สังคม

พ่อเชื่อ 'หมอมีน' ไม่ชำนาญเส้นทาง แต่วอน รพ.จัดเวรให้เหมาะสม ด้าน 'ทางหลวง' ลงพื้นที่ เตรียมล้อมคอก

โดย nattachat_c

26 มิ.ย. 2566

111 views

วงการแพทย์สูญเสีย เพื่อนฝูงทำใจไม่ทันหลัง "หมอมีน" แพทย์จบใหม่ 2566 เพิ่งเริ่มงานได้ 23 วัน ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตหลังออกเวร ด้านหมออินทพร พบจุดเกิดเหตุ มีอุบัติเหตุประจำขอท้องถิ่นเร่งแก้ก่อนแนะ แพทยสภาออกเป็นกม. จำกัดเวลาทำงาน ไม่เกินสัปดาห์ละ 40 ชม. ส่วนพ่อหมอมีน ยันไม่รู้ลูกเข้าเวรสี่กะ วอนจัดตารางเวรของแพทย์ให้เหมาะสม

ขณะที่ผู้กำกับ สภ.หนองปรือ เผย “หมอมีน” ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เกิดจากความประมาท ขับรถลงเนินเสียหลักกินเลนเข้ามาทางขวา ทำให้เกิดเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งสวนทาง


จากกรณี 'หมอมีน' พญ.ญาณิศา สืบเชียง คุณหมออินเทิร์น (แพทย์จบใหม่ใช้ทุน) ขับรถประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต หลังจากออกเวร โดยหมอมีนเพิ่งเริ่มปฏิบัติงานในตำแหน่ง 'แพทย์เพิ่มพูนทักษะ' รพ.พหลฯ กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งหมอมีนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อช่วงเย็น วันที่ 23 มิ.ย. 66 ก่อนจะเสียชีวิตลง เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา


วานนี้ (24 มิ.ย. 66) พล.อ.ต.นพ. อิทธพร คณะเจริญ หรือหมอจ๊วด โพสต์เฟซบุ๊ก อาลัยน้องหมอมีน ที่เสียชีวิตหลังประสบอุบัติเหตุ โดยระบุข้อความว่า


ขอแสดงความเสียใจ กับครอบครัวของคุณหมอ Yanisa Mean ในการจากไปของน้องหมอมีน แพทย์จบใหม่ 2566 เพิ่งเริ่มปฏิบัติงานในตำแหน่ง แพทย์เพิ่มพูนทักษะ รพ.พหลฯกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หลังจากออกเวร ขอบคุณทีมพี่ๆ โรงพยาบาลพหลพลพยุหะเสนาที่ พยายามช่วยเหลือน้องอย่างสุดความสามารถ หลังได้รับการส่งตัวเข้าโรงพยาบาล


แพทย์สภาจะขอประสานข้อมูลว่า เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานอย่างไรหรือไม่ เพื่อเป็นแนวทางที่อาจช่วยป้องกันได้ในอนาคต แต่เบื้องต้นทราบว่า เกิดเหตุที่แยกที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ มอตาเขียว และเกิดในช่วงเย็น อยากให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยสำรวจพื้นที่ถนนและการจราจรด้วยครับ


การสูญเสียครั้งนี้ นับเป็นการสูญเสียทรัพยากรที่สำคัญ ขอหมอที่ลงเวร ถ้าง่วงอย่าขับ งีบก่อน ส่วนสถานที่เกิดอุบัติเหตุพบบ่อย ขอให้ทางหลวงเร่งแก้ไข


คุณหมอมีนอยู่ในโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท ของจังหวัดราชบุรี กว่าจะเป็นหมอ 1 คน ต้องทุ่มเทเรียนเป็นเวลา 6 ปี นับเป็นการสูญเสียบุคลากรที่มีคุณค่าของประเทศอย่างยิ่ง ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวอีกครั้งครับ


ขออนุญาตลงกำหนดการ งานศพพระอภิธรรมของน้องครับ. กำหนดการอภิธรรมศพ พญ.ญาณิศา สืบเชียง (หมอมีน) สวดอภิธรรมศพ ณ.วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้ศาลา 1) วันที่ 24 มิ.ย.66 รดน้ำศพ เวลา 16.00 น. // วันที่ 24-28 มิ.ย.66 สวดอภิธรรมศพ เวลา 19.30 น. // ฌาปนกิจศพ วันพฤหัสบดี 29 มิ.ย.2566 เวลา 16.00 น.


