2 วัยรุ่นรุมทำร้าย 2 นักเรียนม.ต้น จับได้ 1 สารภาพหมั่นไส้

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้มีการเผยแพร่ ภาพเหตุการณ์และข้อความว่า “คนทำผิดต้องรับโทษ กระดูกใต้ตาหัก กระดูกโหนกแก้มแตก หมอศัลยกรรมยืนยันว่าต้องผ่าหรือไม่ หมอนิติเวชยืนยัน อาวุธที่ใช้ และแนบภาพนิ่ง เด็กนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ถูกทำร้ายร่างกาย ที่ใบหน้า จนบาดเจ็บ


นอกจากนี้ ทางผู้โพสต์ ยังมีการปล่อยภาพวงจรปิด กลุ่มวัยรุ่นที่แต่งกายคล้ายเด็กอาชีวะ เดินตามไปก่อเหตุชกต่อยและทำร้ายเด็ก 2 คน


ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปในจุดเกิดเหตุ ปากซอยสมเด็จเจ้าพระยา 9 แขวงปากคลองสาน เขตปากคลองสาน กรุงเทพมหานคร ซึ่งในจุดเกิดเหตุ เป็นป้ายรถประจำทาง อยู่ด้านหน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์พบกับ นายธีรภัทร อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน เล่าว่า พอดีวันนั้นน่ะตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นะครับ แต่เหตุเกิดประมาณ 17.15 น. ในภาพวงจรปิดที่ร้านเราก็เห็นแต่ตอนรถเมล์จอด แล้วเด็ก ๆ ลงจากรถ ซึ่งจากตามภาพผู้ก่อเหตุเนี่ยเดินตามหลังเด็กที่ถูกทำร้ายมา 2 คนแล้วก็หลุดออกหน้าจอไป แต่เกินประมาณสัก 10 นาทีเด็ก 2 คนนี้ก็เดินถอยหลังกลับมาครับคาดว่าก็คงจะทำร้ายร่างกายกันแล้ว


แต่ว่าตอนก่อเหตุนั้นเราไม่เห็น เพราะว่าขณะนั้นไปรับลูกกับภรรยา แต่ดูจากกล้องเวลาที่เกิดเหตุจริงๆ ประมาณ 17.17 เพราะว่าตนปิดร้าน 17.00 น.แล้วก็ไปรับลูก อีกอย่างน้องที่ถูกทำร้ายครับก็ไม่ใช่เด็กเกเรหรือก้าวร้าว เป็นเด็กเรียนม.ต้น ประมาณ ม.3 ส่วนเด็ก 2 คนนั้นน่าจะเป็นเด็กช่างหรือไม่นั้นก็ไม่แน่ใจ เพราะว่าการแต่งกายเขาไม่ได้ระบุ


ด้านเจ้าของโพสต์ คือ นายพงศพัศ อายุ 43 ปี เล่าว่า วันที่เกิดเหตุ ตนได้รับโทรศัพท์จากลูกสาวว่า พี่ชายนั้นถูกทำร้าย โดยระหว่างทางที่ไปโรงพยาบาลก็ได้รับโทรศัพท์ติดต่อโดยตลอด ว่าตอนนี้ทางตำรวจได้ให้เด็กชายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตากสิน ก่อนที่จะถูกส่งตัวย้ายไปที่โรงพยาบาลกลาง


โดยทางโรงพยาบาลได้แจ้งว่าตอนนี้กำลังเอกซเรย์สมองของน้อง อาการบาดเจ็บเบื้องต้นกระดูกใต้ตาหัก กระดูกโหนกแก้มแตกข้อมือมีอาการปวดบวมฟกช้ำ


หลังจากเกิดเหตุตนเองก็ได้ไปติดต่อร้านจักรยานยนต์เพื่อขอภาพกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมซึ่งก็ได้ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบผู้ต้องสงสัยลงรถเมล์ตามน้องมาก่อนจะเข้าทำร้ายน้อง แล้วเดินหลบหนีไป


ทางด้านความรู้สึกวิถีชีวิตของลูกผู้ชายเรื่องชกต่อยมันเป็นเรื่องปกติ แต่ลูกเราเป็นเด็กเรียน อีกอย่าง ถ้าหากทั้ง 2 ฝ่ายมรีเรื่องกันมาก่อน เราจะไม่รู้สึกอะไรมากนัก



ภายหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวคนก่อเหตุได้ 1 คน จากการสอบถามที่ทำไปเพราะด้วยความหมั่นไส้เพียงเท่านั้น ในส่วนผู้ก่อเหตุอีกคนก็อยากจะฝากว่าให้เข้ามามอบตัวกล้าทำก็กล้ารับออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นคุณถ้าโดนรังแกแบบนี้คุณจะยอมไหม


ทางด้านเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายยังคงพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนผู้ก่อเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน. บุปผาราม กำลังติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย