สังคม

สำนักพุทธฯ ยันเป็นกลางทางการเมือง 'รอง ผอ.' พูดทัศนะส่วนตัว - 'วิโรจน์' จี้ขอหลักฐานที่บอกไม่หนุนศาสนา

โดย nattachat_c

16 มิ.ย. 2566

317 views

จากรณี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ขณะ นางกณิกนันต์ ล้อสีทอง รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ บรรยายในงาน “เป็นอยู่คืออย่างเรียบง่าย ในโลกที่ซับซ้อน” เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.66 ที่ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร


ช่วงหนึ่งนางกณิกนันต์ ได้บรรยายว่า ตนเองได้ถามลูกถึงนโยบายของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งลูกของนางกณิกนันต์ ก็ได้อธิบายนโยบายที่มุ่งสร้างความเท่าเทียมของพรรคการเมืองนั้น ให้นางกณิกนันต์ ฟัง แต่นางกณิกนันต์ถามลูกว่า "ยังรักแม่อยู่ไหม" ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ "การสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม"


นางกณิกนันต์ ยังบรรยายพูดต่อหน้าพระสงฆ์ด้วยว่า "พรรคการเมืองหนึ่งที่ได้คะแนนเยอะๆ ดูเหมือนจะมีนโยบายที่ไม่อุดหนุนองค์กรทางศาสนา ถ้าสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ถูกตัดงบประมาณ พระคุณเจ้าก็อย่าว่านะคะ"


โดยนายวิโรจน์ บอกว่า นางกณิกนันต์ กำลังเอาอคติส่วนตัวมาพูดความเท็จใส่ร้ายพรรคการเมืองนั้นต่อหน้าพระสงฆ์หรือไม่ และเอาหลักฐานไหนมาบอกว่านโยบายของพรรคนั้น ได้บอกถึงในเรื่องที่ปราศรัย

-----------

วานนี้ (15 มิ.ย. 66) ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถามไปยัง นายอินทพร จั่นเอี่ยม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยว่า ตนเองทราบเรื่องที่เกิดขึ้นจากข่าว ยังไม่ได้คุยกับนางกณิกนันต์ อย่างเป็นทางการ โดยส่วนที่พูดไปนั้นเป็นความเห็นส่วนตัว


ทางสำนักพุทธฯ น้อมรับทุกความเห็น เพื่อนำมาชี้แจงทำความเข้าใจกับบุคลากรในสำนักงานฯ ให้ระมัดระวังในคำพูดเพราะสุ่มเสี่ยง เป็นข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมืองอยู่แล้ว ตอนนี้นางกณิกนันต์ กำลังทำเรื่องชี้แจงผู้บังคับบัญชา ส่วนการพูดคุยต้องพูดคุยกันแน่ ซึ่งนางกณิกนันต์ ก็ยังไม่ได้โทรมาชี้แจง


นายอินทพร ยังเปิดเผยอีกว่า การบรรยายในงานดังกล่าว มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่าน ก็ไม่ได้พูดถึงภาระหน้าที่ของสำนักพุทธฯ เท่าไหร่ เป็นเวทีเชิงวิชาการ


สิ่งที่ นางกณิกนันต์ แสดงไปเป็นทัศนะส่วนบุคคล ซึ่งก็ต้องว่ากันไป


ในส่วนของสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เมื่อมีผลกระทบ อาจจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบกำลังพิจารณา ซึ่งขณะนี้ ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรวบรวมคำพูด นางกณิกนันต์ ตามที่มีการกล่าวหา หากเกี่ยวข้องกับวินัยราชการ ก็ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน


เบื้องต้น ตนเองยังไม่ได้ฟังคลิปวิดีโอทั้งหมด ฟังแค่ช่วงสั้น ๆ เป็นบางตอน มองว่าเป็นความเห็นส่วนบุคคล ส่วนอคติหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณา “สำนักพุทธฯ ไม่ได้ ตัดความรับผิดชอบทั้งหมด เราก็น้อมรับ ในสิ่งที่เป็นความเห็นของสังคม ทั้งนี้จะทำความเข้าใจข้าราชการในสังกัดให้พึงรังะมัดระวัง เราเป็นข้าราชการ มีจริยธรรมของข้าราชการพลเรือนกำกับอยู่”


ต่อมา นายอินทพร ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมภายหลังถึงเรื่องนี้ว่า

ได้พูดคุยสั้นๆ กับนางกณิกนันต์ แล้ว ยอมรับว่าไม่ได้เจตนา แสดงความเห็นพาดพิง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และตอนนี้ นางกณิกนันต์ ก็เครียด ย้ำ สำนักพุทธฯ เป็นองค์กรมีความเป็นกลาง พร้อมทำตามนโยบายรัฐบาลไม่ว่าพรรคการเมืองไหน

