สังคม

หญิงร้องเจ้าอาวาสแชตขอหอมแก้มสาว พระโต้สร้างหลักฐานเท็จมาทำลาย

โดย onjira_n

3 ก.พ. 2566

139 views

หญิงร้องสื่อให้ตรวจสอบเจ้าอาวาสอ้างเป็นทายาทธรรมหลวงปู่ผางทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กล่าวหามาอยู่วัดแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว พร้อมนำข้อความแชตมาเปิดเผยเป็นเจ้าอาวาสแชตหาสาวขอหอมแก้ม ขณะที่เจ้าอาวาสปฏิเสธทุกข้อ เผยเป็นเรื่องเดิมถูกสร้างหลักฐานเท็จมาทำลายเพราะไม่พอใจเรื่องซื้อศาลปู่ราคาถูกกว่าที่หญิงที่สร้างเรื่องเสนอมา พร้อมให้ตรวจสอบไร้กังวล



มีกรณีชาวบ้านรายหนึ่ง ในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น นำภาพข้อความแชตกล่าวหาว่าเป็นข้อความแชตระหว่างหลวงพ่ออาคม คัมภีโร เจ้าอาวาสวัดถ้ำภูผาแดง ต.บ้านโคก อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น โดยในข้อความแชตนั้น เป็นคำพูดของฝ่ายที่ระบุว่าเป็นหลวงพ่ออาคมพิมพ์แชตมาเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นข้อความบางช่วงบางตอน โดยฝั่งซ้ายระบุว่าเป็นพระอาจารย์อาคม เจ้าอาวาสวัดที่โคกโพธิ์ไชย และฝั่งขวาระบุว่าเป็นฝ่ายหญิง โดยทางฝั่งซ้ายพิมพ์มาว่า พ่อรู้จักกับเกดอยู่เหรอ และบอกอีกว่าอยู่ในใจเสมอ ก่อนที่ฝั่งขวาจะพิมพ์ตอบมาว่า จะนอนยัง ฝั่งซ้ายก็ตอบมาว่า ไม่จ้า ก่อนที่ฝั่งขวาที่ระบุว่าเป็นฝ่ายหญิงจะพิมพ์มาว่าเหมือนจะไม่สบาย ฝันดีค่ะ ก่อนที่อีกฝ่าย จะพิมพ์มาเป็นชุดว่า ขอหอมแก้มหน่อยจ้า พ่อบารมีหลับแล้วจ้า มาแป็ปเดียว มาเร็ว จะรอน้องก้อยจ้า บ่อมีคนเห็นหรอก ซึ่งเป็นการพิมพ์ข้อความทั้งหมดภายใน 3 นาที ก่อนที่ฝ่ายหญิงพิมพ์กลับมาว่า เราเพิ่งรู้จักกันเอง และนาทีต่อมาเป็นอีกฝ่ายที่กล่าวหาว่าเป็นหลวงพ่ออาคม พิมพ์ตอบกลับมาว่า ไม่เป็นไรแค่หอมแก้ม ไม่ทำเกินหรอกจ้า แค่หอมแก้ม พร้อมทั้งอยากให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าอาวาส กล่าวหาว่าแอบอ้างเป็นธรรมทายาทของหลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต อดีตเจ้าอาวาสวัดวัดอุดมคงคาคีรีเขต ต.นางาม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น มรณภาพเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2528 สิริรวมอายุได้ 81 ปี