หมออิทธพร เลขาธิการแพทย์สภา

-------------
ต่อมา พล.อ.ต.นพ. อิทธพร โพสต์ขอความอีกครั้ง ระบุว่า "ขอท้องถิ่นช่วยแก้ไข อย่ารอให้เกิดครั้งต่อไป" ถนนที่เกิดอุบัติเหตุของน้องมีน มีผู้รายงานมา ว่าเป็นจุดเกิดอุบัติเหตุประจำ เป็นช่วงลงเนินแล้วเลี้ยวหักศอก แถวมอตาเขียว


"ขออนุญาตเพิ่มเติมครับ.. ผม เป็น GP ที่อยู่ รพ. บริเวณนั้นครับ ตรงบริเวณที่เกิดเหตุ มักมีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นทางขึ้นเนิน แล้วเบี่ยงออกครับ ทำให้ถ้าคนไม่ชินทางจะเกิดอุบัติเหตุได้ครับ ในอดีตเคยมีทั้งตกเหว แหกโค้ง และเนินใกล้ๆ กัน ก็เคยมีอุบัติเหตุหมู่ครับ"


รายงานในท้องถิ่นว่าครั้งนี้เป็นการชนแบบมหกรรม รถคุณหมอ 1 และปิคอัพอีก 2 คัน มอเตอร์ไซค์อีก 1 รวมเป็น 4 คัน และมี comment ว่า ที่เก่าเวลาเดิม


อยากขอให้ท้องถิ่น หรือทางหลวงที่รับผิดชอบ โปรดช่วยพิจารณาปรับปรุงแก้ไข ป้องกันต่อไปด้วยครับ ก่อนจะต้องเป็นภาระ หมอห้องฉุกเฉิน และเป็นความสูญเสียของครอบครัวอื่นๆต่อไป


ขอฝากช่วยส่งข้อมูลถึงผู้รับผิดชอบ ในกาญจนบุรี เพื่อแก้ไขด้วยครับ #สูญเสียหนึ่งชีวิตแล้วอย่าให้มากกว่านี้เลยครับ

--------------
นายแพทย์รักษ์พงศ์ เวียงเจริญ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ได้อธิบายถึงเรื่องหมอมีนว่า มี 2 กรณี คือ


1. การทำงานของแพทย์จบใหม่ (หมออินเทิร์น)

โรงพยาบาลพหลฯ เป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัด โดยปกติจะเป็นโรงพยาบาลที่แพทย์จบใหม่จะมาฝึกทักษะ ซึ่งตามศุกยภาพของโรงพยาบาลรับได้ 30 คน แต่ปีนี้ได้รับการจัดสรรจากกระทรวงมา 14 คน ทางโรงพยาบาลจึงได้จ้างแพทย์จบใหม่จากมหาวิทยาลัยเอกชนเพิ่มอีก 7 คน รวมเป็น 21 คน ก็เป็นแนวทางที่โรงพยาลาลได้ปรับตัว เพื่อที่แพทย์จะได้ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป 


คุณหมอมีน อยู่แผนกศัลยกรรม มีแพทย์ที่มาฝึกทักษะรวม 4 คน อยู่ประมาณ 3-4 เวร ทุกๆ 3-4 วัน และมีเวรฉุกเฉินประมาณ 3-4 เวรต่อเดือน ตกประมาณเดือนละ 1 วัน 


ทั้งนี้ นายแพทย์รักษ์พงศ์ ได้อธิบายเพิ่มเติมของลักษณะการเข้าเวรของหมออินเทิร์น ว่า