-----------

‘แพรรี่ ไพรวัลย์’ โพสต์เฟซบุ๊กว่า

“ก่อนจะไปว่าร้ายให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ดิฉันรบกวน ท่านรอง ผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ช่วยเป็นธุระสนองงานคณะสงฆ์ เพื่อจัดการกับพฤติกรรมของพระบางแก๊งด้วยค่ะ ทั้งอวดอุตริมนุษยธรรม ทั้งกล่าวตู่พระพุทธเจ้าและพระธรรมวินัย นี่แท็กไป 2 ครั้ง แล้วนะคะ เดี๋ยวจะไปยืนหนังสือด้วยตัวเองเร็วๆ นี้ ช่วยทำงานด้วยนะคะ เรื่องนี้สำคัญกับพระศาสนามากกว่าอีก” แล้วก็แท็กสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

-----------

จตุรงค์ จงอาษา (นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา) ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ Jaturong Mantaso Jongarsa (Gough)


รองผอ.สำนักพุทธฯเอาอะไรไปพูดในที่ประชุมสงฆ์ ว่าพรรคส้มจะตัดเงินพระ และสอนให้เด็กเนรคุณ จะกล่าวอะไรในที่ประชุมแบบนี้ขอให้มีหลักฐานด้วยนะคะ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 


และยังได้กล่าวว่า

สิ่งที่รอง ผอ.สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติวิพากษ์วิจารย์นโยบายพรรคการเมือง ประเด็นตัดงบสำนักพุทธฯ นั้นถือว่าเกินเลยเกินความเป็นจริง ซึ่งพรรคการเมืองดังกล่าว จะมาตัดงบสำนักพุทธศาสนาฯ ได้อย่างไร เพราะทั้งที่ยังไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลเลย


ตนอยากให้สำนักพุทธฯ มองย้อนกลับไปดูตัวเอง และดูแลพระสงฆ์ที่อยู่ในความดูแลว่าดีหรือยัง เพราะยังมีพระที่ไปหลอกลวงชาวบ้าน และสร้างความวุ่นวายให้กับพระพุทธศาสนาจำนวนมาก ตรงนี้ได้จัดการพระสงฆ์เหล่านี้หรือยังพร้อมแนะให้รอง ผอ.สำนักพุทธฯ รับผิดชอบคำพูดตัวเองด้วยที่พูดออกมา

-----------
เมื่อวานนี้ (15 มิ.ย.) ทางสำนักพุทธฯ แจ้งกับสื่อมวลชนว่าจะออกหนังสือชี้แจงต่อการบรรยายของคุณกณิกนันต์ ในช่วงบ่าย โดยจะไม่มีการแถลงข่าว ต่อมาโฆษกสำนักพุทธฯแจ้งว่าขอระงับหนังสือชี้แจงไว้ก่อน เนื่องจาก ทางผู้บริหารจะขอพูดคุยกับ นางกณิกนันต์ ก่อน แล้วจะแจ้งให้สื่อทราบทันที หากดำเนินการอย่างไร
-----------
นายสุพัฒน์  เมืองมัจฉา โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยืนยันว่า สำนักพุทธฯ มีความเป็นกลาง พรรคใดเป็นรัฐบาลสำนักพุทธฯ ก็สนองงานทุกครั้ง กรณีที่เป็นข่าวเข้าใจว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว จากนี้สำนักพุทธฯจะชี้แจงข้อเท็จจริงเป็นลายลักษณ์อักษรต่อไป


ขณะนี้ นางกณิกนันต์ ก็ยังไม่ได้ชี้แจงใดๆ แต่จะพูดคุยในรายละเอียดซึ่งต้องรออีกสักระยะหนึ่ง/ตนได้ดูคลิปจากข่าวแล้ว เข้าใจว่าไม่ใช่ความเห็นโดยรวมของหน่อยงาน แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นเชิงส่วนตัวในวงสนทนาทางวิชาการ ไม่รู้ว่าในบริบทที่นางกณิกนันต์ พูดไปน้้น อาจจะมีความคิดพื้นฐานหรือมีความคิดต่างๆ มาประกอบการพูด


เมื่อถามว่าจากที่ได้ฟังคลิปวีดีโอนางกณิกนันต์ มองว่า มีอคติต่อพรรคการเมืองพรรรคใดพรรคหนึ่งหรือไม่ 

นายสุพัฒน์ ระบุว่า ตอบแทนไม่ได้ “ย้ำว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีความเป็นกลาง นโยบายคือสนองงานภาครัฐและคณะสงฆ์รวมถึงงานทางด้านพระพุทธศาสนา ยืนยันว่า ไม่มีความเอนเอียง มีความเป็นกลางทางการเมือง”

-----------
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์หลัง รอง ผอ. สำนักพุทธศาสนา ออกมาชี้แจงว่า ไม่มีเจตนาพาดพิงพรรคก้าวไกลว่า ไม่สนับสนุนพระพุทธศาสนา โดยถามกลับว่า ไม่มีเจตนาหรือเป็นอคติ สิ่งที่ทำไปเป็นการทำไม่โดยไม่เจตนาเลยหรือ แต่ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า เจตนาหรือไม่เจตนาไม่ใช่สาระสำคัญ



