สังคม

หนุ่มเตือน โดนแก๊งคอลฯ อ้างเป็นร้านไอทีดัง หลอกดูดเงินแสน - 'ชัยวุฒิ' ชี้ กม.ใหม่ แบงก์ระงับธุรกรรมได้เองทันที

โดย nattachat_c

26 ม.ค. 2566

128 views

วานนี้ (25 ม.ค. 66) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sirasit Phinitoakson ได้โพสต์เตือนภัยถึงการเสียรู้ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โหลดแอปเถือน แล้วสุดท้ายถูกดูดเงินเกลี้ยงบัญชี 112,900 บาท โดยมีบัญชีม้า ชื่อ หยาดฝน เจริญผล ทั้งนี้ คุณ Sirasit  ได้โพสต์ว่า 


วันที่ 22/01/2566 เวลา 13:57น. ได้มีมิจฉาชีพอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ Advice โทรเข้ามาบอกว่า ลูกค้าไม่ได้เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์บริการนานแล้ว จึงแนะนำว่า มีโปรโมชั่นแคมเปญต่างๆ (ซึ่งมันก็จริงเพราะว่าผมเคยเป็นลูกค้าของแอดไวซ์มาก่อน แต่ไม่ได้ใช้บริการมา 3 ปีแล้ว)


แล้วเขาก็ถามต่อ หากลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่ศูนย์บริการ Advice จะมีส่วนลดให้ 30% และจะมีอั่งเปาให้ 5,000 บาท แล้วผมก็บอกว่าไม่สนใจแล้วก็ตัดสายทิ้งไป อันนี้เป็นเบอร์ผู้หญิงโทรเข้ามา เป็นเบอร์แอบอ้างที่ 1


วันที่ 23 มกราคม 2566 เวลา 12.45 น เป็นเบอร์แอบอ้างที่2 ได้มีมิจฉาชีพตั้งตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่บริการของ Advice แต่เป็นผู้ชายพูดทำนองเดียวกันเลยว่ามีโปรโมชั่นมานำเสนอเหมือนพนักงานบริการที่ดีคนนึงเลย ใส่ใจลูกค้าเต็มที่ ลูกค้าเข้ามาดูสินค้าบริการที่สาขาใกล้บ้านก่อนก็ได้นะครับ ถ้าไม่สนใจก็ไม่เป็นไรครับ (ครั้งนี้ทำให้คิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ หลงเชื่อ เพราะเหมือนเขาพูดทำนองว่า ผมเป็นลูกค้า Advice ไม่ได้ใช้บริการ ที่ศูนย์บริการมานานแล้ว ผมก็คิดมันก็ใช่อย่างที่เขาพูดว่าผมไม่ได้ใช้บริการนานแล้วจริงๆ ตอนนั้น แล้วตอนนั้นจู่ๆ ผมก็คิดในหัวก็อยากมีของรางวัลให้ตัวเอง ถ้ากลับไปใช้บริการคงจะดีเหมือนกันมีแคมเปญต่างๆให้) ก็เลยติดกับหลงตามเกมมันเลยครับ  


แล้วมันก็พูดต่อ เดี๋ยวถ้ายังไงลูกค้าลองคิดดูอีกทีนะครับ อีกทั้งลูกค้าสามารถเข้าไปใช้บริการออนไลน์ก็ได้นะครับ ไปดูสินค้าที่ต้องการหรือเปล่า แล้วเดี๋ยวยังไงผมขอแอด Line ไปนะครับ เพื่อรับข้อเสนอโค้ดส่วนลดที่ทาง Advice มีให้นะครับ แล้วก็ตัดสายไป แล้วเขาก็แอด Line มา ภาพโปร LINE ก็เป็น Advice it Infinite เขา Add LINE


ผมก็รับเป็นเพื่อน เขาก็ถามข้อความ สวัสดีครับ รบกวนขอชื่อนามสกุลเบอร์โทรศัพท์ลูกค้าด้วยนะครับ สะดวกไหมครับ ใช้เวลา แค่5-10นาที สะดวกเมื่อไหร่ก็บอกนะครับ