เข้าเวรห้องฉุกเฉิน 

เข้าเวรกะละ 8 ชั่วโมง คือ เที่ยงคืนถึงแปดโมงเช้า แปดโมงเช้าถึงสี่โมงเย็น และ สี่โมงเย็นถึงเที่ยงคืน 


เวรขึ้นวอร์ด

จะลากเวรยาว 16 ชั่วโมง


เข้าเวร OPD (เคสไม่เร่งด่วน คลินิกพิเศษ เคสนอกเวลา)

จะเข้าเวร 4 ชั่วโมง คือ สี่โมงครึ่งถึงสองทุ่มครึ่ง เป็นต้น


ซึ่งการทำงานจะทำงานร่วมกับสตาฟฟ์และแพทย์ประจำบ้าน ที่จะมาคอยดูคนไข้ และก็เซ็ตติ้งการผ่าตัดต่างๆ 


2. กรณีหมอมีนอยู่อุบัติเหตุ

คุณหมอมีนอยู่แผนกศัลยกรรม ได้อยู่เวรในคืนวันที่ 21 คือคืนก่อนหน้า แต่ว่าเมื่อได้ตรวจสอบแล้ว ในคืนนั้นก็มีผู้ป่วยไม่มากนัก มีผู้ป่วยรับใหม่ 3 คน ประมาณเที่ยงคืนก็ได้รายงานแพทย์สตาฟฟ์ หรือแพทย์ฉุกเฉิน เราไม่ได้เข้าผ่าตัดเอง ก็อันนั้นเป็นงานในคืนนั้น


และวันรุ่งขึ้นน้องมาทำงานที่วอร์ดอุบัติเหตุ ซึ่งมีคนไข้อยู่ประมาณ 15 คน มาทำงานอยู่กับสตาฟฟ์และแพทย์ประจำบ้านที่จะมาคอยดูคนไข้และก็เซ็ตติ้งผ่าตัดอะไรต่างๆ


และการเกิดเหตุของคุณหมอ ก็คือเกิดจากหลังเลิกงานในวันนั้น ซึ่งเป็นภารกิจส่วนตัว เข้าใจว่าไปพบเพื่อนร่วมงานอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ก็อาจไปเกิดอุบัติเหตุในต่างอำเภอ และก็มีการบาดเจ็บหลายแห่ง ก็ได้ส่งตัวเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลพหลฯ


เกิดเหตุประมาณเย็นๆ ก็ได้มีการช่วยเหลือเบื้องต้นที่โรงพยาบาลนั้น และก็ต้องแวะรักษาเพิ่มเติมในการให้เลือดที่โรงพยาบาลระหว่างทาง และก็มาถึงโรงพยาบาลพหลฯ ประมาณ 3 ทุ่ม และก็เข้าผ่าตัดประมาณ 4 ทุ่ม และคุณหมอก็เสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น


ได้มีการบาดเจ็บหลายอวัยวะ ทางทีมแพทย์ซึ่งเป็นอาจารย์ของน้องเองก็เข้าร่วมผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นคุณหมอศัลยกรรม คุณหมอกระดูก คุณหมอประสาท ก็ได้ช่วยกันดูแลจนสุดความสามารถ หลังผ่าตัดก็มีอาการหนักอยู่ และเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้นประมาณเที่ยง


ทางโรงพยาบาลก็แสดงความเสียใจอย่างยิ่ง ในการดูแลหลังจากนี้ เราก็ได้ทบทวนงานทั้งหมด เพื่อจะนำไปปรับปรุงดูแลแพทย์ที่อยู่ในความดูแลของเรา 


ทั้งนี้ ถือเป็นการสูญเสียระดับชาติ เพราะหมอมีนเพิ่งจบมาได้ไม่ถึงเดือน และเป็นแพทย์โครงการหนึ่งแพทย์หนึ่งอำเภอของเมืองกาญจนบุรีแท้ๆ 

-------------

เช้าวานนี้ (25 มิ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวไปที่วัดชัยชุมพลชนะสงคราม ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพคุณหมอมีน และได้พูดคุยกับ นายนิธาน สืบเชียง อายุ 51 ปี พ่อของหมอมีน