ต่ประเด็นอยู่ที่การที่รอง ผอ. สำนักพุทธศาสนา ถามถึงนโยบายของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ที่ระบุว่าพรรคการเมืองนั้นทำให้เด็กไม่ให้ความสำคัญกับผู้ปกครอง ไม่สนใจพ่อแม่ ตนจึงอยากรู้ว่ารอง ผอ. สำนักพุทธศาสนา ไปเอานโยบายจากพรรคไหนมา


และเชื่อว่าคนระดับ รอง ผอ. สำนักพุทธศาสนา คงไม่โกหกหรือจินตนาการในเชิงลบ ในโมหะจริตของตนเอง แล้วออกมาพูดต่อหน้าพระสงฆ์ เพราะการบรรยายในเสวนาครั้งนี้เป็นการบรรยายให้พระสงฆ์ฟัง จึงเชื่อว่าคงไม่พูดปดตามหลักศีลห้า


ดังนั้น จึงอยากรู้ว่า รอง ผอ. สำนักพุทธศาสนา ไปเอาเนื้อหานโยบายมาจากตรงไหนเพราะทุกพรรคการเมืองต้องนำเสนอนโยบายต่อ กกต. จึงอยากให้ รอง ผอ. สำนักพุทธศาสนา ขีดเส้นใต้ ให้หน่อยว่ามีนโยบายพรรคการเมืองใด ที่สอนให้เด็กไม่ให้ความสำคัญกับพ่อแม่


แต่หากมาจากเจตคติเชิงลบของ รอง ผอ.สำนักพุทธศาสนา ต่อพรรคการเมืองนั้นและไม่มีข้อมูลก็ขอให้ยอมรับมาตามตรง ดังนั้นเรื่องนี้ตนจึงมองว่าไม่ใช่เรื่องเจตนาหรือไม่เจตนา แต่เป็นเรื่องของอคติหรือไม่


และการที่ รอง ผอ. สำนักพุทธศาสนา บอกว่าพรรคการเมืองที่ได้เสียงเยอะๆ ไม่มีนโยบายส่งเสริมองค์กรศาสนา ขอให้ระบุขีดเส้นใต้มาให้ชัดเลย ว่าตรงไหน


หรือ รอง ผอ. สำนักพุทธศาสนา ไปเอาข่าวเรื่องนี้มาจากไหน เพราะตนเชื่อว่าระดับ รอง ผอ. สำนักพุทธศาสนา คงไม่เอาเรื่องเท็จไปบรรยาย และไม่สามารถเติบโตก้าวหน้าเป็นถึงระดับ รอง ผอ. สำนักพุทธศาสนาได้ บรรยายต่อสาธารณชนได้ ก็ต้องกล้าออกมาชี้แจง


ส่วนกรณีที่ รอง ผอ. สำนักพุทธศาสนา ยืนยันสำนักพุทธฯ มีความเป็นกลาง พร้อมทำตามนโยบายรัฐบาล ไม่ว่าพรรคการเมืองใดนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า สามารถทำงานร่วมกันได้เช่นกัน


แต่ย้ำว่า รอง ผอ. สำนักพุทธศาสนา ต้องชี้แจงก่อน พร้อมด้วยระบุด้วยว่า หากนำประโยคที่ตนโพสต์ในทวิตเตอร์ไปทำโพลสำรวจว่า ประโยคในลักษณะนี้ มีความเป็นกลางทางการเมืองหรือไม่ เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ 


แม้การให้ความเห็นของ รอง ผอ. สำนักพุทธศาสนา จะเป็นสิทธิ์ แต่ตนก็อยากรู้ถึงที่มาที่ไปในการนำเรื่องนี้มาพูด หรือนำมาจากการนำเสนอข่าว จากสำนักข่าวใดเป็นพิเศษหรือไม่ จะได้ตามไปถึงต้นตอว่าสำนักข่าวที่ผลิตข่าวลักษณะนี้รายงานถูกต้องหรือไม่ สมมุติหากเป็นข่าวเท็จ ก็จะได้เตือนหรือเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอื่นว่า อย่าไปเสพข่าวจากแหล่งข่าวนั้น


ส่วนจะมีการดำเนินการอื่น ๆ กับ รอง ผอ. สำนักพุทธศาสนา หรือไม่นั่น

นายวิโรจน์ เชื่อว่าเรื่องนี้ รอง ผอ. สำนักพุทธศาสนา คงตระหนักรู้แล้ว หลังยอมรับว่าไม่มีเจตนา และจะเป็นเรื่องที่ดีมากหาก รอง ผอ. สำนักพุทธศาสนา ไปเตือนเพื่อนในกลุ่มไลน์ว่าเรื่องที่นำมาเล่าเป็นเรื่องเท็จ และอย่านำไปเล่าต่อ ซึ่งจะถือเป็นคุณูปการอย่างมาก

-------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Xr-8pHa0hJY

คุณอาจสนใจ

Related News