แล้วตอน17:07น. มันก็ทักมาอีก พี่สะดวกหรือยังครับ  แล้วผมเลิกงานกลับมาบ้าน ก็มาตอบไลน์มันตอน18:14 ว่าสะดวกแล้ว แล้วมันก็โทรมาผ่าน LINE ให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ไอทีทุกอย่างเลย พยามยามขายของเต็มที่ว่าสนใจอะไรเป็นพิเศษไหม ฯลฯ แนะนำมาดีมาก ระหว่างที่มันถามมันก็ให้ติดตั้งแอปพลิเคชั่นแอดไวซ์ ส่งลิ้งค์มาให้ทางไลน์ แล้วมันก็ให้ทำตามขั้นตอนที่มันบอก


1. มันให้คัดลอกลิ้งค์ไปวางไว้ใน Google chome

2. แล้วมันก็ขึ้นเป็นหน้าเว็ปแบบปกติเลย มีรายการสินค้าทุกอย่างที่ น่าเชื่อถือมากเหมือนเว็บของ Advice จริงๆเลยเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ

3. แล้วมันก็มีจุดดาวน์โหลด App อยู่ตรงมุมขวาบนของเว็บแล้วเขาก็บอกให้ดาวน์โหลดและทำตามขั้นตอนทุกๆอย่างก็มีการ กดติดตั้ง app ที่เป็น APK

4. กดอนุญาตสิทธิ์ของ Application มีอยู่ 3 ข้อติดตั้งปุ๊บมันก็เป็นแอปของ Advice โดยตรง

5. ที่นี่มันก็ขึ้นมาตรงหน้าจอหลัก มีหน้าโหลดเด้งขึ้นมาทั้งที่ยังไม่ได้กดเข้าแอป ในหน้าโหลดมีสัญลักษณ์ Advice แล้วก็รูปความปลอดภัย และมีข้อความระบุว่า "กำลังรอการตรวจสอบสิทธิ์ในการรับโค้ดส่วนลดห้ามใช้งานโทรศัพท์"อยู่หน้านี้ประมาณ 3-5 นาที


ระหว่างรอในหน้านี้มันก็แนะนำสินค้าให้ความรู้ผม เหมือนเครือข่ายแก๊งค์พวกนี้มีจิตวิทยาทำให้ผมคล้อยตามมาก ซึ่งข้อมูลสำคัญพวกเลขที่บัญชีรายการที่เกี่ยวกับทางการเงินไม่มีการพูดถึงเลย


ผมพึ่งนึกได้ว่า ข้อมูลสำคัญที่ให้ไปก็น่าจะเป็นวันเดือนปีเกิด เพราะว่าเป็นข้อมูลที่ให้ไปเพื่อรับสิทธิประโยชน์ แต่ผมลืมไปอย่างหนึ่งว่าวันเดือนปีเกิดผมตั้งเป็นรหัสเข้า app ธนาคาร ส่วนนี้ผมว่าสำคัญมากผมเชื่อว่าหลายๆคนก็อาจจะใช้รหัสแบบนี้ *ผมแนะนำให้เปลี่ยนเลยนะครับ*


แล้วหลังจากนั้น มันก็ถามต่อ มันก็จะมีเลข otp เข้า แล้วก็ใส่เลขตาม หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็ได้ยินมันพูดเบาๆแว่วๆ ว่าเลข 112,900 เท่านั้นแหละ ก็มีข้อความของแบงค์เข้าว่ามีรายการโอนเงินออกยอด 112,900 บาท วันที่ 23/01/2023 ณ 18.27 น ซึ่งผมไม่ได้กดโอนเงินอะไรเลย อยู่ดีๆ เงินก็ออกไป


หลังจากนั้นผมก็ได้โทรไปปรึกษากับ Call Center ธนาคารว่ามีรายการเงินออกผิดปกติเขาก็เช็คให้ว่า เงินออกไปที่ธนาคารใด เลขที่บัญชีอะไร ชื่ออะไรแล้วก็รู้ตัว ธนาคารเขาก็แนะนำวิธีว่าต้องทำตามขั้นตอน แล้วผมก็เข้าไปแจ้งความทันที ทั้งแจ้งความที่ สภ. แล้วก็แจ้งความออนไลน์


พอวันที่ 24 มกราคม 2566 ผมก็วิ่งเอกสารกับธนาคารและตำรวจทั้งวัน แล้วผมก็อยากพึ่งรู้อีกเรื่องว่าหน่วยงานตำรวจเขาไม่รับทำเอกสารข้ามเขต แล้วจะโทรไปขอคำปรึกษากับหน่วยงานตำรวจกองปราบตามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเบอร์ติดต่อไม่ได้ทั้ง 2 เบอร์เลย