คุณพ่อ ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ พร้อมเล่าเหตุการณ์ ก่อนที่ลูกสาวจะประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ว่า หมอมีนเป็นนักเรียนทุนของมหาวิทยาลัยมหิดล และเป็นแพทย์อินเทิร์นปี 1 ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา


หลังจากปฏิบัติหน้าที่เข้าเวร ในวันศุกร์ที่ 23 มิ.ย. เสร็จเรียบร้อย ในเวลา 16.00 น. หมอมีนได้ขับรถออกจากโรงพยาบาล มุ่งหน้าไปยังพื้นที่อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี เพื่อจะไปดูสถานที่ โรงพยาบาลสถานพระบารมี และ โรงพยาบาลหนองปรือ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล อยู่ห่างจากตัวจังหวัดกาญจนบุรีกว่า 100 กิโลเมตร


เนื่องจาก หมอมีนมีความตั้งใจจะไปปฏิบัติหน้าที่เป็นแพทย์อินเทิร์น ปี 2 ที่โรงพยาบาล 1 ใน 2 แห่งนี้ หลังจากออกเวรจึงขับรถไปดูสถานที่ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ว่าจะเลือกอยู่โรงพยาบาลใด ก่อนจะประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา


พ่อหมอมีน เผยว่า ลูกสาวเป็นคนตั้งใจทำงาน บางครั้งก็เข้าเวรติดต่อกันจนไม่ได้กลับบ้าน ส่วนวันเกิดเหตุ ไม่รู้ว่าหมอมีน เข้าเวรติดต่อกันหลายกะหรือไม่ รู้เพียงว่า ลูกสาวมีความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลพื้นที่ห่างไกล เพื่อช่วยเหลือประชาชน ให้สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดีขึ้น


ส่วนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับลูกสาวนั้น ส่วนตัวเชื่อว่า น่าจะมาจากเรื่องไม่ชำนาญเส้นทางมากกว่าความอ่อนเพลียของร่างกายที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่


แต่...อยากฝากไปถึงผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงโรงพยาบาล ให้ดูแลจัดตารางเวรการปฏิบัติงานของหมอทุกคน ให้มีความเหมาะสม ไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ติดต่อกันจนร่างกายเกิดอาการเหนื่อยล้าอ่อนเพลียจนรับไม่ไหว
-------------

ตามวันเวลาเกิดเหตุ น.ส.ญาณิศา แพทย์ รพ.โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาฯ ขับรถเก๋ง มาตามถนนสายบ้านหนองผักแว่น-บ้านสมเด็จเจริญ มุ่งหน้าไปบ้านสมเด็จเจริญ เพื่อไปหาเพื่อนที่เป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลพยาบาลสถานพระบารมี ต.สมเด็จเจริญ อ.หนองปรือ


ขณะมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางขึ้นเนินเขา ขณะลงจากเนินเขา รถได้เสียหลักข้ามเลนไปยังช่องทางจราจรด้านขวา เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนกับรถกระบะ ที่มี น.ส.รัชนีพร คำปาน เป็นผู้ขับขี่ ซึ่งวิ่งสวนทางมา และมีรถกระบะ ที่มีนายภาคภูมิ ธารีไทย เป็นผู้ขับขี่ ที่วิ่งตามกันมา ได้เฉี่ยวชนด้านท้าย และเฉี่ยวชนจักรยานยนต์ มีนายพีระวัฒน์ รุจอสิทธิยานนท์ เป็นผู้ขี่ อยู่ในช่องทางเดินรถด้านซ้าย ได้รับความเสียหาย


น.ส.ญาณิศา น.ส.รัชนีพร และนายพีระวัฒน์ ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่งโรงพยาบาลพยาบาลสถานพระบารมี และต่อมาวันที่ 23 มิ.ย.66 น.ส.ญาณิศา ได้เสียชีวิตที่ โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาฯ ส่วน น.ส.รัชนีพร และนายพีระวัฒน์ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย


