ทหารพระธรรมนูญ เข้าพบตำรวจไซเบอร์ หารือกับพนักงานสอบสวน นำจ่าสิบโท มือแฮ็ก เข้ามอบตัว

นายทหารพระธรรมนูญ เข้าพบพนักงานสอบสวนไซเบอร์ พร้อมระบุ “จ่าสิบโท” มือแฮกเกอร์อยู่ในการควบคุมตัวของทหาร เบื้องต้นเจ้าตัวยังไม่ให้ข้อมูลอะไร พร้อมขอเวลาไปหารือกับพนักงานสอบสวนในการเข้ามอบตัวก่อน และจะขอให้โฆษกกองทัพบกเป็นผู้ชี้แจงในรายละเอียด / ส่วนภรรยามีรายงานว่าเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว!



ความคืบหน้าคดี “แฮกเกอร์” 9NEAR ที่โพสต์ขายข้อมูลอ้างว่าเป็นข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านรายการ ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นฝีมือของ “จ่าสิบโท” ซึ่งเป็นทหารบกระดับชั้นประทวนอยู่ในจังหวัดนนทบุรี ทราบชื่อคือ นายเขมรัตน์ บุญช่วย ชาวจังหวัดนนทบุรี



โดยวันนี้มีรายงานว่า เจ้าตัวได้ประสานขอเข้ามอบตัวที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หลังถูกออกหมายจับในความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ”



ล่าสุดช่วงเวลา 10.30 น. นายทหารพระธรรมนูญ 2 นาย ได้เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวนไซเบอร์ แต่จากการสังเกตยังไม่พบตัวของจ่าสิบโท / โดยผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสอบถาม ได้ข้อมูลว่า วันนี้เข้ามาหารือขั้นตอนการมอบตัวของ “จ่าสิบโท” พร้อมยอมรับว่าจ่าสิบโทอยู่ในการควบคุมตัวของทหาร แต่ในรายละเอียดทั้งหมดจะให้โฆษกกองทัพบกชี้แจงทั้งหมด เบื้องต้นจ่าสิบโทเอง ยังไม่มีการให้ข้อมูลแต่อย่างใด แต่ในส่วนภรรยาในรายละเอียดยังไม่ทราบข้อมูล



ขณะที่มีรายงานว่าตัวของภรรยาได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนไซเบอร์ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีแล้ว



นอกจากนี้มีรายงานว่าหากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่าภรรยาของจ่าสิบโทเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะต้องถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันกระทำความผิด / ส่วนจ่าสิบโท ก็จะต้องไปขึ้นศาลพลเรือน เพราะมีประชาชนเข้าร่วมกระทำความผิด



สำหรับ “จ่าสิบโท” จากการสืบสวนพบว่าเป็นนายทหารที่มีความรู้และเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก ซึ่งจากการตรวจค้นห้องพักพบมีเครื่องมือและอุปกรณ์ในการแฮกข้อมูลสำคัญหลายรายการ ซึ่งตำรวจตรวจยึดไว้แล้วและยังพบเครื่องมือกระทำความผิดหลายพื้นที่ โดยมีการลงทุนซื้อเครื่องมือจำนวนมาก



สำหรับบรรยากาศที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้มีสื่อมวลชนจากหลายสำนักเกาะติดการเข้ามอบตัวของจ่าสิบโทจำนวนมาก เนื่องจากเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจและกระทบต่อความมั่นคงของประชาชน อีกทั้งผู้กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีรายงานว่ารู้จักกับบุคคลสำคัญทางการเมืองด้วย