โดยนางวลัยพรรณ แสนเรียน ผู้ที่มาร้องเรียนเล่าให้ผู้เสื่อข่าวฟังว่าเป็นเรื่องราวของความไม่โปร่งใสของพระอาจารย์อาคม ทั้งเรื่องเงิน ทั้งเรื่องแอบอ้างเป็นญาติธรรมหลวงปู่ผาง ทั้งยังมีเรื่องเสื้อของหลวงปู่ผาง สร้างเหรียญ อวดอุตริ และยังสืบทราบมาว่าหนีมาจากวัดคอนบุรี เพราะมีเรื่องผู้หญิง จึงย้ายมาขออาศัยอยู่กับหลวงปู่นงค์ที่วัดหลวงปู่ผาง แต่ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน ตนเองไม่ได้มีอคติอะไรกับที่วัด ตนเองเป็นลูกศิษย์ลูกหาที่ศรัทธาหลวงปู่ผาง มาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเรียกได้ว่าเป็นสะพานบุญให้กับวัด ตอนนี้ยังนึกเสียดายว่าหลวงพ่ออาคมได้มาอยู่ที่วัดหลวงปู่ผางแล้วแต่ทำไมไม่ปฏิบัติให้ดี พอผ่านไปเริ่มเห็นความผิดปกติไม่โปร่งใสมากขึ้น จึงอยากให้มีการตรวจสอบ



ในส่วนของข้อความแชตนั้น เรารู้จากปากลูกศิษย์หลวงปู่ผางหลายคน ว่าหลวงปู่ผางไม่ได้บวชให้ มีเพียงหลวงปู่นงค์ หลวงปู่จื่อ หลวงปู่ประเสิร์ฐ ซึ่งมีหลักฐานข้อมูนชัดเจนในเรื่องนี้ และต่อมาเป็นเรื่องแชทขอหอมแก้มผู้หญิงนั้น ช่วงนั้นเคยไปหานักข่าวกระทั่งนักข่าวพาไปหาหญิงเจ้าของแชตดังกล่าว แต่หญิงรายนั้นปฏิเสธว่าทำหลักฐานขึ้นมาเอง เอาโทรศัพท์ของพระอาจารย์มาเอง หากไปถามชาวบ้านในหมู่บ้านก็จะชัดเจนว่าเป็นเรื่องจริง แต่ตนเองไม่มีหลักฐานนอกจากแชทนี้



ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดถ้ำภูผาแดง ต.บ้านโคก อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น โดยได้พบกับ หลวงพ่ออาคม คัมภีโร เจ้าอาวาสวัดถ้ำภูผาแดง นั่งอยู่บนศาลาการเปรียญเพียงรูปเดียว ซึ่งมีพระลูกวัดอยู่ในกุฏิและปฏิบัติกิจของสงฆ์ภายในวัดรวมทั้งหมด 5 รูป ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามพร้อมนำแชตดังกล่าวให้หลวงพ่ออาคมดู ซึ่งหลวงพ่ออาคมก็ได้เปิดเผยกับสื่อว่า เรื่องนี้มีมานานกว่า 2 ปีแล้ว และครั้งนั้นก็มีการตรวจสอบรวมทั้งสื่อมวลชนในพื้นที่ด้วย และคนที่ทำแชตนี้ขึ้นมาก็ยอมรับแล้วว่าเป็นคนทำขึ้นมาเองจริงเพื่อทำลายอาตมา



ซึ่งจากการสอบถาม หลวงพ่ออาคม เจ้าอาวาสวัดถ้ำภูผาแดง ทราบว่า กรณีดังกล่าวนั้น มีโยมผู้ชายมาขายของที่วัดโดยอยู่กับผู้หญิงอีกคน โยมผู้ชายได้ยืมโทรศัพท์ไปโทรหาแฟนสาว ซึ่งเป็นขณะที่กำลังทำวัตรเย็นอยู่บนศาลา แต่ยืมไปแล้วไม่เอามาคืน มาทราบอีกครั้งคือโยมผู้หญิงใช้โทรศัพท์ที่โยมผู้ชายยืมอาตมาไป ไปส่งข้อความแชตหาตัวเอง โดยเป็นการสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมาโจมตีอาตมา สร้างเรื่องราวเองในเรื่องขอหอมแก้ม ต้องการให้ออกจากวัดไป เพราะไม่พอใจที่อาตมา เพราะมีโยมจะทำศาลปู่ภูประแดง ก็มีเม่าแก่มาสร้างให้ กระทั่งมีโยมกลุ่มหนึ่งเสนอราคาในการสร้างศาลปู่ครบชุดราคา 35,000 บาท แต่อาตมาและลูกศิษย์หาซื้อได้ในราคา 5,000 บาท โดยได้ซื้อที่ จ.แพร่ ทำให้เกิดความไม่พอใจ พยายามหาวิธีทำลายอาตมาให้ออกไปจากวัดให้ได้ ซึ่งในเวลาต่อมา โยมผู้หญิงรายนี้ก็ออกมาแก้แล้วว่าเป็นคนทำเองจริงๆ ซึ่งก็มีการตรวจสอบยอมรับจากโยมผู้หญิงรายนี้แล้วเรื่องก็จบไปเมื่อหลายปีก่อน



