิน สน.ภาษีเจริญ ว่า “วันนี้ กูมาหานายที่ สน. พรุ่งนี้จะเก็บกวาดให้หมด ให้มึงอยู่ในซอยนี้ไม่ได้”

ซึ่งการกระทำของนายโอ๊ต ทำตัวเหมือนบ้านป่าเมืองเถื่อน และการโพสต์ข้อความเช่นนั้น เข้าข่ายการข่มขู่ครอบครัวตนหรือไม่ ตอนนี้กังวลใจเป็นอย่างมาก ตนเองไม่กล้าออกไปไหนเพราะกลัว จึงอยากขอความเป็นธรรมกับสังคม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ

-------------

ต่อมา ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านนายโอ๊ต ซึ่งอยู่ละแวกเดียวกัน ถามชาวบ้านในซอยต่างบอกว่า ไม่รู้จักบ้านนายโอ๊ต แต่มีกลุ่มเด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นในชุมชนเดินมาบอกทีมข่าวของเรา และพาไปที่บ้านของนายโอ๊ต

นายโอ๊ด เปิดเผยข้อมูลเป็นหนังคนละม้วนกับฝั่งของคู่กรณี โดยระบุว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเหตุมาจากการเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกัน และมีปากเสียงกัน ตนก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง เมื่อโดนด่าก็ต้องมีอารมณ์โมโห

เมื่อสอบถามว่า คู่กรณีด่าว่าอะไร

นายโอ๊ด บอกว่า คู่กรณีพูดว่า “ขับรถยังไงวะ” แล้วก็มองมาที่ตนก็เหมือนกับหาเรื่อง ผมก็เดินเข้าไปเลย และมีเรื่องชกต่อยกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีช่วงหนึ่งที่คู่กรณียกมือไหว้ขอโทษแล้ว แต่ทำไมยังก่อเหตุทำร้ายร่างกายเขาอย่างต่อเนื่อง

นายโอ๊ด บอกว่า เห็นแล้วว่าเค้ายกมือไหว้ แต่ผมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง มันก็มีอารมณ์ คนเรามันโมโห และเมื่อเห็นว่าล้มแล้วก็ยังตามไปกระทืบซ้ำ ทำไปทุกอย่างเพราะความโมโหมันไปแล้ว

ส่วนเรื่องอาวุธ สนับมือนั้น ยืนยันว่าไม่ได้ใช้อาวุธใดๆ ทั้งสิ้น มีเพียงหมัดที่ต่อยล้วน ๆ และขอยืนยันว่า ไม่ได้เมา ไม่ได้เป็นมาเฟีย ซึ่งการที่คู่กรณีมากล่าวหาว่าเมา ใครก็กล่าวหากันได้

ในส่วนของคดี ตนก็ไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว และขอต่อสู้ในชั้นศาล เนื่องจากคู่กรณีเรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 100,000 บาท ซึ่งตนมองว่ามากเกินไป

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Tg6oJpVitRY