วิศวกรวัย 47 ร้องเพจสายไหมถูกสาวหลอก สูญเงินกว่า 3 ล้านบาท

หนุ่มวิศวกร วัย 47 ปี ร้องสายไหมต้องรอด ถูกสาวหลอกให้รักมา 3 ปี โอนเงินให้ 3 ล้าน สุดท้ายโป๊ะแตก สาวมีครอบครัวแล้ว

โดยผู้เสียหายเล่าว่าเมื่อช่วงตุลาคม ปี 63 ไปเจอหญิงสาวรายหนึ่ง ชื่อ จีจี้ ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง โดยผู้หญิงอ้างว่า ชอบพอถูกชะตาจึงคุยกันเรื่อยมา และบอกว่ายังไม่มีใคร ต่อมาเริ่มคุยกันฝ่ายหญิงอ้างว่า แม่ป่วยเป็นมะเร็งมีความจำเป็นต้องหาเงินรักษาแม่ ฝ่ายชายจึงโอนเงินไปช่วยต่อเนื่องทุกครั้ง ประมาณ 50,000-100,000 บาท โดยฝ่ายหญิงบอกว่า ให้ถือเป็นค่าสินสอดเพราะคบกัน ซึ่งในระหว่างที่คุยกัน ฝ่ายชายขอเจอครอบครัวแต่ฝ่ายหญิงก็บ่ายเบี่ยงตลอด อ้างว่าไม่สะดวกต้องดูแลแม่ป่วย จนเดือนเมษายน ปี 64 ฝ่ายหญิงอ้างว่าต้องใช้เงินเพื่อผ่าตัดแม่ ซึ่งขณะนั่นฝ่ายชายบอกว่าเงินเก็บที่มีหมดแล้ว อาจจะไม่สามารถโอนให้ได้ ฝ่ายหญิงจึงเริ่มขออยู่คนเดียว และขอห่าง ซึ่งฝ่ายชายพยายามติดต่อ ฝ่ายหญิง จนเดือนพฤษภาคม 2564 ฝ่ายหญิงบอกว่าเธอป่วยเป็นมะเร็ง และขาดการติดต่อไป

จนกระทั่ง เดือน ตุลาคม 64 มีบุคคลอ้างว่าเป็นแม่ของฝ่ายหญิง ติดต่อมาหาฝ่ายชายผ่านทางไลน์และบอกว่าลูกสาวตายแล้ว



แต่ผ่านไปอีกสักพัก ก็มีผู้หญิงอ้างว่าเป็นพี่สาวฝาแฝดของฝ่ายหญิง ติดต่อมาเมื่อเดือน มีนาคม 2565 หญิงที่อ้างเป็นพี่สาวบอกว่าน้องสาวยังไม่ตาย แต่ถูกจับอยู่ที่มาเลเซียต้องจำเป็นต้องใช้เงินประกันตัว จำนวน 130,000 บาท เมื่อได้ประกันตัวกลับมาก็อ้างว่าตักกักตัวจากตามมาตรการป่องกันโควิด -19 จึงไม่สามารถให้เจอตัวได้ และมีการขอให้โอนเงินเรื่อยมีอ้างเพื่อจัดการเรื่องคดีความ และมีการขอให้ช่วยเหลือทางการเงินต่อเนื่องหลายครั้ง เพราะอ้างว่ามีตอนนี้ตนเองป่วยเป็นมะเร็ง และมีปัญหาสุขภาพ



จนกระทั่ง ฝ่ายชายขอนัดพบเจอ แต่ก็ยังบ่ายเบี่ยง จึงทำให้ฝ่ายชายเกิดข้อสงสัยว่ารักกันหรือไม่ หรือมาหลอกกัน และเมื่อไปค้นหาข้อมูลในไอจีและโซเชียลก็พบว่า ฝ่ายหญิงใช้ชีวิตกิน เที่ยวหรู และเจอว่า ฝ่ายหญิงมีครอบครัวแล้ว เพิ่งซื้อบ้านหลังใหม่ ในพื้นที่เขตสายไหม เปิดร้านขายอาหาร และซื้อรถคันใหม่ ฝ่ายชายพยามติดต่อไปจนถึงตอนนี้แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงต้องเข้าร้องทางเพจสายไหมค่องรอดให้ช่วยเหลือ เพื่อไม่ให้ หญิงรายนี้ไปกระทำพฤติกรรมเช่นนี้กับบุคคลอื่นอีก



ทั้งนี้ หนุ่มวิศวกร รายนี้บอกว่า ตั้งแต่ติดต่อกันมา ได้เจอกันตลอด 3 ปี เคยเจอฝ่ายหญิง แค่ 3 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งได้เจอที่สถานบันเทิงที่ไปเที่ยว ไม่เคยเจอคนอื่นๆเช่นครอบครัวของฝ่ายหญิงเลย

จากเรื่องนี่ฝ่ายชายต้องสูญเงินกว่า 3 ล้านบาทจากเงินเก็บ กว่า 1 ล้าน และหนี้สินจากเงินกู้อีก 2 ล้านบาทที่ไปกู้ธนาคารมา เพื่อช่วยเหลือฝ่ายหญิง ซึ่งทุกวันนี้ตนต้องจ่ายหนี้บัตรเครดิตเดือนละกว่า 1 แสนบาท



และเมื่อรู้ว่าตนถูกหลอก เรื่องราวนี้ ถือว่าเป็นบทเรียนของตัวเองที่หลงไว้ใจ คนอื่นๆ และต้องการให้ผู้หญิงที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ต้องรับผิดชอบ เพราะตั้งใจมาหลอกตนตั้งแต่แรก



ด้าน นาย เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุ ลักษณะนี้ถือเป็นการฉ้อโกง เพราะฝ่ายหญิงตั้งใจหลอกโดยมีการสร้างเรื่องต่างๆมาหลอกให้ฝ่ายชายเชื่อแล้วโอนเงินช่วยเหลือ ซึ่งหลังจากนี้ จะดำเนินคดี โดยผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความแจ้งความแล้วเมื่อ 11 มิถุนายน ที่ สภ.บางปะกง จ. ฉะเชิงเทรา


ทั้งนี้ขอแนะนำและเตือนผู้ชายหลายๆคน ให้ระวัง อย่าหลงเชื่อหรือไว้ใจ ผู้หญิงที่พบในสถานบันเทิง หากจะคบกันต้องขอไปพบคนในครอบครัว ไปที่บ้าน เพื่อไม่ไห้ถูกหลอกลักษณะนี้อีก