สังคม

เด้ง 3 ตร.นำขบวน นทท.จีน 'ธนกร-ดอน' แจงไม่เกี่ยวข้อง - โซเชียลแฉ 7 บริการพิเศษ คนจีนมาไทย

โดย passamon_a

23 ม.ค. 2566

488 views

จากกรณีร้อนข้ามประเทศ สาวจีนรีวิวใช้บริการตำรวจไทย ลัดคิว ตม. รับถึงประตูเครื่องบิน เดินนำทาง ยกกระเป๋า เปิดประตูรถให้ ขับรถนำขบวนเปิดไซเรน จยย. 6,000 รถเก๋ง 7,000 ถึงที่พัก กลายเป็นคลิปไวรัลแชร์สนั่นทั้งในจีน-ไทย


ล่าสุด โฆษก ตร. เผยต้นสังกัด เด้ง 3 นายตำรวจ นำขบวนเข้ากรุแล้ว พร้อมเร่งตรวจสอบขยายผลการใช้รถ พบเป็นรถส่วนตัวที่ดัดแปลง เข้าข่ายผิดอาญา คาดใช้เวลาไม่นานเร่งสอบขยายผล พร้อมปฏิเสธการให้ข่าวคนขับรถสำนักนายกรัฐมนตรีเอี่ยว ด้านธนกร ยันไม่เกี่ยวข้อง ขณะที่ ก.ต่างประเทศ เผย ดอน ไม่นิยมใช้รถ ตร.นำขบวน



เมื่อวันที่ 22 ม.ค.66 จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีตำรวจท่องเที่ยว 1 นาย คือ ร้อยตำรวจเอกสมพล ภิญโญสโมสร ตำแหน่ง รองสารวัตร กองกำกับการ 3 (รับผิดชอบสนามบินสุวรรณภูมิ) สังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 และตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจร 2 นาย คือ สิบตำรวจเอกธนกร นุกูลธนกิจ และสิบตำรวจเอกธนวัฒน์ สิมะขจรบุญ เป็นผู้ที่ปรากฏอยู่ในคลิปวิดีโอดังกล่าว


ขณะนี้ทั้งสองหน่วยงาน ได้มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมกับให้ย้ายเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการ และอยู่ระหว่างการพิจารณาลงโทษ นอกจากจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผู้ที่ปรากฏอยู่ในคลิปแล้ว ยังมีคำสั่งให้ตรวจสอบถึงผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่ระดับผู้กำกับการ รองผู้กำกับการ และสารวัตร ที่ควบคุมการปฏิบัติงานของตำรวจที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ พร้อมกับให้จเรตำรวจแห่งชาติ เรียกทั้ง 3 คน มาสอบสวนดำเนินการทางวินัยเพิ่มเติม


ขณะที่ภายในกองบังคับการตำรวจจราจร มีรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น เอ็มที-09 เทรเซอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 ขภ 85 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถคันที่ปรากฏอยู่ในคลิปวิดีโอว่าขับรถนำนักท่องเที่ยวจีน จอดอยู่ โดยที่รถคันนี้ไม่มีตราสัญลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ กองบังคับการตำรวจจราจร รวมทั้งป้ายทะเบียนที่เป็นป้ายของรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล แต่มีการตกแต่งโดยติดสัญญาณไซเรน และไฟวับวาบไว้ที่รถด้วย นอกจากนั้นยังมีถุงมือ และผ้าคลุมศีรษะสีดำ วางอยู่ด้านหน้าคอนโซลรถ


มีรายงานว่า ผู้บังคับบัญชาของตำรวจจราจรทั้ง 2 นาย ได้เรียกให้เข้ามาชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่กองบังคับการตำรวจจราจร โดยขณะนี้ยังไม่มีบุคคลใดให้ข้อมูลถึงผลการสอบสวนในเบื้องต้น  