ส่วนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ เกิดจากความประมาทของ น.ส.ญาณิศา รวมทั้งไม่ชินเส้นทาง ประกอบกับเส้นทางเป็นทางลงเนินเขา เมื่อรถวิ่งขึ้นด้วยความเร็วแล้วลงเนินเขา เป็นทางโค้งเล็กน้อย จึงทำให้รถเสียการทรงตัว และล้ำเข้าไปในช่องทางเดินรถทางขวา จึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ส่วนการสอบสวนดำเนินคดี ทางพนักงานสอบสวนจะได้ทำการสอบสวนในรายละเอียดต่อไป

------------
วานนี้ (25 มิ.ย. 66) นายวรรณเฉลิม จันทร์เมือง หัวหน้าหมวดทางหลวงบ่อพลอย ได้ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ เพื่อหาแนวทางในการปรับปรุงติดป้ายบอกเส้นทางให้มากกว่าเดิม และจะได้ดำเนินการจัดหางบประมาณ ติดตั้งไฟกะพริบเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทราบ


เนื่องจากประชาชนในพื้นที่จะทราบเส้นทางดี แต่หากคนนอกพื้นที่ โดยเฉพาะถนนเส้นนี้มีจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ กว่า 10 แห่ง อาจจะไม่ชำนาญเส้นทาง ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ โดยจะเร่งดำเนินการนำป้ายมาติดตั้งเพิ่ม เป็นการเร่งด่วนต่อไป

------------

ด้าน หมออั้ม อิราวัต อารีกิจ โพสต์ข้อความระบุว่า


“แพทย์เวรเช้า 08:00-16:00 น. เวรบ่าย 16:00-24:00 น. เวรดึก 00:00-08:00 น. (โดยประมาณ)


มีข่าวว่า น้องหมอจบใหม่ที่เสียชีวิต อยู่เวรเช้า-บ่าย-ดึก และ ต่ออีกเช้าเข้าใจความรู้สึกเลย ในฐานะที่เคยอยู่เวร เช้า-บ่าย-ดึก-เช้า-บ่าย-ดึก เช้า-บ่าย-ดึก รวม 72 ชั่วโมงเต็มๆ แบบได้หลับๆตื่นๆ ครั้งละ 15-20 นาที


เคยรับเคสพร้อมๆกัน 17 เคส ยืนงงหน้าดงชาร์จเหล็ก ที่กองตรงหน้า ว่าจะเลือกรักษาเคสไหนก่อนดี แพทย์รุ่นนี้ ไม่ควรได้เจออะไรแบบนี้ ขอให้น้องหมอ สู่สุคติครับ.”

------------
พล.อ.ท.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “Ittaporn Kanacharoen” ระบุว่า


การที่อยู่เวรยาวนาน ของแพทย์จะส่งผลให้เกิดความผิดพลาดได้ง่ายเพราะ Human error


แพทยสภาจึงจำกัดเวลาการทำงานนอกเวลาของแพทย์เริ่มที่แพทย์เพิ่มพูนทักษะ ที่อยู่ในการดูแลของแพทยสภา ไม่ให้เกินสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง และเป็นข้อแนะนำสำหรับทุกสังกัดหน่วยงาน ที่ควรจำกัดเช่นกันหากยังเกินอยู่ และควรพัฒนาเป็นกฎหมายในอนาคต ทั้งนี้ สถานพยาบาลนั้น จะต้องรีบบรรจุให้มีแพทย์เพียงพอ ในการสลับเวร เพื่อดูแลประชาชนเสียก่อน


ขอขอบคุณทาง สธ. และ ภาครัฐที่ให้ความสำคัญ ขึ้นมาแก้ไขปัญหานี้ร่วมกันในการ ผลิต และหาตำแหน่งบรรจุให้กับแพทย์ ในการดูแลผู้ป่วย หวังว่าระบบจะดีขึ้นเรื่อยๆ และเข้าสู่มาตรฐาน ที่ควรจะเป็นโดยเร็วครับ

------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/E4yfRqd5Llo

คุณอาจสนใจ

Related News