สุดทน! ชาวบ้านนับร้อยชีวิตร้อง ถนนผุพังนานนับ 10 ปี วอนหน่วยงานช่วยเหลือ

วันที่ 26 ก.ค. เวลา 07.00 น. ชาวบ้านบ้านหนองเข็ง ม.3 บ้านโคกสะอาด ม.4 บ้านหนองแสง ม.8 ต.หอคำ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ นับ 100 คน รวมตัวกันบริเวณศาลาเอนกประสงค์บ้านหนองเข็ง ก่อนจะพาผู้สื่อข่าวไปดูถนนที่เชื่อมต่อระหว่างบ้านโคกสะอาด-บ้านหนองเข็ง ที่อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลหอคำ ระยะทางกว่า 3.5 กิโลเมตร ที่ประสบปัญหาเป็นหลุม เป็นบ่อ ผุพัง สร้างความเดือนร้อนให้กับชาวบ้านที่ใช้เส้นทางเส้นนี้ในการสัญจรไป-มา นานนับ 10 ปี จนชาวบ้านเหลืออดเหลือทนรวมตัวกันออกมาชูป้าย เรียกร้องถึงผู้ว่าฯ ช่วยด้วย เราอยากได้ถนนใหม่ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการแก้ไข ปรับปรุง เป็นการเร่งด่วน

สำหรับถนนสายบ้านโคกสะอาด-บ้านหนองเข็ง เป็นถนนเส้นทางหลักที่ใช้สัญจรไป-มา และเป็นถนนสายสำคัญที่ชาวบ้านกว่า 7 หมู่บ้านใช้ทำมาหากิน และเดินทางไปติดต่อราชการ หรือไปรักษาพยาบาล ตลอดจนเป็นเส้นทางท่องเที่ยวสายมู ที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมทัศนียภาพที่สวยงามริมแม่น้ำโขง ชมภูเขาควาย วิวทิวทัศน์ 2 ฝั่งโขง ไทย-ลาว และในช่วงประเพณีบุญออกพรรษา ที่มีนักท่องเที่ยวมาชมการไหลเรือไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจังหวัดบึงกาฬ และกปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคในพื้นที่ริมแม่น้ำโขงบ้านหนองเข็งแห่งนี้

โดยตัวแทนจากชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้าน ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ขอเรียกร้อง ร้องทุกข์ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ตอนนี้ชาวบ้าน 3 หมู่บ้าน คือบ้านหนองเข็ง บ้านหนองแสง และบ้านโคกสะอาด ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากในการสัญจรไป-มา ลำบากมากๆ เนื่องจากเส้นทางนี้เป็นถนนสายหลักที่จะเข้าสู่ตัวเมืองอำเภอปากคาด และอำเภอเมืองบึงกาฬเป็นเส้นทางที่ชาวบ้านใช้สัญจร ขนส่งสินค้าทางการเกษตร ซึ่งเป็นท่อน้ำเลี้ยงของชาวบ้าน เป็นเส้นทางในการเดินทางไปโรงเรียนของเด็กๆและเยาวชน เป็นเส้นทางที่จะพาผู้ป่วยที่มีทั้งเด็ก คนแก่ และคนชรา ที่จะต้องเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ที่อยู่ใกล้เพียง 1-2 กิโลเมตร แต่ต้องใช้เวลานานกว่า 20-30 นาที ที่จะต้องคอยหลบหลุม หลบถนนที่มีแต่หลุมแต่บ่อ หน้าแล้งฝุ่นกระจายทำให้มีปัญหากับระบบทางเดินหายใจ หน้าฝนถนนเป็นหลุมเป็นบ่อตลอดเส้นทางกว่า 3.5 กิโลเมตร ชาวบ้านใน 3 หมู่บ้านได้รับความเดือดร้อนมาเป็นเวลา 6-7 ปีแล้ว ที่ผ่านมาเคยเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือเท่าที่ควร จึงขอร้องเรียนผ่านสื่อ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้นำ ผู้มีอำนาจ ให้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้เร่งด่วนด้วย

ด้านนายอัมพร ชัยเสนา นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหอคำ เจ้าของพื้นที่ที่รับผิดชอบ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนตัวเองเข้ามารับตำแหน่ง ปัญหาถนนเส้นทางสายดังกล่าว มีปัญหาหมักหมมมานาน 7-8 ปีเห็นจะได้ ซึ่งเกิดจากในช่วงมีการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพังบริเวณริมแม่น้ำโขง เขตตำบลหอคำ อ.เมืองบึงกาฬ และเขตตำบลนากั้ง อ.ปากคาด ที่มีทั้งรถบรรทุกหิน บรรทุกทราย วิ่งผ่านใช้เส้นทางนี้ในการขนสิ่งของไปก่อสร้าง เทศบาลตำบลหอคำ มีงบประมาณในการก่อสร้างโครงการพื้นฐานปีละ 6-7 ล้านบาท

ซึ่งต้องดูความเดือนร้อนของชาวบ้านใน 14 หมู่บ้าน ที่อยู่ในความรับผิดชอบอย่างเท่าเทียม อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาเทศบาลตำบลหอคำ ก็จัดสรรงบประมาณในปี 2563 ลงไปปรับปรุงถนนสายนี้แล้วกว่า 9 แสนบาท และก็ปี 64-65 รวมๆแล้วก็ 2 ล้านบาท และในปีนี้เทศบาลได้ของบประมาณจากเงินเหลือจ่ายมาจำนวน 3 ล้านกว่าบาท เพราะถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางสายหลักและมีปัญหาจริงๆ เทศบาลก็ให้ความสำคัญ จึงนำงบที่ได้มาลงทำถนนเส้นนี้ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ได้มีการจัดซื้อ จัดจ้าง เรียบร้อยแล้ว รอแต่ผู้รับเหมามาลงสัญญาจ้างและเริ่มทำถนนใหม่ ในระยะทาง 892 เมตร กว้าง 6 เมตร ซึ่งคาดว่าจะเข้าดำเนินการก่อสร้างภายในกลางเดือนสิงหาคมนี้ และมีกำหนดแล้วเสร็จภายใน 90 วัน

นอกจากนี้ทางเทศบาลก็ยังได้ขอสนับสนุนงบประมาณจากทางจังหวัดบึงกาฬ โดยผ่านท่านนายอำเภอเมืองบึงกาฬ ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ก็ให้ความสำคัญกับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน อยู่ในระหว่างการพิจารณา

และอีกส่วนหนึ่งก็ของบสนับสนุนไปที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งล่าสุดนายช่างของ อบจ.ก็ออกมาดู มาสำรวจแล้ว ก็น่าจะได้งบประมาณมาปรับปรุงก่อสร้างใหม่ในปี 2567 นี้ ประมาณ 7 ล้านบาท พร้อมขยายสะพานทั้ง 2 แห่ง ที่อยู่ในเส้นสายนี้ด้วย ก็ขอเรียนกับพี่น้องประชาชนที่ใช้ถนนเส้นนี้ในการสัญจรไป-มา ทางเทศบาลเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามที่สุดที่จะหางบประมาณมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ท่ามกลางงบประมาณที่มีจำกัดของเทศบาล