ขณะที่มีรายงานอีกว่า ในส่วนของสิบตำรวจเอกธนกร ทีมข่าวพบว่ามีเอกสารขอตัวช่วยราชการ เพื่อให้ไปขับรถนำขบวนให้กับ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับรถจักรยานยนต์นำขบวน ลงวันที่ 1 มิ.ย.2565 ในหนังสือมีการอ้างถึงคำสั่งเดิม มีกำหนด 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.2564  และขอต่อเวลาช่วยปฏิบัติหน้าที่นำขบวน อีก 1 ปี ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 26 มี.ค.2566


ซึ่งขณะนี้ พบว่าอาจจะใช้เวลานอกราชการรวมกลุ่มกับกลุ่มเพื่อนที่นำขบวนรัฐมนตรีมารับงานประเภทนี้ โดยใช้รถยนต์ส่วนตัว เนื่องจากการตรวจสอบเบื้องต้นยังมีรายงานว่าในส่วนของรถยนต์เก๋งที่ติดสัญญาณไฟไซเรนและโลโก้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลไม่ใช่รถของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่นเดียวกันกับรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่พบจอดอยู่ในกองบังคับการตำรวจจราจร ซึ่งการกระทำดังกล่าวยังไม่ถือว่าเข้าข่ายความผิดวินัยร้ายแรง ส่วนจะมีโทษทางวินัยอย่างไรต้องรอผลการตัดสินของผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของทั้งสองนายอีกครั้ง


ส่วนกรณี ช่อง 7 รายงานว่า พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา โฆษก บช.ทท. เผยว่า จากการสอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น ตำรวจที่อยู่ในคลิป อ้างว่ารถยนต์ที่ติดตราตำรวจ ติดสัญญาณไฟ และรถจักรยานยนต์ ในคลิป เป็นรถส่วนตัวของตนเอง ซึ่งได้รับการประสานงานจากคนขับรถของรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ให้ช่วยอำนวยความสะดวกกับหญิงชาวจีนสองแม่ลูก ไม่ใช่การสั่งการโดยตรงจากกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว


นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมา ยืนยันว่าไม่ใช่ตนอย่างแน่นอน เพราะตนยึดแนวทางการทำงานเหมือนกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ที่เด็ดขาดกับการทุจริต มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์


อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นตนได้สอบถามคนขับรถของตน รวมถึงหน้าห้องของตนทุกคนแล้ว ซึ่งได้รับคำตอบยืนยันว่า ไม่มีใครไปดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างแน่นอน และทราบเรื่องดังกล่าวจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนเช่นกัน ทั้งนี้ หากยังมีข้อสงสัยตนก็พร้อมชี้แจง และยินดีให้ความร่วมมือในการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย เพราะในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ที่เป็นที่ยอมรับในเรื่องการเด็ดขาดกับการทุจริตนั้น ไม่ควรปล่อยให้มีการแอบอ้างชื่อผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลไปดำเนินการในเรื่องที่ไม่สมควร


"ผมยืนยันว่าไม่ใช่ผมแน่นอน และไม่มีความจำเป็นที่ผมจะต้องไปสั่งการให้ทำอะไรแบบนั้นด้วย อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสงสัยผมก็พร้อมชี้แจงและให้ความร่วมมือในการตรวจสอบอย่างเต็มที่ เพราะผมยึดแนวทางการทำงานของท่านนายกฯ เป็นแบบอย่าง ดังนั้นไม่มีทางที่ผมจะไปทำอะไรที่จะทำให้รัฐบาลต้องด่างพร้อยอย่างแน่นอน และจากการสอบถามนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ก็ยืนยันว่าไม่มีใครในทีมไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว"


ขณะที่ นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ออกมายืนยันว่า โดยปกติ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ประสงค์ใช้รถนำขบวนในการปฏิบัติหน้าที่ประจำวัน แต่จะมีการนำขบวนเฉพาะภารกิจที่จำเป็นเท่านั้น และจะแจ้งขอเฉพาะภารกิจ ซึ่งในช่วงที่ไม่มีภารกิจนำขบวน นายตำรวจคนดังกล่าวจะประจำอยู่กับหน่วยต้นสังกัด ไม่ได้มาประจำอยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศ


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/KvodvMHY9iY

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ตำรวจนำขบวนนักท่องเที่ยวจีน

คุณอาจสนใจ