ในส่วนเรื่องของธรรมทายาทนั้น อาตมามาจำพรรษที่วัดหลวงปู่ผางเมื่อปี 2562 ต่อมาพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เจ้าคณะอำเภอบ้านไผ่ เจ้าคณะอำเภอชนบท ทั้งหลวงพ่อสมานเจ้าคณะอำเภอมัญจาคีรี-โคกโพธิ์ไชย ได้บอกให้มาอยู่ที่วัดถ้ำของเราหน่อยเพราะเป็นสายธรรมยุติ ส่วนมากเป็นมหานิกายมาอยู่ ซึ่งอาตมาก็มีวัดของอาตมาอยู่แล้ว จึงเห็นว่าถ้าเป็นของหลวงปู่ผางก็อยากมาอยู่ อยากจะสานต่อหลวงปู่ผาง และการปกครองก็ลำบากเพราะเป็นวัดสายธรรมยุติ แต่มีพระสายมหานิกายอยู่ด้วย และเรื่องญาติโยมทำบุญทำนุบำรุงศาสนาก็ยังไม่ทั่วถึง จึงเข้ามาอยู่ที่วัดเพื่อมาสานต่อ และสร้างทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และภายในวัดให้ชาวบ้านเข้าถึงและมาทำบุญอยู่ร่วมกันได้ทั้งพระและฆารวาส จนถึงปัจจุบันนี้



หากพูดตามหลักตรงๆอาตมาก็ไม่ทันหลวงปู่ผาง อาตมาบวชในปี 2534 ไม่ใช่ลูกศิษย์แท้ๆ ไม่เคยได้รับการอบรบสั่งสอนโดยตรงจากหลบวงปู่ผาง แต่เป็นสายญาติธรรมที่สืบต่อกันมา แต่ในวงการของหลวงปู่ผาง พ่อแม่ครูบาอาจารย์ก็รู้จักอาตมา ไม่ได้แอบแฝงหาผลประโยชน์ เงินกฐินได้มาก็มาทำนุบำรุงวัดทั้งหมด แจ่สิ่งที่เกิดขึ้นอาตมายอมรับว่าตามไม่ทัน เพราะโยมผู้หญิงคนนี้พยายามสร้างหลักฐานเท็จสร้างเรื่องมากล่าวหาเพื่อให้อาตมาออกจากวัดไป และเรื่องนี้มีการพูดกล่าวหาอาตมาไปทั่วทั้งอำเภอแต่ทางโยมผู้หญิงก็มีการออกมายอมรับว่าสร้างหลักฐานแชทเท็จขึ้นมาแล้ว ส่วนโยมผู้ชายนั้นทราบว่าภายหลังจากเลิกขายของที่วัดก็ไปบวชและไม่รู้ว่าจำพรรษาที่วัดไหน และไม่ได้กลับมาที่วัดนี้อีก ส่วนโยมผู้หญิงก็ไม่อยู่ในพื้นที่เช่นกัน ส่วนตัวอาตมาไม่วิตกังวล ยืนยันในเรื่องความบริสุทธิ์ หากจะตรวจสอบก็พร้อมที่จะให้ตรวจสอบ ในส่วนอื่นๆก็จบไปแล้วก็ปล่อยเป็นวิบากกรรมตามธรรมชาติไป



คุณอาจสนใจ

Related News