เรื่องที่มันเกิดขึ้นมัน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ผมสร้างมันขึ้นมาเอง มันเป็นของแย่ๆของตัวเองล้วนๆเลย เรื่องทุกอย่างหนักเกินตัวผมเองไม่อยากแบกรับมันไว้เลย พยายามช่วยดึงตัวเองขึ้นมากับความรู้สึกโง่ๆที่มันคิดไม่ตกกับตัวเองเลย

------------

ด้านผู้เสีย ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า 


มันสามารถรู้ประวัติ แล้วบอกว่าให้ส่วนลด มันก็โทรไลน์มา ให้กดเข้าเว็บ ผมก็ไม่ได้สังเกตเลย เพราะมันมีรายชื่อสินค้าต่างๆ แล้วมันก็บอกให้กดโหลดแอป แล้วให้บอกวันเกิด กด OPT ระหว่างนั้น ก็ชวนคุยเรื่อยๆ ผมก็ไม่รู้ตัว มันบอกว่าห้ามทำอะไรเลย ผมแค่พิมพ์แชทไป มันก็บอกกลับมาทันทีว่า พี่ไปทำอะไร อย่างเพิ่งทำอะไรกับมือถือ

------------

ขณะที่ เฟซบุ๊กเพจ "AdviceClub" ร้านสินค้าไอทีที่ถูกแอบอ้างนั้น ได้ขึ้นข้อความแจ้งเตือนลูกค้าผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า

“แอดเตือนภัย ตอนนี้มิจฉาชีพระบาดหนัก อย่าติดตั้งแอปฯ ที่ไม่ได้อยู่บนสโตร์นะ!!”

------------

ด้าน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่าวันที่ 24 ม.ค. 66 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ก่อนประกาศใช้บังคับต่อไป


ซึ่งได้บอกต่อว่า การตรวจพิจารณาร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. .... จะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ และจะมีผลบังคับใช้ไม่เกินเดือน ก.พ. แน่นอน 


โดยร่างนี้จะมีสาระสำคัญ ดังนี้ 

1. ห้ามมิให้ผู้ใดเปิดบัญชี บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้มีเจตนาใช้เพื่อตน และห้ามไม่ให้ผู้ใดยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้ซิมโทรศัพท์ของตนในทั้งที่รู้หรือควรจะรู้ ซึ่งอาจจะนำไปใช้ในการทุจริตหรือทำผิดกฎหมาย ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. ห้ามไม่ให้ผู้ใดเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายบัญชี บัตรอิเล็กทรอนิกส์ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือซิมโทรศัพท์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการกระทำความผิดอาญา ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


มีขั้นตอนในการระงับการทำธุรกรรม อาทิ

1. กรณีสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจพบเหตุอันควรสงสัยเองหรือได้รับแจ้งจากเจ้าพนักงาน ให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจระงับการทำธุรกรรม แล้วแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมต่อไปทันทีเป็นการชั่วคราว หากตรวจสอบแล้วไม่พบเหตุสงสัย ให้สามารถดำเนินการทำธุรกรรมต่อไปได้

2. กรณีได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจระงับการทำธุรกรรมและแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราว เพื่อให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา 48 ชั่วโมง และให้พนักงานสอบสวนดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีและกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์นั้นภายในเวลา 7 วัน นับแต่วันได้รับแจ้ง


และ ในกรณีที่พบพฤติกรรมผิดปกติหรือเมื่อมีผู้ร้องเรียนต่อธนาคาร และให้อำนาจธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเปิดเผย เชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดออนไลน์ผ่านระบบฐานข้อมูลกลาง เพื่อใช้ในการป้องกัน ระงับ ยับยั้ง การก่ออาชญากรรมออนไลน์ รวมทั้งยกเว้นข้อจำกัดการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลข้อมูลส่วนบุคคล อันเป็นการขจัดปัญหาข้อกฎหมายบางประการที่ทำให้การบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ต้องติดขัดหรือล่าช้าไม่ทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ


นอกจากนี้ จะยังทำระบบ AI ตรวจจับการโอนเงินที่ผิดปกติ เพื่อให้สามารถระงับการทำธุรกรรมได้ทันท่วงที

------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/qrzXk1M-x7M

คุณอาจสนใจ

Related News